กรุงเทพประกันชีวิต Q1 กำไร 801 ล้าน ลดลง 19% กรมธรรม์ปีต่อครบชำระเบี้ย

“กรุงเทพประกันชีวิต” ไตรมาส 1/2565 กำไรสุทธิ 801 ล้านบาท ลดลง 19% เหตุกรมธรรม์ปีต่อครบกำหนดชำระเบี้ย เผยดอกเบี้ยบอนด์ยีลด์พุ่งดันระดับเงินกองทุนสิ้นไตรมาส 1 แตะ 329%

วันที่ 16 พฤษภาคม 2565 นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1/2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 801 ล้านบาท คิดเป็นกำไร 0.47 บาทต่อหุ้น ลดลง 19% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากการลดลงของเบี้ยประกันภัยรับปีต่อจากกรมธรรม์ที่ครบกำหนดชำระเบี้ย

โดยเบี้ยรับปีต่อ จำนวน 7,666 ล้านบาท ลดลง 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นไปตามที่บริษัทคาดการณ์จากผลิตภัณฑ์ที่ครบกำหนดชำระเบี้ยในช่องทางธนาคาร ทั้งนี้บริษัทมีสัดส่วนเบี้ยประกันภัยรับปีต่อในช่องทางธนาคาร ตัวแทน และช่องทางอื่น ๆ คิดเป็น 58%, 34% และ 8% ตามลำดับ

โดยบริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรก จำนวน 1,405 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีเบี้ยรับปีแรกเติบโตเพิ่มขึ้นในทุกช่องทาง โดยช่องทางธนาคารมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกเพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเบี้ยประกันภัยรับ MRTA ที่เพิ่มขึ้น ช่องทางตัวแทนมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกเพิ่มขึ้น 1%

ขณะที่ช่องทางอื่น ๆ มีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกเพิ่มขึ้น 6% ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันภัยรับปีแรกในช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ทั้งนี้บริษัทมีสัดส่วนเบี้ยปีแรกจากช่องทางธนาคาร 54% ช่องทางตัวแทน 28% และช่องทางอื่น ๆ 18%

ขณะที่มีเบี้ยประกันภัยรับรวม จำนวน 9,071 ล้านบาท ลดลง 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 13% จากไตรมาสก่อนหน้า มีเบี้ยประกันภัยรับรวมจากช่องทางธนาคาร 57% ช่องทางตัวแทน 34% และช่องทางอื่น ๆ 9%

มีรายได้จากการลงทุนสุทธิในไตรมาส 1/65 รวมทั้งสิ้น 2,970 ล้านบาท ลดลง 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลที่ลดลงเล็กน้อย โดยบริษัทมีผลตอบแทนจากการลงทุนในไตรมาสนี้อยู่ที่ 3.98% เพิ่มขึ้นจาก 3.92% ในช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการรับรู้ผลกำไรจากเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนปรับเพิ่มขึ้นจาก 3.78% ในไตรมาส 4/64 จากเงินปันผลที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล

สำหรับอัตราผลตอบแทนจากดอกเบี้ยและเงินปันผล (Investment Yield) ณ สิ้นไตรมาส 1/65 อยู่ที่ 3.63% ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 11bps ตามรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลที่ลดลง

และมีค่าใช้จ่ายรวมในไตรมาส 1/65 จำนวนทั้งสิ้น 10,907 ล้านบาท ลดลง 6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นการลดลงจากทั้งค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยและค่าใช้จ่ายดำเนินงาน

โดยมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio) ณ สิ้นไตรมาส 1/65 อยู่ที่ 329% เพิ่มขึ้นจาก 301% ณ สิ้นปี 2564 จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล ที่ส่งผลให้มูลค่าเงินกองทุนของกิจการเพิ่มขึ้น