กฤษณ์ เปิดใจลาออกซีอีโอ AIA นั่งเก้าอี้ใหญ่แบงก์ไทยพาณิชย์

กฤษณ์ จันทโนทก
กฤษณ์ จันทโนทก

กฤษณ์ จันทโนทก โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เปิดใจลาออกซีอีโอ ‘เอไอเอ ประเทศไทย’ คนไทยคนแรกที่นั่งบริหารงาน เผยชีวิตการทำงานเป็นเวลา 5 ปีขึ้นจุดสูงสุด ความผูกพันเหมือนครอบครัว เตรียมนั่งเก้าอี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแบงก์ไทยพาณิชย์ 1 สิงหาคม 2565 นี้

วันที่ 2 เมษายน 2565 นายกฤษณ์ จันทโนทก ว่าที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย(สิ้นสุดการทำงาน 30 เม.ย.65) ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมาผมมีความกังวลและลำบากใจในการตัดสินใจที่มองเหมือนว่าต้องออกจากครอบครัวใหญ่แห่งนี้ ครอบครัวที่ผมมีความภูมิใจในการเรียก หลายๆ ท่านในองค์กรอันทรงเกียรติแห่งนี้ มากกว่าคำว่า “เพื่อนร่วมงาน”

ผมขอเล่าเรื่องสั้นๆ ซึ่งถือเป็นบทเรียนของความเข้าใจคำว่า “ครอบครัว” ที่บอกเลยว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตที่สัมผัสและได้รับจากเอไอเอ

ย้อนกลับไปในเดือนมีนาคม 2560 ผมได้มีโอกาสพบบุคคลท่านแรกจากบริษัทเอไอเอก็คือพี่เกิ้น ปกิตติ บุญเกียรติ ในวันนั้นผมและพี่เกิ้นทำความรู้จักกันอย่างรวดเร็วซึ่งภายในระยะเวลาเพียง 1 ชั่วโมง ผมรู้สึกว่า พี่เกิ้น เอ็นดูผมเหมือนน้องชายและมีความรู้สึกที่จับได้จากใจจริงว่าต้องการให้ผมสำเร็จเพราะท่านต้องการให้ AIA สำเร็จ ในวันนั้นผมเริ่มรู้สึกถึงคำว่าครอบครัว ซึ่งเป็นคำจำกัดความที่ผมได้ยินคนที่อยู่ข้างนอกเอเอไอพูดถึงเสมอแต่ก็ยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้

ในเดือนเมษายนปีเดียวกันซึ่งผมเพิ่งมาเริ่มปฎิบัติหน้าที่ได้เพียงสองสัปดาห์โดยท่านประธานธัลดลจัดงานสงกรานต์ตามประเพณีที่สืบมาทุกปี วันนั้นผมได้เห็นทำเนียมปฏิบัติอันดีงามของพี่ๆ ท่านที่ปรึกษาอาวุโสฝ่ายขายในการมอบความรักให้กับท่านประธานอย่างจริงใจและมีเรื่องตลกที่ยังพูดคุยกันจนถึงวันนี้คือ เนื่องจากผมยังใหม่มาก ที่ปรึกษาวุโสฝ่ายขายบางท่านยังคิดว่าผมเป็นลูกใครสักคนไม่ใช่ผู้บริหารองค์กร แต่วันนั้นผมเองก็ยังไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของ “ครอบครัวเอไอเอ”

เวลาผ่านไปหลายเดือนจนเป็นปี….ผมได้เดินสายพบปะหัวหน้าหน่วย พลังตัวแทน ท่านเจ้าของสำนักงานทั่วประเทศไทย โดยหลาย ท่านทั้งที่ผมเพิ่งได้รู้จักกันครั้งแรก แต่มอบความรู้สึกดีๆ ความไว้วางใจ ความมั่นใจ ให้ผมได้ปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถเท่าที่ตนจะทำได้ พี่ๆหลายท่านเป็นเสมือนหนึ่งเป็นผู้ปกครองผมเลยก็ว่าได้ จะป่วยจะไข้จะเป็นอะไรอย่างไรนึกถึงผมเสมอ ทั้งทั้งที่ผมไม่ได้เคยให้คุณให้โทษอะไรพี่ๆ เหล่านั้นแม้แต่น้อย ซึ่งทำให้ผมเริ่มเข้าใจของคำว่า “ครอบครัวเอไอเอ” มากขึ้น

มาจนถึงเมื่อหนึ่งปีกับหนึ่งไตรมาสที่แล้ววันที่ผมได้รับการประกาศแต่งตั้งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผมมีความกังวลว่าความรู้สึกของครอบครัวเอไอเอนั้นจะหยุดอยู่ที่แค่เอเจนซี่และสุดท้ายงานของการเป็น CEO เอไอเอจะโดดเดี่ยวและไม่มีความสุข

แต่สุดท้ายมาถึงวันนี้ ผมก็ยืนยันได้ว่าความกังวลของผมไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อยเพราะผู้บริหารระดับสูงทุกท่าน หัวหน้าแผนกทุกฝ่าย เพื่อนพนักงานทุกคน ให้ความรัก ความเป็นห่วง และความจริงใจกับผมและที่สำคัญกับบริษัทมาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ผมมั่นใจว่าคำว่า “ครอบครัวเอไอเอ” อยู่ในทุกมิติของเอไอเอประเทศไทย

ตลอดสถานการณ์โควิดนั้นการเดินทาง ไปต่างประเทศและสำนักงานใหญ่เป็นไปได้ลำบาก ดังนั้นการปฏิสัมพันธ์กับต่างประเทศเป็นการสื่อสารผ่านไมโครซอฟท์ ทีมส์ (MST) เป็นหลักซึ่งทำให้ผมเข้าใจว่าวัฒนธรรมของครอบครัวคงจะหยุดอยู่เพียงแค่ประเทศไทย

