SCB ปรับลดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้ “ยานแม่”

ธนาคารไทยพาณิชย์

ผู้ถือหุ้น SCB เคาะจ่ายปันผลอีกหุ้นละ 2.63 บาท เป็นเงิน 8,940 ล้านบาท พร้อมอนุมัติเปลี่ยนแปลงเงินปันผลระหว่างกาลให้ “เอสซีบี เอกซ์” รวมถึงผู้ถือหุ้นอื่น ๆ จากราว 7 หมื่นล้านบาท เป็น 6.1 หมื่นล้านบาท

วันที่ 4 เมษายน 2565 ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ว่าที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น วันที่ 4 เม.ย. 2565 มีมติรับทราบรายงานประจำปีของคณะกรรมการ อนุมัติงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2564 ที่ผู้สอบบัญชีได้ตรวจสอบแล้ว

รวมถึงอนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2564 ให้แก่ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิและผู้ถือหุ้นสามัญ ในอัตราหุ้นละ 4.06 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 13,801 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลร้อยละ 40.0 ของกำไรสุทธิประจำปี 2564 ตามงบการเงินเฉพาะธนาคาร ซึ่งสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทยในปี 2564

และรับทราบการจัดสรรกำไรสำหรับงวดครึ่งหลังของปี 2564 ที่เหลือจากการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ (CET1) ซึ่งจะทำให้เงินกองทุนทั้งสิ้นของธนาคาร ณ วันที่ 30 เมษายน 2565 (ตามที่ประมาณการไว้) มีจำนวนทั้งสิ้น 432,897 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 18.6 ของสินทรัพย์เสี่ยง และเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของมีจำนวนทั้งสิ้น 407,720 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 17.5 ของสินทรัพย์เสี่ยง

โดยที่ธนาคารได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิและผู้ถือหุ้นสามัญไปแล้วเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2564 ในอัตราหุ้นละ 1.43 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 4,361 ล้านบาท ดังนั้น คงเหลือเงินปันผลส่วนที่ธนาคารจะต้องจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิและผู้ถือหุ้นสามัญอีกหุ้นละ 2.63 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 8,940 ล้านบาท

การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวให้จ่ายแก่ผู้ถือหุ้นเฉพาะผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามข้อบังคับของธนาคาร ตามที่ปรากฏรายชื่อ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 เมษายน 2565 โดยขอให้ผู้ถือหุ้นใช้สิทธิรับเงินปันผลภายในกำหนดระยะเวลา 10 ปี

นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติการเปลี่ยนแปลงจำนวนเงินปันผลระหว่างกาลที่ธนาคารจะจ่ายจากกำไรสุทธิประจำปี 2564 และกำไรสะสมตามงบการเงินเฉพาะล่าสุดของธนาคาร ให้แก่ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) และผู้ถือหุ้นรายอื่น ๆ ในขณะนั้นของธนาคาร จากจำนวนประมาณ 70,000 ล้านบาท เป็นจำนวนประมาณ 61,000 ล้านบาท โดยให้คงเงื่อนไขการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลดังกล่าวที่กำหนดไว้ตามเดิม


นอกจากนี้ เนื่องจากธนาคารมีทุนสำรองครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของธนาคารแล้ว ธนาคารจึงมิได้จัดสรรกำไรสุทธิจากผลการดำเนินงานปี 2564 ของธนาคารเป็นทุนสำรองตามกฎหมายและข้อบังคับของธนาคารอีกแต่อย่างใด