คอลัมน์ : สถานีลงทุน ผู้เขียน : ธนรัชต์ พสวงศ์ ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส
ราคาทองคำ spot ในช่วงครึ่งเดือนแรกของเดือนกรกฎาคมปรับลดลงหลุด 1,700 ดอลลาร์ ทำจุดต่ำสุดในรอบ 11 เดือน
- ทุเรียนทะลักวันละพันตู้ ล้งเบรกซื้อ ฉุดราคาดิ่งเหลือโลละ 135-140 บาท
- กรมอุตุฯเตือน 6-12 พ.ค.นี้ ลมเปลี่ยนทิศ-แปรปรวน ฝนตกหนัก ท่วมฉับพลัน
- เปิดราคา Trade In “iPad” ก่อนเปิดตัวรุ่นใหม่ ลดสูงสุด 23,200 บาท
ปัจจัยสำคัญที่กดดันราคาทองคำคือเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องมากที่สุดในรอบ 20 ปี เนื่องจากตลาดมีการคาดการณ์ว่าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนกรกฎาคม เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 1% เพื่อสกัดกั้นอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐที่ยังพุ่งสูงขึ้น หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 9.1% ยังคงทำสถิติสูงสุดในรอบ 41 ปี และดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 11.3%
ขณะที่เงินยูโรเทียบกับดอลลาร์อ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 20 ปี โดย 1 ยูโรเท่ากับ 1 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2545 โดยที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายช้ากว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากในปีนี้เฟดได้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปแล้ว 3 ครั้ง โดยปรับขึ้นทั้งสิ้น 1.50% สู่ระดับ 1.50-1.75%
ขณะที่ธนาคารกลางยุโรปยังตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0% เป็นระดับต่ำที่สุดในประวัติการณ์ ถึงแม้คาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 21 กรกฎาคมก็ตาม แต่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐและยูโรโซนยังสูงอยู่
สำหรับเงินบาทในเดือนกรกฎาคมมีทิศทางอ่อนค่าต่อเนื่องทะลุ 36 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งสาเหตุหลักมาจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมากที่สุดในรอบ 20 ปี ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 16 ปีแตะ 36.73 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งในเดือนนี้ (ณ วันที่ 19 ก.ค. 2565) อ่อนค่าลงราว 1.40 บาท ทำให้เป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองแท่งในประเทศประมาณ 1,100 บาท ถึงแม้ว่าราคาทองคำ spot เดือนนี้ (ณ วันที่ 19 ก.ค. 2565) ลดลงถึง 5% แต่ราคาทองแท่งในประเทศกลับลดลง 2%
แนวโน้มราคาทองคำ spot ทางด้านปัจจัยเทคนิคเป็นขาลง โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1,670-1,680 ดอลลาร์ ในช่วงที่เหลือของเดือนกรกฎาคมคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,680-1,750 ดอลลาร์ ซึ่งประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามคือการประชุมเฟด ในวันที่ 26-27 กรกฎาคม ซึ่งคาดเฟดจะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% สู่ระดับ 2.25-2.50% และจีดีพีสหรัฐไตรมาส 2 ที่จะประกาศในวันที่ 28 กรกฎาคม
ซึ่งเฟดสาขาแอตแลนตา ได้เปิดเผยแบบจำลอง GDPNow ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม คาดการณ์ว่าจีดีพีสหรัฐไตรมาส 2 จะหดตัว 1.6% หลังจากที่จีดีพีไตรมาส 1 หดตัว 1.6% ซึ่งหากเศรษฐกิจสหรัฐหดตัวต่อไปในไตรมาส 2 ก็จะทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากเศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน
ส่วนแนวโน้มราคาทองคำ spot ในเดือนสิงหาคมคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,650-1,780 ดอลลาร์ ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามในเดือนสิงหาคม ได้แก่ จีดีพีสหรัฐไตรมาส 2 ซึ่งเป็นประมาณการครั้งที่ 2 อัตราเงินเฟ้อและการจ้างงานของสหรัฐเดือนกรกฎาคม
ทั้งนี้ คาดว่าตลาดยังให้ความสนใจกับอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐและอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกที่มีปัญหา supply chain จากสงครามรัสเซียและยูเครน ซึ่งอัตราเงินเฟ้อจะมีผลต่อแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟดและธนาคารกลางทั่วโลก ทั้งนี้ ต้องติดตามว่าอัตราเงินเฟ้อจะผ่านจุดสูงสุดแล้วหรือยัง