เจาะลึก 5 หุ้นญี่ปุ่นตัวท็อป รับโอกาสเศรษฐกิจฟื้นตัวก่อนใคร

โดย ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO Jitta Wealth

การจากไปของชินโส อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ ในฐานะที่เขาได้พลิกฟื้นเศรษฐกิจและนำพาญี่ปุ่นให้เดินออกจาก ‘ทศวรรษที่สาบสูญ’ ในเวลานี้ ญี่ปุ่นเริ่มกลับเข้ามาสู่เรดาร์การลงทุน ซึ่งแน่นอนว่ามาจากนโยบายที่ชินโส อาเบะ ได้วางไว้ให้ วันนี้ผมจะพาไปทำความรู้จักกับโอกาสการลงทุนในญี่ปุ่นที่เริ่มเห็นสัญญาณบวกชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ

เรารับรู้กันอยู่แล้วว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่น่าทึ่งมากครับ เพราะแม้พวกเขาจะเจอปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนักหลังแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ไม่นานหลังจากนั้น ญี่ปุ่นก็ฟื้นตัวและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในแบบที่ประเทศอื่นก็อาจทำไม่ได้  จนตอนนี้กลายเป็นประเทศที่มีตลาดหุ้นใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก

จะแปลกก็ตรงที่ว่าแม้เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้ และหุ้นญี่ปุ่นหลายบริษัทมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่งระยะยาว และเป็น #หุ้นคุณค่า อย่างแท้จริง แต่นักลงทุนกลับไม่สนใจตลาดหุ้นญี่ปุ่นเท่าไรนัก

เมื่อพูดถึงบริษัทญี่ปุ่น ภาพในหัวของคุณจะต้องคิดถึงบริษัทใหญ่ ๆ ก่อน ไม่ว่าจะเป็น Sony Toyota Daikin Uniqlo หรือ Nintendo ที่คุณหลายคนอาจเป็นลูกค้า ใช้งานสินค้าจากบริษัทเหล่านี้อยู่เป็นประจำ แต่แท้จริงแล้วบริษัทใหญ่ ๆ ในญี่ปุ่นที่น่าลงทุนยังมีอยู่มากและหลากหลาย

วันนี้เราจะพาคุณไปขุดขุมสมบัติลับในตลาดหุ้นญี่ปุ่นให้มากขึ้น  จาก 3 อุตสาหกรรมเด่น ให้คุณได้เห็นภาพธุรกิจที่ชัดขึ้น ไม่แน่นะครับ จุดหมายการลงทุนของคุณป้ายต่อไป อาจเป็นที่ตลาดหุ้นแดนอาทิตย์อุทัย ผู้ไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อภัยธรรมชาติแบบญี่ปุ่นก็เป็นได้ครับ

ภาพรวมของ 3 อุตสาหกรรมที่เด่น ๆ ในญี่ปุ่นแต่คนไทยไม่ค่อยรู้จัก 

อุตสาหกรรมแรกคือเฮลท์แคร์ เรามีสถิติที่น่าสนใจมากในปัจจุบันมาให้ครับ นั่นคือญี่ปุ่นติดโผประเทศที่มีประชากรอายุยืน 3 อันดับแรกของโลกเสมอ โดยข้อมูลจากธนาคารโลกระบุว่า คนญี่ปุ่นมีอายุขัยเฉลี่ยเมื่อแรกเกิดสูงถึง 84.6 ปี

ADVERTISMENT

ทั้งจากภูมิปัญญาด้านอาหารการกินที่เป็นที่นิยมในหลายประเทศ ระบบรักษาพยาบาลที่ยอดเยี่ยม งานวิจัยได้รับการยอมรับทางแพทย์ทั่วโลก รวมถึงการตรวจคัดกรองโรคบางชนิดในประเทศที่ให้บริการฟรีอีกด้วย

ทำให้อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ในญี่ปุ่นน่าจับตามองเป็นอย่างมาก และปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้วครับว่าตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์เป็นที่ต้องการอยู่เสมอ

ADVERTISMENT

คนญี่ปุ่นบอบช้ำจากผลของสงครามมามาก พวกเขาต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั้งในแง่การป้องกันและรักษาโรค ทำให้อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ในญี่ปุ่นไม่เคยหยุดพัฒนาเลยจนถึงปัจจุบันครับ

และข้อมูลจาก EY ก็บอกว่า ครอบครัวคนญี่ปุ่นถือครองกรมธรรม์ประกันชีวิตและประกันสุขภาพสูงถึง 90% ของครัวเรือนทั้งหมดเลยทีเดียว ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเลยครับ ตัวอย่างบริษัทที่อยู่ในกลุ่มนี้ ได้แก่

BML

ผู้ให้บริการด้านการทดสอบและวิเคราะห์ข้อมูลทางการเเพทย์ โดยเน้นการทดสอบโลหิตเเละชีวเคมีเป็นหลัก รวมถึงให้บริการวิเคราะห์สารเคมีทางการเกษตรที่ตกค้างด้วย

