ปรับตัวปรับใจอย่างไร?  รับมือกับตลาดหุ้นขาลง

โดย ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO Jitta Wealth

ปรับตัวปรับใจอย่างไร?  รับมือกับตลาดหุ้นขาลง

เผลอแพล็บเดียวเราเดินผ่านถนนสายการลงทุนปี 2565 กันมาครึ่งปีแล้ว เป็นปีที่เจ็บปวดกันตั้งแต่ต้นปีจากตลาดหุ้นที่ร่วงทั่วโลก จากฝั่งสหรัฐฯ ที่กำลังขึ้นดอกเบี้ยเพื่อคุมเงินเฟ้อที่พุ่งสูง และทางฝั่งจีนที่กำลังต่อสู้กับ Covid-19 ในแบบของตัวเอง รวมไปถึงสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังคงคุกรุ่นและไม่มีท่าทีจะจบลง

ผมเข้าใจและอดเป็นห่วงความรู้สึกของคุณในช่วงนี้ไม่ได้ครับ เพราะมีทีมงานหลายสิบชีวิตที่แบ่งรายได้มาลงทุน ฝากฝังเงินออมไว้กับแผนการลงทุนต่างๆ ของ Jitta Wealth และกำลังร่วมฝ่าพายุทางเศรษฐกิจไปพร้อมกับคุณเช่นกัน

ขนาดทีมงานที่ติดตามข้อมูลข่าวสารใกล้ชิดก็ยังรู้สึกหวั่นไหวไม่น้อยเวลาเห็นตัวเลขสีแดงติดกันหลายวันและถามผมอยู่บ่อยครั้งเพื่อเรียกความมั่นใจ คุณเองก็คงจะรู้สึกไม่ต่างกัน ยิ่งเป็นเงินที่หามาด้วยความเหนื่อยยาก จะไม่ให้รู้สึกอะไรเลยก็คงไม่ใช่ จริงไหมครับ

ผมตอบกลับทีมงานไปบ้างถึงวิธีการรับมือกับตลาดหุ้นขาลง นึกไปแล้วคิดได้ว่า สิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นคำตอบที่หลายท่านต้องการฟังเช่นกัน จึงอยากขอใช้โอกาสนี้แบ่งปันแนวทางการรับมือกับตลาดหุ้นขาลง ด้วยหวังว่าจะช่วยให้คุณจัดการกับความกังวลในช่วงนี้ได้ดียิ่งขึ้น

 

1.อย่าปล่อยให้อารมณ์คล้อยตามราคาหุ้น

การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจ และยึดมั่นในรูปแบบการลงทุนที่ถูกต้อง ย่อมดีกว่าปล่อยให้อารมณ์ขึ้นลงตามราคาหุ้นครับ  หากวันไหนเผลอตัวเผลอใจไปใช้อารมณ์ตัดสินใจแทน พอเห็นราคาหุ้นตกลงมาเยอะแล้วรีบขายทั้งๆ ที่ธุรกิจก็ยังเติบโตอยู่ อาจต้องมานั่งบ่นว่า ‘รู้งี้’ ทีหลังเอาได้ครับ

ถ้าคุณเป็นนักลงทุนสาย VI และมีหุ้นไทยในพอร์ต อาจลองไปสำรวจกิจการที่ลงทุนอยู่ว่าจริงๆ แล้วธุรกิจที่เลือกลงทุนเป็นยังไงบ้าง มีลูกค้าเยอะแค่ไหน ยังขายดีอยู่มั้ย และติดตามผลประกอบการควบคู่ไปด้วย

หรือถ้ามีหุ้นต่างประเทศ อาจลองค้นหาข้อมูลต่างๆ ของบริษัทที่คุณลงทุน เช่น ผลประกอบการ ข่าว การให้สัมภาษณ์ของผู้บริหาร หรือข้อมูลตามเว็บไซต์การลงทุนต่างๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์ต่อเพิ่มเติมครับ

 

