กอบศักดิ์เตือนรับมือเศรษฐกิจถดถอย หลังจีดีพีสหรัฐติดลบต่อกัน 2 ไตรมาส

กอบศักดิ์
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล

ดร.กอบศักดิ์เตือนรับมือสัญญาณเศรษฐกิจถดถอย สหรัฐจีดีพีติดลบติดต่อกัน 2 ไตรมาส ลั่นป่วยการเถียงกันเรื่องคำจำกัดความ ชี้ควรยอมรับความจริง “เศรษฐกิจโลกขาลง” กำลังมา-จี้ทุกฝ่ายเตรียมการรับมือ

วันที่ 29 กรกฎาคม 2565 ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ โพสต์เฟซบุ๊ก “Dr.KOB” ระบุว่าขณะนี้ Technical Recession (เศรษฐกิจถดถอยเชิงเทคนิค) ในสหรัฐ เริ่มแล้ว !!! จากอัตราขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ (GDP) สหรัฐไตรมาส 2 (Q2) ที่ติดลบ -0.9% เป็นการติดลบติดต่อกัน 2 ไตรมาส

พร้อมชี้ว่าขณะนี้ที่สหรัฐกำลังถกเถียงกันอย่างดุเดือด ตกลงว่าการที่ GDP Q2 ของสหรัฐออกมาติดลบ -0.9% !!! ต่ำเกินความคาดหมายของตลาด ซึ่งเคยอยู่ที่ 2-3% เมื่อกลางเดือนพฤษภาคม และล่าสุดลดมาอยู่ที่ 0.4-0.5% ก่อนประกาศตัวเลขนั้น ต้องกังวลใจแค่ไหน ต้องกังวลหรือไม่

เพราะข้างหนึ่ง บอกว่าเป็น Technical Recession แล้ว เนื่องจากติดลบต่อกัน 2 ไตรมาส ส่วนอีกข้าง นำด้วยคณะที่ปรึกษาเศรษฐกิจของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ และนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บอกว่า “ยังไม่ถดถอย” เพราะคำจำกัดความจริง ๆ ของเศรษฐกิจถดถอย ก็คือ ต้องแย่ไปหมดเกือบทุกอย่าง อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ตลาดแรงงานสหรัฐยังทำงานได้ดี มีการสร้างงานใหม่ ซึ่งถ้าตลาดแรงงานยังแข็งแกร่งขนาดนี้ ก็ต้องบอกว่า ไม่น่าจะเป็น Recession

“2 ค่ายนี้กำลังถกเถึยงกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ส่วนตลาดหุ้นก็ดีใจ เพราะถ้ามี Recession เฟดก็คงไม่ขึ้นดอกเบี้ย ตีความว่า “ข่าวร้ายของเศรษฐกิจ คือ ข่าวดีของเรา” โดยเมื่อวานนี้ Dow Jones +332 จุด หรือ 1% Nasdaq +130 จุด หรือ 1% Bitcoin +1,000 จุด หรือ 4.6% แล้วตกลงว่าเราควรเชื่อใคร ควรกังวลใจหรือไม่ ?”

ดร.กอบศักดิ์ระบุว่า ในประเด็นนี้ต้องบอกว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะไปเถียงเรื่องคำจำกัดความ จุดสำคัญอยู่ที่ (1) เศรษฐกิจสหรัฐแผ่วลงมาก จากที่เคยขยายตัวได้ 5.7% เมื่อปีที่แล้ว โดยเฉพาะในไตรมาสสุดท้ายขยายตัวได้ 6.9% แข็งแกร่งสุด ๆ ตอนนี้ ติดลบมา 2 ไตรมาสแล้ว เรียกได้ว่า เป็นหนังคนละม้วนกับเมื่อปีที่แล้ว
“เรื่องนี้ต้องบอกว่าเป็นระฆังเตือนภัย เพราะเศรษฐกิจที่ดี ไม่มีปัญหา จะไม่ทำตัวแบบนี้ เสียเวลาที่จะไปเลี่ยงบาลีไปมา บอกว่ายังไม่เข้าคำจำกัดความ เพราะต้องยอมรับความจริงว่า ตอนนี้ความเชื่อมั่นหาย ความกังวลใจเต็มไปหมด”

