“อาคม” ถกเอกชน หาทางออกเก็บภาษีคริปโท ชี้สรรพากรสรุป ม.ค.นี้

รมว.คลังถกเอกชน หาทางออกเก็บภาษีคริปโท ชี้สรรพากรสรุป ม..นี้ ทั้งการคำนวณภาษีแนวทางการผ่อนผันส่วนระยะต่อไป เล็งออกมาตรการภาษี หนุนสตาร์ตอัพเติบโตในไทย

วันที่ 25 มกราคม 2565 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับกรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (...) และสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย ว่า ได้มารับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน โดยยังต้องมีการหารือร่วมกันต่อ ทั้งในเรื่องการเก็บภาษีที่ยังต้องรับฟังความเห็นในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งข้อเรียกร้องจากฝั่งเอกชนที่เสนอมาในหลาย ๆ ด้าน ยังไม่ได้สรุป กรมสรรพากรกำลังเร่งสรุปรายละเอียดอยู่ โดยจะแล้วเสร็จภายในเดือน ม.. 65 เพื่อให้ทันการยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่กำหนดถึง 30 มี.. 65

ระยะแรกในการเก็บภาษีคริปโทเคอร์เรนซี จะมีการผ่อนปรนส่วนใดนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งกรมสรรพากรจะทำให้การยื่นแบบภาษีมีแนวทางที่ชัดเจน โดยที่ผ่านมาการเสียภาษีในเรื่องดังกล่าว ก็มีตั้งแต่ปี 2561 เพียงแต่ว่าผู้ประกอบการอยากจะขอยกเว้น และผ่อนปรน กระทรวงการคลังก็จะพิจารณาว่าทำได้หรือไม่ ส่วนรอบชำระภาษีเดือน มี.. 65 นั้น เป็นรอบชำระภาษีบุคคลธรรมดา ต้องมีความชัดเจนในเรื่องการคำนวณ และมีการผ่อนผันอย่างไร ซึ่งจะทำให้เสร็จภายในเดือน ม..นี้

ทั้งนี้ ทางออกในการเก็บภาษีจะต้องพิจารณาทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยจะมีทั้งนโยบายสนับสนุนที่จะเดินควบคู่ไปกันไปและต้องปรึกษาหารือกัน ในส่วนที่เร็ว หรือช้าเกินไป ในเรื่องระบบนิเวศที่จะทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามาส่งเสริมเศรษฐกิจได้ โดยจะแบ่งเป็น ประเด็นภาษี ที่จะต้องไปหารือในรายละเอียด และแนวทางการส่งเสริมอีโคซิสเต็ม เช่นการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อสนับสนุนกลุ่มสตาร์ทอัพให้เติบโตขึ้นได้ โดยมาตรการภาษีจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะสร้างแรงจูงใจในการปรับตัว ซึ่งเร็วๆ นี้ จะมีการช่วยเหลือทางด้านสตาร์ทอัพ ที่กระทรวงการคลังต้องการจะสนับสนุน โดยใช้มาตรการภาษีเข้าไปดูแล

นายอาคมกล่าวว่า นโยบายสำหรับคริปโทเคอร์เรนซีนั้น มีทั้งการส่งเสริมและสนับสนุนให้เติบโต แต่จะต้องอยู่ในกรอบของการกำกับดูแลที่ดีเหมือนกับประเทศอื่น ๆ ซึ่งก็จะดูตัวอย่างจากประเทศอื่นด้วย ซึ่งประเทศที่เสรีเลยก็มีประเทศกำกับควบคุมก็มี อย่างไรก็ดี จะต้องมีการกำกับดูแลเหมือนกับตลาดหุ้น โดยในข้อกฎหมายนั้น ...ก็เป็นผู้กำกับดูแลอยู่

ส่วนสินทรัพย์ดิจิทัล จะเป็นสกุลเงินเหมือนบางประเทศหรือไม่นั้น จะต้องรอฟังแนวทางจาก ... และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เนื่องจากขณะนี้การดำเนินการยังไม่ชัดเจน โดยเฉพาะระบบการเงิน ซึ่งบางประเทศก็ออกมาเร็วมาก ในการใช้เป็นศูนย์กลางในการรับชำระเงิน ฉะนั้น จะต้องระวัง อย่างไรก็ดี หากนำไปสู่การลงทุนก็จะไม่มีปัญหา