หุ้น-การเงิน

BTS กำไรสุทธิปี 64/65 วูบ 16% เหตุรถไฟฟ้าสายสีชมพู-สีเหลืองสะดุด

BTS

บีทีเอส หรือ BTS รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ กำไรสุทธิรอบปี 64/65 วูบ 16% เหตุรายได้จากงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู-สีเหลือง สะดุดโควิดไม่เป็นไปตามเป้า

วันที่ 31 พฤษภาคม 2565 บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ว่า ผลการดำเนินงานของบริษัท ประจำปี 2564/65 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 3,826 ล้านบาท ลดลง 16% จากปีก่อน (YOY) โดยมีรายได้รวม 31,195 ล้านบาท ลดลง 26.2%YOY และ รายได้จากงาน O&M 6,304 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18%YOY ส่วน Recurring EBITDA อยู่ที่ 8,116 ล้านบาท ลดลง 8%YOY

โดยรายได้รวมที่ลดลงมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของ (1) รายได้จากการให้บริการรับเหมา จำนวน 11,713 ล้านบาท จากการลดลงของรายได้งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง รวมถึงรายได้จากการให้บริการติดตั้งงานระบบและการจัดหารถไฟฟ้าขบวนใหม่สำหรับโครงการส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือที่ลดลง

เนื่องจากอยู่ในช่วงท้ายของการก่อสร้าง (2) กำไรจากการขายที่ดิน จำนวน 1,497 ล้านบาท อย่างไรก็ดี การลดลงของรายได้รวมบางส่วนถูกชดเชยด้วย (3) รายได้จากการบริการและการขายที่เพิ่มขึ้น จำนวน 2,744 ล้านบาท จากการควบรวมผลการดำเนินงาน Fanslink โดยวีจีไอ ซึ่งเริ่มควบรวมตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 และ (4) รายได้ดอกเบี้ยรับที่เพิ่มขึ้น จำนวน 522 ล้านบาท

ทั้งนี้ เมื่อประเมินผลการดำเนินงานเทียบกับเป้าหมายปี 2564/65 ปรากฏว่า รายได้งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง อยู่ที่ 1.39 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย จากที่ตั้งไว้ 1.4 หมื่นล้านบาท

ขณะที่รายได้จากการติดตั้งระบบและจัดหารถไฟฟ้าขบวนใหม่สำหรับส่วนต่อขยายสายสีเขียวในปีนี้ อยู่ที่จำนวน 700 ล้านบาท รับรู้น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท ส่วนรายได้ดอกเบี้ยรับที่เกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้าบริษัทยังรับรู้รายได้ดอกเบี้ยรับที่เกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้า จำนวน 3.4 พันล้านบาท ในปี 2564/65 มากกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.3 พันล้านบาท

ส่วนรายได้จากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 970 ล้านบาท เป็น 6.3 พันล้านบาท บรรลุเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ของปีนี้ ส่วนใหญ่เป็นผลมาจาก (1) การรับรู้รายได้แบบเต็มปีจากการเปิดให้บริการส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือทั้งสาย และ (2) การเพิ่มขึ้นตามสัญญาค่าจ้างเดินและซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายสายสีเขียวเดิม และส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้