(2) เศรษฐกิจสหรัฐจะอ่อนแออย่างนี้ต่อไป ในไตรมาสข้างหน้า เพราะคนไม่ใช้จ่าย ธุรกิจไม่ลงทุน !!! ซึ่งหากไปดูไส้ในของข้อมูล GDP ที่ออกมา -0.9% จะพบว่า การบริโภคสินค้าต่าง ๆ -4.4% (ส่งผลให้ GDP -1.08%), หมวดสินค้าคงทน -2.6% จากความกังวลใจว่าเศรษฐกิจจะไม่ดี Recession อยู่ข้างหน้า คนจึงชะลอการใช้จ่ายในหมวดใหญ่ ๆ เช่น รถ เครื่องใช้ในบ้าน อุปกรณ์ไฟฟ้า ออกไป, หมวดสินค้าไม่คงทน -5.5% จากกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มนอกบ้าน, การลงทุนภาคเอกชน -13.5% (ส่งผลให้ GDP -2.73%), หมวดก่อสร้างในโรงงานอาคารต่าง ๆ -11.7% จากการชะลอการลงทุนของเอกชนเพื่อรับกับเศรษฐกิจที่กำลังชะลอลง

นอกจากนี้หมวดอุปกรณ์เครื่องจักรต่าง ๆ -2.7% ที่เริ่มสั่งซื้อลดลง เพราะช่วงต่อไปไม่ต้องขยายกำลังผลิตและกิจการ, หมวดการสร้างบ้าน -14.0% สอดรับกับการปรับตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์สหรัฐ ที่กำลังเข้าสู่ช่วงขาลง, หมวดสินค้าคงคลัง ที่เป็นผลมาจากการลดลงของยอดการขายสินค้าต่าง ๆ รวมถึงยานยนต์

ทั้งหมดนี้ ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐติดลบในไตรมาสสอง ทั้ง ๆ ที่ภาคส่งออกสหรัฐขยายตัวดีเป็นพิเศษ +18.0% (ส่งผลให้ GDP +1.92%) หากลองคิดดู ที่น่ากังวลใจจริง ๆ คือ ตัวเลขหมวดเหล่านี้จะยังอ่อนแอต่อไป เพราะคนจะยังไม่ใช้จ่าย ธุรกิจจะยังไม่ลงทุน ไปอีกระยะ ในช่วงขาลง ซึ่งเมื่อ Global Recessions ส่งผลต่อภาคส่งออกสหรัฐ ความอ่อนแอของสหรัฐก็จะยิ่งเด่นชัดขึ้น

(3) สหรัฐคงจะเข้าสู่ภาวะ Recession ในที่สุด ไม่วันนี้ก็วันหน้า เป็นเพียงแค่เวลาเท่านั้น ที่กล่าวเช่นนี้ ก็เพราะเฟดกำลังขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสู้สงครามกับเงินเฟ้อ โดยดอกเบี้ยยังจะขึ้นไปอีกมาก เพื่อสยบเงินเฟ้อที่สูงลิ่วที่ 9.1% เมื่อดอกเบี้ยขึ้นสูง การซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อของใช้ การลงทุนเอกชนต่าง ๆ ก็จะลดลงเป็นเงาตามตัว ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐอ่อนตัวลงมากกว่านี้ คนตกงาน บริษัทปิดกิจการ เป็นเรื่องที่เฟดบอกว่า “จำเป็น” เพื่อจัดการเงินเฟ้อ สุดท้าย เศรษฐกิจก็จะเข้าสู่ภาวะถดถอย แบบที่ไม่ต้องมาถกเถียงกันว่า ตรงกับคำจำกัดความแล้วหรือยัง

“พูดได้ว่า ป่วยการที่จะมาเถียงกันแบบเด็ก ๆ เรื่องคำจำกัดความ มารับความจริงกันว่า ‘ขาลงกำลังมา’ เร่งเตรียมการรองรับในเวลาที่เหลืออยู่ น่าจะเป็นประโยชน์กว่า เพราะถ้าเราใช้เวลาที่เหลือ เตรียมการให้ดี เราก็จะผ่านไปได้” ดร.กอบศักดิ์ระบุ