กสิกรไทย-สธ. พัฒนา “หมอพร้อม” สู่ Digital Health Platform ของไทย

หมอพร้อม เช็กผลตรวจโควิด

กสิกรไทย-กระทรวงสาธารณสุข พัฒนา “หมอพร้อม” สู่ Digital Health Platform ของประเทศไทย

วันที่ 25 กรกฎาคม 2565 ธนาคารกสิกรไทยผนึกกระทรวงสาธารณสุข ยกระดับ “หมอพร้อม” จากบริการด้านโควิดสู่แอปพลิเคชั่นด้านสุขภาพเพื่อคนไทย หลังมีผู้ใช้งานกว่า 32 ล้านคน ปรับโฉมใหม่พัฒนา 12 ฟีเจอร์หลัก ช่วยแสดงข้อมูลสุขภาพ เชื่อมต่อระบบ e-Payment ทยอยเปิดใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่นช่วงสิงหาคมนี้ และใน LINE OA เดือนกันยายน

เช่น เชื่อมโยงข้อมูลประวัติการรักษา การตรวจสอบสิทธิรักษา การนัดหมายแพทย์ Telemedicine การให้บริการใบรับรองแพทย์และใบรับรองสุขภาพแบบดิจิทัล การพัฒนาระบบชำระเงินออนไลน์ พร้อมเชื่อมโยงเครือข่ายกับหน่วยบริการสุขภาพทุกสังกัด ช่วยสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ได้เป็นอย่างดี

โดยจะพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้งเพื่อคนไทย ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน “หมอพร้อม” รวมกว่า 32 ล้านคน เชื่อว่าจะเป็นช่องทางที่เข้าถึงประชาชนได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น และขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงให้กับระบบบริการสุขภาพของประเทศได้เป็นอย่างดี

กสิกรไทย-สธ. พัฒนา "หมอพร้อม"

นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขพัฒนาระบบหลังบ้านของหมอพร้อมให้รองรับการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพของประชาชนจากหน่วยบริการสุขภาพทุกระดับ ทุกสังกัด ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล คลินิก และร้านยา ปัจจุบันเชื่อมโยงแล้วกว่า 15,000 แห่งทั่วประเทศ มีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลด้านสุขภาพและการดำเนินธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรฐานสากล ซึ่งได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.)

การพัฒนาฟีเจอร์สำหรับประชาชนบนหมอพร้อม ทั้งแอปพลิเคชั่นและ Line OA ประกอบด้วย 12 ฟีเจอร์หลัก ได้แก่ 1.ใบรับรองโควิด-19 แสดงประวัติและรายละเอียดการฉีดวัคซีน รองรับการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ 2.ผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทั้ง ATK/RT-PCR 3.ค้นหาหน่วยบริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทั้ง ATK/RT-PCR

4.เช็กอินผ่านโทรศัพท์มือถือด้วยระบบ Beacon โดยเปิดบลูทูทและตำแหน่งที่ตั้งก่อนเข้าใช้บริการสถานที่ต่าง ๆ ที่กำหนดให้แสดงสถานะสุขภาพเกี่ยวกับโควิด-19 5.ใบรับรองสุขภาพดิจิทัล สามารถดาวน์โหลดไฟล์ PDF ไปใช้ประกอบธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ได้ 6.บริจาคออนไลน์ ทั้งบริจาคเงินโดยตรงกับโรงพยาบาล บริจาคอวัยวะ ดวงตา และร่างกาย

7.แชตกับหมอพร้อม ตอบคำถามและสื่อสารความรู้สุขภาพกับประชาชนแบบอัตโนมัติ 8.ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ข่าวสารที่เกี่ยวกับหมอพร้อม นโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ข่าวสารสุขภาพต่าง ๆ 9.ประวัติสุขภาพ รองรับการตรวจสอบข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล อาทิ ประวัติการรักษาพยาบาล/การส่งต่อการรักษา 10.นัดหมายออนไลน์ล่วงหน้า เพื่อเข้ารับบริการกับโรงพยาบาลและคลินิกที่เข้าร่วม 11.เช็กสิทธิการรักษาภาครัฐและประกันสุขภาพของเอกชน

