สงครามเวียดนามจบมานานแล้ว แต่ “รองเท้าแตะยางรถทหาร” ยังฮิตเป็นรองเท้าแตะในตำนาน
วันที่ 26 กรกฎาคม 2565 สำนักข่าว เอเอฟพี รายงานเรื่องราวการผลิตรองเท้าแตะที่เป็นเอกลักษณ์ของเวียดนาม เป็นที่แพร่หลายมาตั้งแต่ยุคสงคราม อาศัยการรีไซเคิลจากยางรถบรรทุกของกองทัพและยางล้อเครื่องบิน จนผ่านมาหลายทศวรรษถึงวันนี้มีสันติภาพแล้ว ก็เป็นของใช้และแฟชั่นที่ไปต่อได้
เอเอฟพีระบุว่า ในกรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม มีรองเท้าสารพัดชนิดวางขาย ตั้งแต่รองเท้าแบรนด์ กุชชี่ ราคา 1,000 ดอลลาร์ หรือราว 36,700 บาท ไปจนถึงรองเท้าแตะพลาสติก ราคา 2 ดอลลาร์ หรือราว 70 กว่าบาท
แต่รองเท้าที่ทำจากยางอันแสนจะคงทนและมีตำนานย้อนไปถึงยุคการดิ้นรนต่อสู้ของคอมมิวนิสต์ ก็คือรองเท้าแตะยางรถ ยังคงได้รับความนิยม และวางขายอยู่ตามร้านค้าและตลาดในเมืองหลวง
ดาว วาน กวาง จากจังหวัดกว๋างนาม วัย 47 ปี ซื้อรองเท้าแตะยางยอดนิยมราคา 8 ดอลลาร์ หรือราว 290 บาท มาจากร้านใกล้พิพิธภัณฑ์ฮานอย พิพิธภัณฑ์ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกและสดุดีลุงโฮ
“ผมใส่รองเท้าเตะยางนี้ตั้งแต่ผมเรียนหนังสือที่โรงเรียน ราวทศวรรษ 1980 เป็นสิ่งที่มีค่าทางประวัติศาสตร์ ใส่ง่ายและดูดีด้วย” ดาว วาน กวาง กล่าว
ลุงโฮ นำเทรนด์ฮิตตลอดกาล
ภายในพิพิธภัณฑ์ฮานอย ที่จัดแสดงภาพและข้าวของเครื่องใช้ของ “ลุงโฮ” โฮจิมินห์ ยอดนักปฏิวัตินายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม มีรองเท้าแตะยางรถที่ลุงโฮเคยใส่ จัดแสดงอยู่ในกล่องแก้วไว้ด้วย
รองเท้าของลุงโฮยังเป็นสิ่งของที่เพลงชาติระบุถึง เพื่อยกย่องเชิดชูการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายของลุงโฮ
เนื้อเพลงท่อนหนึ่งเขียนว่า “รองเท้าเหล่านี้ช่วยให้ลุงโฮเดินทางไกล และด้วยรองเท้านี้ ลุงโฮจึงฝ่าฟันอุปสรรคยากลำบากเพื่อสร้างประเทศขึ้น”
แตะในตำนานเริ่มสมัยสู้รบฝรั่งเศส
รองเท้าแตะยางเริ่มผลิตช่วงปลายคริสต์ทศวรรษที่ 1940 ระหว่างสงครามอินโดจีนครั้งแรกที่ต่อต้านฝรั่งเศส เมื่อฝ่ายเวียดนามดักโจมตีขบวนรถทหารฝรั่งเศสได้ ก็จะนำยางรถกองทัพมารีไซเคิลเป็นรองเท้า
ผลของการใช้ยางรถทหารทำให้รองเท้ามีความคงทน ทั้งทนน้ำทนโคลน และทนสภาพเนินเขา ที่ทหารต้องเดินฝ่าป่าคงหนาได้เป็นอย่างดี
ต่อมาในช่วงสงครามเวียดนาม รองเท้าที่ใช้สมบุกสมบันนี้เป็นสัญลักษณ์ของกองกำลังเวียดกง ที่ต่อสู้อย่างไม่ย่อท้อต่อกองทัพใหญ่โตของสหรัฐอเมริกา
ถึงปัจจุบัน แม้จะเป็นช่วงเวลาแห่งสันติภาพแล้ว รองเท้าแบบนี้ยังคงได้รับความนิยม
เหวียน ดุ๊ก เจือง วัย 58 ปี ผู้ทำรองเท้าแตะยางรถมาทั้งชีวิต กล่าวว่า รองเท้ายางรถยังไปต่อได้อีก
เวียดนามเจ้าวงการผลิตรองเท้า
เวียดนามเป็นประเทศผลิตรองเท้ารายใหญ่ของโลก รวมถึงแบรนด์ยอดนิยมอย่าง Nike และ Adidas
อุตสาหกรรมนี้ทำเงิน 6 เดือนแรกของปีนี้ไปแล้ว เกือบ 12,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 4.4 แสนล้านบาท
สำหรับรองเท้ายางรถทหารที่ดูสมถะ แม้จะไม่ได้ทำเงินมากมายในระดับนั้น แต่มีคุณค่าทางมรดกวัฒนธรรม และได้รับความนิยมมากขึ้น
รองเท้าแตะในตำนาน ฮิตสุด
บัว ดีป ลอป ผู้เปิดธุรกิจเล็ก ๆ และกลายมาเป็นผู้นำรองเท้าแตะยางรถของเวียดนามที่ขายคู่ละ 10 ดอลลาร์ หรือราว 360 บาท เปิดให้เอเอฟพีชมขั้นตอนการผลิตรองเท้าที่ใช้วัสดุเป็นยางรถยนต์ขนาดใหญ่ใกล้ ๆ ตัวคนงาน มาตัดเย็บเป็นรองเท้า
รูปแบบรองเท้าที่ชายดีที่สุดคือแบบดั้งเดิม สีดำ ส่วนรองเท้าที่เพิ่มสีสันเข้าไป ส่วนใหญ่ต้องการดึงดูดคนรุ่นใหม่
เหวียน เทียน ควง ผู้สืบทอดธุรกิจจากพ่อตา เมื่อปี 2011 (พ.ศ. 2554) เผยว่านับตั้งแต่รับกิจการมาขายรองเท้าได้มากกว่า 5 แสนคู่แล้ว
“เราพยายามทำให้รองเท้านิ่มขึ้น และทันสมัยมากขึ้น หลังจากลองเปลี่ยนรูปแบบและสไตล์แล้ว เราก็มีลูกค้ามากขึ้น” เจ้าของกิจการกล่าว
…