2.ทบทวนแนวคิดการลงทุน และติดตามหุ้นที่ลงทุนอยู่เสมอ

ช่วงตลาดหุ้นตกยาวแบบนี้ เป็นโอกาสดีที่คุณจะได้ทำความเข้าใจแนวคิดการลงทุนของตัวเองอีกครั้งว่าถูกต้องตามหลักการหรือไม่ แล้วนักลงทุนระดับโลกที่ลงทุนแบบเดียวกับคุณมีวิธีรับมือตลาดหุ้นขาลงยังไงบ้าง การศึกษาแนวคิดพวกเขาจะเป็นแนวทางการตัดสินใจให้คุณในนาทีสำคัญๆ ได้เป็นอย่างดี

การติดตามข่าวเกี่ยวกับธุรกิจ และหุ้นที่คุณลงทุนอยู่เสมอจะช่วยให้คุณมีความเข้าใจถึงสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อพอร์ตลงทุนของตัวเองมากขึ้น เวลาเห็นราคาหุ้นขยับขึ้นลงแบบรู้ที่มาที่ไป ก็จะไม่ตกใจครับ และเมื่อคุณติดตามหุ้นหรือธุรกิจที่ลงทุนมาโดยตลอด และพบว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นเพียง ‘ผลกระทบระยะสั้น’ ก็อาจทำให้คุณเห็นโอกาสสร้างผลตอบแทนให้พอร์ตลงทุนของคุณมากยิ่งขึ้นในระยะยาว

และไม่แน่ว่า การติดตามธุรกิจหลายประเภทมากยิ่งขึ้นจะทำให้คุณเจอกับหุ้นหรือบริษัทที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าเดิมมากยิ่งขึ้นในอนาคต หลังตลาดหุ้นเปลี่ยนเป็นขาขึ้นก็ได้

 

3.ไม่ไหวอย่าบอกไหว

ถึงตลาดหุ้นขาลงจะเป็นโอกาสดีในการช้อนหุ้นราคาถูกก็จริง แต่ถ้าใจคุณไม่ไหว ก็อย่าฝืนลงทุนเกินความเสี่ยงที่คุณรับไหวครับ   อย่าลืมว่าคุณลงทุนเพื่อทำเงินให้งอกเงย ถ้าลงทุนแล้วเครียดจนต้องเอาเงินมารักษาตัวรักษาใจแทน อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นสูงเกินกว่าที่คุณรับไหวแล้ว

ผมยังเชื่อว่า ‘การลงทุนที่ดีที่สุดคือการลงทุนในสิ่งที่คุณเข้าใจ’ เพราะคุณจำเป็นต้องอยู่กับสินทรัพย์ที่ลงทุนไปอีกหลายปี  ถ้าสินทรัพย์นั้นไม่ได้ทำให้คุณสบายใจในยามที่ทุกอย่างไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ อาจเป็นเวลาที่คุณต้องทบทวนแนวทางการลงทุนให้เหมาะกับระดับความเสี่ยงที่ตัวคุณรับไหวครับ

สินทรัพย์ที่ความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้น อย่างหุ้นกู้หรือพันธบัตรก็ให้ผลตอบแทนน่าพอใจในระดับความเสี่ยงที่ต่ำลงมา ช่วยสร้างเงินให้งอกเงยในแบบที่คุณสบายใจได้ คุณสามารถมองหาแผนการลงทุนที่มีหลักการกระจายสินทรัพย์ในหุ้นกู้และพันธบัตรบ้าง ก็มีให้เลือกลงทุนอยู่ครับ

“แต่ไม่ว่าจะไปต่อ ดูท่าทีก่อน หรือพอแค่นี้  อย่าลืมดูแลใจของตัวเองเป็นอันดับหนึ่ง”

สุดท้ายผมขอร่วมเป็นกำลังใจให้นักลงทุนที่น่ารักให้มีหัวจิตหัวใจที่แข็งแกร่งดุจหินผา สามารถฝ่าฟัน Perfect Storm ในตลาดหุ้นรอบนี้ไปตลอดรอดฝั่งครับ