สลากฯ ลุยตรวจโควตา 30 ล้านฉบับ คัดผู้ค้าหวย 80 บาทตัวจริง

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต
นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต

สลากฯ เปิด 4 วิธีคัดตัวจริง ขายหวย 80 บาท ลุยตรวจโควตา 30 ล้านฉบับ “มูลนิธิ-องค์กรกุศล” ต้องเข้ามาคัดกรองด้วย พร้อมขอข้อมูลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคัดกรองผู้ค้ารายใหม่ 7 หมื่นคน ชี้ไม่ทันกำหนดขายจริง 2 พฤษภาคม นี้

วันที่ 24 มีนาคม 2565 นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสลากฯ มีมติให้มีการคัดกรองผู้ขายสลากตัวจริง โดยจะมีการคัดกรองผู้ขายใหม่ทั้งระบบที่มีอยู่ 100 ล้านฉบับ ซึ่งนอกจากจะมีการคัดกรองผู้มีสิทธิซื้อจองที่ลงทะเบียนไว้เดิมตั้งแต่ปี 58 จำนวน 1.3 แสนรายแล้ว จะมีการคัดกรองในกลุ่มตัวแทนจำหน่ายสลากถาวร เช่น มูลนิธิ องค์กรการกุศล นิติบุคคล รวมถึงบุคคลธรรมดา ที่มีสัดส่วนสลากอยู่ประมาณ 30 ล้านฉบับด้วย เพื่อให้ได้ผู้ค้าสลากตัวจริงที่จำหน่ายราคา 80 บาท ทั้งระบบ

ส่วนการคัดกรองผู้ค้ารายใหม่ที่เปิดลงทะเบียนเมื่อช่วงต้นปี 65 ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนทั้งหมด 8.7 แสนราย เบื้องต้นจะมีการคัดกรองเพื่อรับสิทธิ 7 หมื่นราย เพื่อนำมารวมกับผู้ค้ากลุ่มเดิม ให้ได้จำนวน 2 แสนราย ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยทางสำนักงานได้ประสานขอข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการปกครอง กรมบัญชีกลาง สำนักงานประกันสังคม กองทุนการออมแห่งชาติ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง มาประกอบการพิจารณา เพื่อตรวจสอบการประกอบอาชีพซ้ำซ้อน และจะใช้เป็นข้อมูลในการพิจารณาต่อไป

สำหรับวิธีการคัดกรองนั้นจะเป็นรูปแบบเดียวกันทั้งระบบ ผ่าน 4 วิธี ได้แก่ 1.การคัดกรอง โดยให้ผู้ซื้อยืนยันการขายในราคา 80 บาทผ่านคิวอาร์โค้ด 2.การซื้อขายผ่านแอปเป๋าตัง และ ถุงเงิน 3.ได้ประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศให้ส่งรายชื่อผู้ค้าตัวจริงในพื้นที่ เพื่อนำมาใช้ในการคัดกรอง และ 4.ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานตำรวจภูธร 9 ภาค และนครบาลทั่วประเทศ ในการลงพื้นที่เก็บข้อมูลผู้ค้าในพื้นที่รับผิดชอบ

“ผู้มีสิทธิซื้อจองที่ลงทะเบียนไว้ตั้งแต่ปี 58 จะต้องยืนยันตัวตนว่าเป็นผู้จำหน่ายสลากราคา 80 บาทตัวจริง รวมทั้งกลุ่มระบบโควตาด้วย โดยจะต้องไปดาวน์โหลดคิวอาร์โค้ดจากเว็บไซต์สำนักงานสลาก แล้วให้ผู้ซื้อสลากเป็นผู้สแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อยืนยันว่าเป็นผู้จำหน่ายสลากจริงในราคา 80 บาท หรือใช้วิธีการยืนยันด้วยการจำหน่ายสลากผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” และ “ถุงเงิน” เพื่อยืนยันการจำหน่ายสลากตามราคา”

ทั้งนี้ จะมีการนำข้อมูลทั้ง 4 ด้านมาประมวลผลเพื่อหาผู้ค้าตัวจริง โดยได้มีการปรับระยะเวลาในการคัดกรองเพื่อให้ผู้ซื้อและผู้ขายได้มีการปรับตัว โดยช่วงวันที่ 16 มีนาคม และงวดวันที่ 1 และ 16 เมษายน 65 เป็นช่วงการทดสอบระบบและเตรียมความพร้อม หลังจากนั้นจึงจะมีการกำหนดเวลาคัดกรองผู้ค้าตัวจริงอีกครั้ง ทำให้ไม่ทันตามกำหนดที่จะเริ่มขายจริงในงวดวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 อย่างไรก็ตาม จากการที่เริ่มทดลองในช่วงงวดวันที่ 1 มีนาคม ได้มีผู้ซื้อสแกนคิวอาร์โค้ดยืนยันให้กับร้านค้ามาแล้วประมาณ 1.2 ล้านครั้ง

“ตอนนี้ผู้ค้ารายเดิม ยังสามารถจองซื้อสลากได้ตามปกติ จนกว่าทางสำนักงานสลากจะมีการคัดกรอง และมีการประกาศรายชื่อผู้ค้าตัวจริง ทั้ง 2 แสนรายแล้ว ซึ่งอาจไม่ทันงวดวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 ที่เคยได้กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากการประชาสัมพันธ์ยังไม่ทั่วถึง และมีผู้ลงทะเบียนสมัครเป็นผู้ค้าเข้ามาจำนวนมากเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ต้องใช้เวลาในการคัดกรองเพิ่ม”

นายลวรณกล่าวว่า สำหรับโครงการสลาก 80 จะสามารถเริ่มขาย เฟสสองในส่วนของกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และภาคกลาง 18 จังหวัด รวม 228 จุด ได้ทันงวด 2 พฤษภาคม 2565 ส่วนผู้สมัครเข้าร่วมโครงการในจังหวัดต่างๆ ทางภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออกและภาคใต้ อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการคัดเลือกอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ ในการดำเนินการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์โดยสำนักงานสลากฯ นั้น อยู่ระหว่างพัฒนาระบบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งจะมีการขายผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตังโดยตรงซึ่งขนาดนี้จะมีการกำหนดทดสอบช่วงเดือนเมษายนและคาดว่าจะขายจึงได้ในช่วงเดือนพฤษภาคม -มิ.ย. โดยโดยระบบนี้จะมีการขายสลากไม่เกิน 80 บาทและยังให้ผู้ซื้อมีการลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อป้องกันการนำไปซื้อขายเปลี่ยนมือและเก็งกำไรในอนาคตได้