เป็นอีกหนึ่งบริษัทเฮลท์แคร์ของญี่ปุ่นที่มีธุรกิจโดดเด่น และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องครับ

โดย ในงบการเงินปีล่าสุด BML มีรายได้รวมเติบโต 34.28% กำไรสุทธิเติบโต 146.09% มีแนวโน้มการเติบโตที่สม่ำเสมอใน 10 ปีล่าสุดจนถึงปัจจุบัน

– Market Cap. อยู่ที่ราว 148,500 ล้านเยน

– กระแสเงินสดอิสระในปีล่าสุด 39,909 ล้านเยน

– P/E เฉลี่ยประมาณ 3.7 เท่า

 Chugai Pharmaceutical  

บริษัทผู้ผลิตยาต้านเซลล์มะเร็งชั้นนำในญี่ปุ่น โดยร่วมมือกับบริษัทยาจากสวิตเซอร์แลนด์เพื่อพัฒนายาต้านมะเร็งคุณภาพสูง พร้อมทั้งใช้เทคโนโลยีจีโนมิกส์เพื่อวิเคราะห์และรักษาโรคมะเร็งในระดับพันธุกรรมรายบุคคล

Chugai Pharmaceutical เป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องโดยตรงในอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ เลยมีธุรกิจที่แข็งแกร่งหลายด้านครับ

ในงบการเงินปีล่าสุด Chugai Pharmaceutical มีรายได้รวมเติบโต 24.07% กำไรสุทธิเติบโต 41.10% และมีแนวโน้มการเติบโตที่สม่ำเสมอใน 5 ปีล่าสุดจนถึงปัจจุบัน

– Market Cap. อยู่ที่ราว 6.0 ล้านล้านเยน

– กระแสเงินสดอิสระในปีล่าสุดอยู่ที่ 213,657 ล้านเยน

– P/E เฉลี่ยประมาณ 20.0 เท่า

อุตสาหกรรมถัดมาที่อยากพูดถึงวันนี้อย่างอุตสาหกรรก่อสร้าง เพราะหากคุณได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นมาบ้าง คุณจะพบว่าการก่อสร้างตึกรามบ้านช่อง ของญี่ปุ่นทำได้รวดเร็วปานจรวด และยังมีวิธีการก่อสร้างที่ทำให้ตึกแข็งแรงทนทาน จนมีอายุการใช้งานยืนยาวมาก

ต้องเข้าใจก่อนครับว่าคนญี่ปุ่นต้องต่อสู้กับภัยทางธรรมชาติแรง ๆ อย่างแผ่นดินไหวหรือสึนามิเป็นประจำ ซึ่งเป็นเหมือนการผลักดันให้คนญี่ปุ่นต้องหาวิธีก่อสร้างอาคารบ้านเรือนให้ทนทานต่อภัยธรรมชาติเหล่านี้ให้ได้

และนั่นเกิดจากความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมก่อสร้างในญี่ปุ่นที่มีความสำคัญกับการพัฒนาประเทศมาตั้งแต่สมัยเมจิปี 2410 แล้ว และพัฒนาเร็วขึ้นอีกในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เป็นช่วงเวลาอันแสนเจ็บปวดของญี่ปุ่นครับ

ในปัจจุบัน คุณจะเห็นว่าโครงสร้างพื้นฐานและการก่อสร้างสิ่งต่าง ๆ ของญี่ปุ่นมีคุณภาพยอดเยี่ยม มีนวัตกรรมการก่อสร้างแบบใหม่ ๆ อยู่เสมอ ทำให้ทุกคนรู้สึกอุ่นใจเมื่อที่รู้ว่าตึกดังกล่าวถูกสร้างขึ้นโดยคนญี่ปุ่นครับสำหรับหุ้นในอุตสาหกรรมนี้ได้แก่

CTI Engineering

บริษัทที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมในญี่ปุ่นและต่างประเทศ ให้บริการให้คำปรึกษาในด้านงานวิศวกรรมโยธาและงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการวางแผน การวิจัย การทำกำหนดการ การออกแบบ และบริการการจัดการโครงการ

งานด้านวิศวกรรมโยธาและการก่อสร้างในญี่ปุ่นได้รับความเชื่อมั่นจากทั่วโลก ทำให้ CTI Engineering มีรายได้จากต่างประเทศสูงถึง 28% และมีแนวโน้มการเติบโตที่มั่นคงดุจหินผาครับ

ในงบการเงินปีล่าสุด CTI Engineering มีรายได้รวมเติบโต 14.14% กำไรสุทธิเติบโต 22.49% มีแนวโน้มการเติบโตที่สม่ำเสมอใน 5 ปีล่าสุดจนถึงปัจจุบัน