และ 12.Telemedicine ให้บริการสุขภาพและคำปรึกษาทางการแพทย์แบบทางไกล ซึ่งฟีเจอร์ทั้งหมดจะทยอยเปิดให้บริการผ่านแอปพลิเคชั่นในเดือนสิงหาคม และ LINE OA เดือนกันยายนนี้ โดยจะมีการปรับฟีเจอร์ให้เหมาะสมในแต่ละแพลตฟอร์มตามความสะดวกในการใช้งาน และระดับความปลอดภัยของข้อมูลสุขภาพประชาชนด้วย

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้พัฒนาแพลตฟอร์ม “หมอพร้อม” เป็นระบบฐานข้อมูลกลางบริหารจัดการข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยช่วงแรกใช้เป็นเครื่องมือติดตามอาการไม่พึงประสงค์หลังได้รับวัคซีน ต่อมามีการเปิดจองคิวเข้ารับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค และประชาชน พร้อมออกใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ถือเป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานมากเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศคือ 32 ล้านคน เป็นโอกาสที่จะพัฒนาต่อยอดให้เป็น Digital Health Platform ของประเทศได้

จึงร่วมมือกับทุกภาคส่วนพัฒนาระบบ เพื่อยกระดับการให้บริการสุขภาพ เพิ่มศักยภาพหน่วยบริการ ช่วยลดความแออัด ลดระยะเวลารอคอย และเป็นช่องทางสื่อสารกับประชาชนจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว เชื่อว่าจะตอบโจทย์ความต้องการด้านสุขภาพของประชาชนทั้งการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและบริการสุขภาพ

นายกฤษฎา บุญราช ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย กล่าวว่า สภากาชาดไทยในฐานะองค์กรการกุศลระดับชาติ มีคติทัศน์ คือ การบรรเทาทุกข์ บำรุงสุข บำบัดโรค กำจัดภัย ซึ่งการบริจาคดวงตาและอวัยวะเป็นส่วนหนึ่งของการบำบัดโรค โดยดวงตาและอวัยวะที่ได้รับบริจาคจะนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยกระจกตาพิการ ผู้ป่วยอวัยวะวายที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีอื่นนอกจากการปลูกถ่ายกระจกตา ปลูกถ่ายอวัยวะใหม่ ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่ขึ้นทะเบียนรอกระจกตาและอวัยวะกับสภากาชาดไทยอยู่เป็นจำนวนมาก

สภากาชาดไทยได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและธนาคารกสิกรไทย พัฒนาระบบการแสดงความจำนงบริจาคดวงตา อวัยวะ ออนไลน์บนแพลตฟอร์มหมอพร้อม จะเป็นการเพิ่มช่องทางให้ประชาชนที่มีจิตกุศลได้เข้าถึงการบริจาคดวงตา อวัยวะได้โดยง่าย รวมถึงเป็นการสร้างความรับรู้ในเรื่องของการบริจาคดวงตา อวัยวะให้อยู่ในวงกว้างเพิ่มมากขึ้น

ซึ่งจะเป็นผลดีสำหรับผู้ป่วยที่รอคอยการปลูกถ่ายกระจกตาและอวัยวะได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เชื่อว่าการพัฒนาแพลตฟอร์มหมอพร้อมในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งที่ตอบสนองต่อพันธกิจของสภากาชาดไทยในการช่วยเหลือสังคมให้ดีขึ้นแล้ว ยังจะช่วยให้ผู้ป่วยและประชาชนทั่วไปได้รับความสะดวกในการเข้าถึงบริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนได้

นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ด้วยความตั้งใจของธนาคารกสิกรไทย ต้องการเปิดโอกาสให้คนที่ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน และบริการสาธารณสุข ได้มีโอกาสเข้าถึงบริการได้อย่างทั่วถึง โดยได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับกระทรวงสาธารณสุขในการนำความรู้ ทรัพยากรทั้งด้านบุคลากรและประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีร่วมสนับสนุนในด้านต่าง ๆ

คือ 1.ด้านการช่วยเหลือในด้านการวิเคราะห์ข้อมูลและสรุปยอดผู้ติดเชื้อรายวัน 2.ด้านการสนับสนุนเรื่อง Call center หมอพร้อม ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย และ 3.ด้านการนำเครื่องมือ BI tools มาช่วยในการทำ Data Analytic เพื่อวางกลยุทธ์ในมิติสาธารณสุขได้อย่างแม่นยำ โดยมุ่งหวังว่าการพัฒนาต่อยอด “หมอพร้อม” โฉมใหม่ในครั้งนี้จะช่วยยกระดับการให้บริการด้านสาธารณสุขโดยเฉพาะกลุ่มโรงพยาบาลรัฐ เพื่อให้เป็น Digital Health Platform สำหรับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ธนาคารได้ให้การสนับสนุนเรื่องการจัดทำ Patient Mobile Application ให้แก่ รพ.ภาครัฐหลายแห่ง อาทิ รพ.จุฬาลงกรณ์, รพ.ชลบุรี, 11 โรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร เป็นต้น เพื่อตอบโจทย์การเป็น Smart Hospital และเพิ่มความสะดวกให้แก่คนไข้ที่เข้ามารับบริการในโรงพยาบาล ทำให้คนไทยได้ใช้บริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ ลดภาระระบบสาธารณสุข

นางมรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET กล่าวว่า INET ร่วมพัฒนาระบบหมอพร้อมให้มีการใช้ข้อมูลสุขภาพในรูปแบบ Digital ได้อย่างปลอดภัยและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยสนับสนุน Cloud Computing ตามมาตรฐาน Healthcare, พัฒนา Digital Health Pass และ EU DCC ในการออกใบรับรองประวัติการฉีดวัคซีน การตรวจหาเชื้อในรูปแบบดิจิทัลเพื่อใช้เข้าออกสถานที่ ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป 67 ประเทศ,

พัฒนาใบรับรองแพทย์ดิจิทัล เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เช่น สมัครงาน ต่อใบขับขี่ สมัครสอบ ก.พ. เคลมประกันสุขภาพ เป็นต้น และการพัฒนาอื่น ๆ เพื่อให้เป็น Digital Health Platform ของคนไทย ได้แก่ ระบบ iClaim เชื่อมระหว่างโรงพยาบาลกับบริษัทประกันภาคเอกชน เพื่อใช้ตรวจสอบสิทธิการรักษาและเคลมประกันสุขภาพโดยไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษา

นายอุดร คงคาเขตร กรรมการผู้จัดการธุรกิจ B2B2C บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้พัฒนาระบบ Logistics บนแพลตฟอร์มหมอพร้อม เน้นความสะดวกรวดเร็วและความปลอดภัยของประชาชน โดยพัฒนาเทคโนโลยีระบบคลังสินค้าและการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ ระบบตรวจสอบสถานะการขนส่งเพื่อรองรับการกระจายสินค้าที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ โดยเฉพาะยาและเครื่องมือแพทย์ และช่วยอำนวยความสะดวกผู้รับบริการให้ได้รับยาและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาทางการแพทย์

โดยส่งตรงไปยังที่พักหรือสถานที่ที่แจ้งความประสงค์ไว้ ทำให้ช่วยลดความแออัดในหน่วยบริการ และลดระยะเวลารอคอยของผู้มารับบริการ นอกจากนี้ ยังพัฒนาพนักงานขับรถให้มีทักษะ ความรู้ ความสามารถ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่ปลอดภัย เพื่อลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุให้มากที่สุด โดยควบคุมความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงผ่านศูนย์ปฏิบัติการ Logistics Command Center