กสิกรไทย เบรกลงทุนในเมียนมายาว รอความชัดเจน

กสิกรไทย

ธนาคารกสิกรไทยเชื่อลูกค้ารายใหญ่ในเมียนมาแข็งแรง มีวิธีรับมือ หลังธนาคารกลางเมียนมาระงับจ่ายหนี้ เผยชะลอแผนร่วมทุนกับ A Bank ชี้รอให้สถานการณ์มีความชัดเจนก่อน

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากกรณีธนาคารกลางเมียนมา (CBM : Central Bank of Myanmar) มีคำสั่งให้บริษัทและผู้กู้ยืมเงินรายย่อยระงับการจ่ายหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยแก่เจ้าหนี้ต่างประเทศ

ปัจจุบันธนาคารไม่ได้มีสาขาธนาคารในประเทศเมียนมา แต่จะมีสำนักผู้แทน (Representative) ซึ่งปัจจุบันประเด็นที่เกิดขึ้นยังไม่ได้ส่งผลกระทบกับธนาคาร และเชื่อว่าลูกค้ารายใหญ่ของธนาคารที่ทำธุรกิจในเมียนมาหรือลงทุนต่างประเทศมีวิธีรับมือกับความเสี่ยงกับปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitic Risk) อยู่แล้ว

อย่างไรก็ดี ส่วนทิศทางการทำธุรกิจในเมียนมาของธนาคารนั้น จะเห็นว่าเดิมธนาคารมองตลาดเมียนมาเป็นประเทศที่น่าลงทุน และมีแผนลงทุนผ่านการร่วมทุนกับธนาคารเอยาวดี ฟาร์มเมอร์ ดีเวลล็อปเม้นท์แบงก์ หรือเอแบงก์ (Ayeyarwaddy Farmers Development Bank : A bank) ซึ่งเป็นธนาคารท้องถิ่นของเมียนมา แต่จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนในประเทศเมียนมาทำให้ธนาคารชะลอการลงทุนออกไปก่อน และรอดูความชัดเจน

“เดิมเราเคยอยากลงทุนในเมียนมา แต่หลังจากมีความไม่แน่นอน เราชะลอไปก่อน รอให้มีความชัดเจน ส่วนผลกระทบเชื่อว่าลูกค้ารายใหญ่น่าจะรู้ว่ามีความเสี่ยงอะไรบ้าง โดยเฉพาะปัญหา Geopolitic ซึ่งทุกคนมีมาตรการป้องกัน และสามารถบริหารความเสี่ยงนี้ได้”

อนึ่ง ธนาคารกสิกรไทยเคยมีแผนการร่วมทุนในธนาคารเอยาวดี ฟาร์มเมอร์ ดีเวลล็อปเม้นท์แบงก์ หรือเอแบงก์ (Ayeyarwaddy Farmers Development Bank : A bank) ในสัดส่วน 35% หลังจากได้รับอนุมัติจากธนาคารกลางของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และอยู่ระหว่างการใส่เม็ดเงินลงทุนใน A bank แต่จากสถานการณ์ทางการเมืองที่มีการรัฐประหารในเมียนมาในช่วงต้นปี 2565 ทำให้ธนาคารกสิกรไทยชะลอแผนการร่วมทุนออกไป