– Market Cap. อยู่ที่ราว 36,800 ล้านเยน

– กระแสเงินสดอิสระในปีล่าสุด 4,984 ล้านเยน

– P/E เฉลี่ยประมาณ 4.9 เท่า

 MITSUI-SOKO HOLDINGS

ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ครบวงจรทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ ให้บริการจัดเก็บ ขนส่ง และกระจายสินค้าผ่านคลังสินค้า รวมถึงธุรกิจศูนย์คอนเทนเนอร์เพื่อเชื่อมต่อการขนส่งหลายช่องทางเข้าด้วยกัน

การส่งออกสินค้าเป็นช่องทางค้าขายหลักของญี่ปุ่น และ MITSUI SOKO ก็ให้บริการโลจิสติกส์ในต่างประเทศด้วย ทำให้มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศสูงถึง 24% เลยทีเดียวครับ

ในงบการเงินปีล่าสุด MITSUI-SOKO HOLDINGS มีรายได้รวมเติบโต 18.72% กำไรสุทธิเติบโต 25.58% มีแนวโน้มการเติบโตที่สม่ำเสมอใน 5 ปีล่าสุดจนถึงปัจจุบัน

– Market Cap. อยู่ที่ราว 74,500 ล้านเยน

– กระแสเงินสดอิสระในปีล่าสุด 17,712 ล้านเยน

– P/E เฉลี่ยประมาณ 4.3 เท่า

สำหรับอุตสาหกรรมสุดท้ายที่เราจะพูดถึงวันนี้คืออุตสาหกรรมเหมืองแร่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีต่าง ๆ ของประเทศต้องพึ่งพาแร่ธรรมชาติจากอุตสาหกรรมเหมืองแร่อยู่เสมอ ซึ่งญี่ปุ่นเองก็หนีเรื่องนี้ไม่พ้นครับ

ต้องเล่าก่อนว่าญี่ปุ่นไม่ได้มีแร่ธาตุหายากหรือทรัพยากรบนชายฝั่งมากนัก แต่ถ้าเป็นเรื่องการสำรวจและค้นพบแร่ธาตุหายากใต้ทะเลลึกของมหาสมุทรแปซิฟิกแล้วละก็ ญี่ปุ่นถือเป็นผู้นำในด้านนี้ครับ

ความยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น คือ การเป็นผู้ผลิตและส่งออกแร่ธาตุหายากหลายชนิดของโลก ไม่ว่าจะเป็นแร่ไอโอดีนที่ใช้ผลิตยารักษาโรคหลากหลายชนิด แร่บิสมัทที่มีประโยชน์ทั้งทางด้านการแพทย์ และความสวยความงาม รวมถึงแร่สารพัดประโยชน์อย่างกำมะถัน

อุตสาหกรรมเหมืองแร่จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปข้างหน้า การขุดเจาะสินแร่เหล่านี้ได้ภายในประเทศจึงทำให้ญี่ปุ่นมีข้อได้เปรียบเหนือประเทศอื่น ๆ ในบางอุตสาหกรรมครับ

และด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ญี่ปุ่นจึงสามารถขุดเจาะใต้ทะเลลึกเพื่อนำแร่ธาตุหายากขึ้นมาเป็นทรัพยากรของประเทศได้อีกครั้ง ช่วยสร้างกำไรมหาศาลให้กับอุตสาหกรรมเหมืองแร่ญี่ปุ่น จนสามารถขยายธุรกิจไปต่างประเทศได้ครับ

Sumitomo Metal Mining

บริษัททำธุรกิจเหมืองเเร่ครบวงจร เป็นผู้ผลิตเเละจำหน่ายแร่เหล็ก ทองเเดง นิกเกิล เเละโลหะมีค่าอื่น ๆ นอกจากนี้ Sumitomo ยังทำธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ และให้บริการทางวิศวกรรมด้วย

หากคุณติดตามธุรกิจในญี่ปุ่น ชื่อบริษัท Sumitomo คงจะคุ้นหูคุณไม่น้อย เพราะเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจหลากหลายและขยายตัวจนมีธุรกิจหลักในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และก่อสร้าง

Sumitomo เป็นบริษัทระดับโลกที่มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศมากกว่า 52% ครับ

– ในงบการเงินปีล่าสุด Sumitomo มีรายได้รวมเติบโต 35.95% กำไรสุทธิเติบโต 197.07%

– Market Cap. อยู่ที่ราว 1.1 ล้านล้านเยน

– กระแสเงินสดอิสระในปีล่าสุด 104,081 ล้านเยน

– P/E เฉลี่ยประมาณ 6.0 เท่า

ทั้งหมดนี้คือภาพรวมคร่าว ๆ ของทั้ง 3 อุตสาหกรรมที่โดดเด่นในญี่ปุ่น  และบริษัทท็อป ๆ ที่ทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังมี ‘หุ้นคุณภาพดี ราคาถูก’ อีกมากอย่างไม่น่าเชื่อ เรียกว่าเป็น ‘แรร์ไอเทม’ และเป็นโอกาสสำคัญสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการปั้นพอร์ตให้มีมูลค่าสูงขึ้นครับ