แต่สุดท้ายความเข้าใจของผมก็ผิดอย่างสิ้นเชิง เพราะแม้กระทั่งในวันที่ผมแจ้งคุณ ลี หยวน ซอง และ คุณ บิล ไลส์ ถึงความจำเป็นที่ผมต้องไปรับบทบาทหน้าที่ใหม่ ทั้งสองท่านมีแต่ความจริงใจและหวังดีต่อประเทศไทยเพื่อนพนักงานและตัวผมโดยปราศจากเงื่อนไขทางธุรกิจ

ผมคงไม่สามารถเล่ารายละเอียดได้ทั้งหมด แต่หลายท่านที่รู้จักผมดีจะทราบว่าผมไม่ได้เป็นสายอวยครับ เรียนด้วยความสัตย์จริงว่าทั้งสองท่านโดยเฉพาะคุณบิล ถือเป็นเจ้านายที่ผมเคารพรักและพร้อมที่จะสนับสนุนทุกกรณีทุกเวลาและเกินกว่าบทบาทของความเป็นเจ้านายลูกน้อง

จากเหตุการณ์ข้างต้น ผมขอสรุปว่าสิ่งที่ทำให้ AIA แตกต่างจาก บริษัทประกันชีวิตอื่นคือความเป็นครอบครัว “ครอบครัว” ที่ห่วงหาอาทรซึ่งกันและกัน ให้กำลังใจซึ่งกันและกันและพร้อมช่วยกันในการบรรลุทุกเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องงาน ซึ่งความเข้มแข็งขององค์กรนี้ จะไม่สามารถถูกลอกเลียนแบบได้อย่างแน่นอน

สิ่งที่ผมได้ฝากผู้บริหารไว้ว่าเป็น mindset ที่สำคัญและจะทำให้เอไอเอเป็นหนึ่ง ยืนหนึ่ง ที่หนึ่ง ตลอดไปคือแนวทางการบริหารงานตามทฤษฎี เก้าอี้สามขาโดย

1. Customer must win / ลูกค้าต้องชนะ
2. Agency needs to win / ตัวแทนควรชนะ
3. Only then Company will win / บริษัทถึงจะชนะ

การไปถึงสมดุลนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ผมเชื่อว่าตลอด 5 ปีที่ผ่านมาบนการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด ผมเชื่อมั่นอย่างสุดใจว่าเอไอเอประเทศไทยทำสำเร็จอย่างแน่นอน

ผมขอขอบคุณ:

– คุณเค็งฮุย ที่เปิดประตูบานแรกเข้าสู่เอไอเอ

– คุณหยวนซองและคุณบิลที่ไว้ใจให้ผมนำองค์กรแห่งนี้

– ขอบคุณพี่เกิ้น & พี่หยา ที่เอ็นดูผมเหมือนน้อง

– คุณธัลดลที่สร้างฝ่ายขายที่เข้มแข็งที่สุดในประเทศไทย

– ทีมสนับสนุนฝ่ายขาย ท่าน 5RH, 20DH หัวหน้าแผนกเอเจนซี่ทุกๆคน

– เพื่อนพนักงานเอไอเอทุกแผนก ทุกฝ่าย และทุกคน

– ขอบคุณฝ่ายขายที่ดีที่สุดใน 3 โลก พี่ๆ SAC/ PSAC/ GA, TAFEB (พี่เปี๊ยกและคณะ) , GAC (พี่จุ๋มและคณะ) , LICA (เฮียยุทคุณโจและคณะ), MDRT (เฮียกฤษพี่โต๊ะและคณะ ) & HNW (พี่เปี๊ยกพี่เฮ้าส์และคณะ) Ambassador ทุกท่าน, GAMA (พี่หมงและคณะ)

– และอีกหลายหลายท่านที่คงไม่สามารถจะกล่าวได้หมด

สุดท้ายนี้:

1. อยากให้ทุกท่านมั่นใจครับว่าเราเป็นบริษัทประกันชีวิตที่ดีที่สุดในประเทศไทย และบริษัทประกันชีวิตที่ดีที่สุดในโลก ไม่ว่าอะไรจะเกิดยังไง AIA คือครอบครัวผมเสมอครับ ผมก็ยังเป็นทั้งน้องและพี่ของทุกท่านเสมอไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทใดก็ตาม

2. ฝากผู้นำในรุ่นต่อของเอเยนซี่ให้ระลึกเสมอ ว่า “คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ” หากเราไม่ยึดติดในหัวโขน มุ่งเน้นการทำงานอย่างเต็มที่ความสำเร็จจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ขอให้ท่านแวดล้อมตัวเองไปกับคนที่มี “ความคิดเห็นต่าง” ทางสว่างจะเกิดขึ้น ที่สำคัญระบบสำคัญกว่าคนเสมอ

“ผมยังไม่ได้ไปไหนซะทีเดียวนะครับ ยังมีเวลาอีกเดือนหรือสองเดือนในการร่วมงานกัน ขอให้มั่นใจว่าผมจะทำอย่างเต็มที่และไม่แตกต่างจากวันแรกที่รับตำแหน่งเข้ามาในครอบครัวแห่งนี้”


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารของ “กฤษณ์ จันทโนทก” จะมีผลในวันที่ 1 สิงหาคม 2565 นี้ โดยจะไปนั่งเก้าอี้ซีอีโอธนาคารไทยพาณิชย์แทนนาย อาทิตย์ นันทวิทยา ที่จะพ้นตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารไทยพาณิชย์ ในวันที่ 31 ก.ค. 2565 และจะไปดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCBX แทน (คลิกอ่านรายละเอียดท้ายข่าว)