ปี’64 เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางถนน 1.3 หมื่นราย “กลุ่มวัยทำงาน” ตายสูงสุด

รถติด

ศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุทางถนน บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด เผยปี’64 คนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมากกว่า 13,000 ราย เฉลี่ยวันละ 36 ราย “คนวัยทำงาน” อายุตั้งแต่ 25-60 ปี ตายมากถึง 54% หรือกว่า 7,000 ราย สาเหตุหลัก “พฤติกรรมของคน-สภาพของรถ” แนะองค์กรรัฐ-เอกชนเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด รายงานว่า อุบัติเหตุทางถนนนั้น ผู้เสียชีวิตประมาณ 1 ใน 3 เกิดขึ้นขณะที่ใช้รถใช้ถนนเพื่อทำงาน และหากนับรวมอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้นในระหว่างการเดินทางไปทำงานและกลับบ้านด้วย ตัวเลขจะเพิ่มขึ้น

จากข้อมูล www.thairsc.com หรือศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุทางถนน พบว่าในปี 2564 ที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมีมากกว่า 13,000 ราย หรือเฉลี่ยวันละ 36 ราย โดยเป็นกลุ่มคนวัยทำงานอายุตั้งแต่ 25-60 ปี เสียชีวิตมากถึง 54% หรือประมาณกว่า 7,000 ราย

สาเหตุของความสูญเสียของกลุ่มวัยทำงานมาจากปัจจัยเกี่ยวกับ “พฤติกรรมของคน” และ “สภาพของรถ” เป็นสำคัญ จากข้อมูลพบว่ากลุ่มคนทำงานเสียชีวิตจากรถ “จักรยานยนต์” มากที่สุด จำนวนมากว่า 5,800 ราย และมีสถานะเป็น “ผู้ขับขี่” จำนวนมากกว่า 5,000 ราย

Advertisment

ดังนั้นการเดินทางไปกลับระหว่างบ้านกับที่ทำงานในทุก ๆ วัน นอกเหนือจากกฎจราจรที่ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องยึดถือปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยแล้ว หน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ก็สามารถร่วมกันเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน ป้องกันการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของพนักงานได้ด้วยการมีมาตรการองค์กรคือ

“กฎบัตรหรือข้อบังคับขององค์กรหรือหน่วยงาน” ที่กำหนดขึ้น โดยผู้บริหารให้เป็นนโยบายองค์กร โดย “กฎบัตรหรือข้อบังคับ” เปรียบเสมือน “กฎหมาย” ขององค์กร ในเรื่องความปลอดภัยทางถนน ที่กำหนดขึ้นเพื่อให้พนักงานในองค์กรต้องยึดถือปฏิบัติ

ซึ่งจะมีการกำหนดบทลงโทษ หากมีการฝ่าฝืน หรือการให้รางวัล หากพนักงานปฏิบัติตนตามข้อบังคับ ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของพนักงานในองค์กร ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาองค์กรและประเทศ จะทำให้พนักงานในองค์กร มีวินัย มีความปลอดภัยจากการใช้รถใช้ถนนมากขึ้น

“อุบัติเหตุทางถนน” ถ้าทุกคน ทุกหน่วยงาน ทุกองค์กรช่วยกันก็จะสามารถหยุดการเกิดอุบัติเหตุได้ เริ่มที่ตัวเรา ปฏิบัติตามกฎจราจร ไม่ขับรถเร็ว เพื่อลดความเสี่ยง และสำหรับผู้ใช้จักรยานยนต์ อย่าลืมสวมหมวกกันน็อก ทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้าย เพราะจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูง ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายต้องมีอุปกรณ์นิรภัย คือ หมวกกันน็อก ไว้ป้องกัน หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นก็ช่วยลดความรุนแรงลงได้

Advertisment

หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น และรถที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุนั้นมีประกันภัย พ.ร.บ. ผู้ประสบภัยจากรถทุกคนก็จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ผู้เสียชีวิตจะได้รับความคุ้มครอง 500,000 บาท ผู้บาดเจ็บจะได้ความคุ้มครองเป็นค่ารักษาพยาบาลตามความเสียหายที่แท้จริงสูงสุดไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน

ผู้ประสบภัยจากรถสามารถติดต่อใช้สิทธิได้ที่บริษัทประกันภัยที่รับประกันภัยรถของตนเองหรือที่บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด มีสาขาให้บริการทุกจังหวัดทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่บริษัทกลางฯ Call Center 1791 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่ www.rvp.co.th