“อาคม” ยื้อปรับกรอบเงินเฟ้อ ขอคุย ธปท. ประเมินสถานการณ์

รมว.คลัง ยังไม่สรุปปรับกรอบเงินเฟ้อ ขอคุย ธปท. ประเมินสถานการณ์ระยะสั้น-ยาว ชี้หากทั้งปียังไม่หลุดกรอบ 3% คลังยังไม่มีมาตรการมาดูแล

วันที่ 31 มีนาคม 2565 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินว่า ในช่วงไตรมาส 2 สถาณการณ์เงินเฟ้อจะมีแนวโน้มสูงขึ้น 5% ซึ่งอาจจะหลุดกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ 1-3% นั้น

มองว่ากรอบ 1-3% เป็นเป้าหมายของกรอบเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปี ฉะนั้น ต้องกลับมาดูว่า การทบทวนเป้าหมายในระยะสั้น ที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องราคาน้ำมัน และราคาอาหาร จะมีผลกระทบต่อดัชนีราคาสินค้าเพียงใด ที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อทั้งปีเฉลี่ยแล้วเกิน 3%

แต่หากสถานการณ์ราคาน้ำมันดีขึ้น อาจทำให้เงินเฟ้อในระยะสั้นหลุดกรอบไปบ้าง แต่ถ้าอัตราเฉลี่ยทั้งปียังอยู่ในกรอบ 1-3% คลังก็จะยังไม่มีมาตรการอะไรออกมาดูแลเพิ่มเติม

“การขยับกรอบอัตราเงินเฟ้อต้องหารือกับ ธปท. เพราะเป็นเรื่องของการเงินการคลัง ซึ่งต้องมาคุยกันว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงจะยาวนานแค่ไหน ที่จะทำให้เงินเฟ้อของไทยเกินกรอบทั้งปี ที่ตั้งไว้ 3% แต่ถ้าเป็นระยะสั้น อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง และทั้งปี เฉลี่ยไม่ถึง 3% ก็ไม่มีความจำเป็นต้องมีการปรับกรอบอัตราเงินเฟ้อใหม่”

ขณะที่ ธปท.ประมาณการว่า เงินเฟ้อจะพุ่งสูงขึ้นนานตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ก็ต้องมีการหารือร่วมกันอีกครั้ง รวมทั้งต้องประเมินสถานการณ์ว่าหากในไตรมาส 2 และ 3 อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงอยู่ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย

โดยเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนจะยืดเยื้อแค่ไหน รวมทั้งการจัดการเรื่องของต้นทุนราคาสินค้า โดยเฉพาะเรื่องราคาอาหารสัตว์ และราคาน้ำมัน อย่างไรก็ดี หากสามารถจัดการส่วนนี้ได้เร็ว ก็จะช่วยให้ราคาสินค้าไม่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงไตรมาส 2 และ 3

อย่างไรก็ดี สิ่งที่จะช่วยทำให้อัตราเงินเฟ้อในระยะสั้นไม่สูงเกินไป คือการใช้มาตรการระยะสั้นที่รัฐบาลออกมาในการตรึงราคาน้ำมัน แต่หากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นไปสูงอีกถึง 150 เหรียญต่อบาร์เรล ทุกประเทศก็จะได้รับผลกระทบจากปัญหาเดียวกัน


ซึ่งหากสถานการณ์นั้นเกิดขึ้น อาจจะต้องขอความกรุณาจากภาคประชาชนแบ่งเบาภาระค่าราคาน้ำมันไปครึ่งหนึ่ง และรัฐบาลก็ยังคงจะช่วยดูแลอยู่ ส่วนการช่วยเหลือในเรื่องค่าครองชีพ ทั้งเรื่องราคาค่าแก๊สหุงต้ม และค่าไฟฟ้า รวมถึงช่วยเรื่องน้ำมันเบนซินให้กับกลุ่มคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ส่วนนี้จะช่วยให้ราคาสินค้าที่สูงขึ้นในปัจจุบันทุเลาลง