คดี ส.ต.ท.หญิง ทำร้ายทหารหญิงกระทบหลายหน่วยงาน ล่าสุดผู้การสันติบาล 1 เซ็นให้ออกจากราชการแล้ว
วันที่ 31 สิงหาคม 2565 พล.ต.ต.อุดร วงษ์ชื่น ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 1 ลงนามในคำสั่งกองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 ที่ 199/2565 วันที่ 26 สิงหาคม 2565 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน ระบุถึงกรณี ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ผบ.หมู่ กก.4 บก.ส.1 ต้องหาคดีอาญา
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี มีพยานหลักฐานเพียงพอในการแจ้งข้อกล่าวหา ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ เรื่องการค้ามนุษย์ บังคับใช้แรงงานหรือบริการ และเอาคนลงเป็นทาส ประทุษร้ายต่อร่างกายและจิตใจ เหตุเกิดบ้านเลขที่ 128/6 หมู่ 4 ต.โคกหม้อ อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี ระหว่างวันที่ 5 ม.ค. 2564-13 ส.ค. 2565
กรณีที่ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ถูกกล่าวหา ถือว่ากระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง มีเหตุให้พักราชการได้ตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ. 2547 ข้อ 3 (1) (2) หากให้อยู่ในหน้าที่ราชการอาจเกิดการเสียหาย พิจารณาแล้วการสอบสวนพิจารณาคดีจะไม่เสร็จสิ้นโดยเร็ว
คดีดังกล่าวบานปลายและกระทบต่อหน่วยงานหลายแห่งที่ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์สังกัดอยู่ นอกจากบังคับการตำรวจสันติบาล ยังพบว่า ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ มีชื่อไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า อีกทั้งยังมีชื่อเป็นผู้ช่วย ส.ว.คนหนึ่ง โดยได้รับการแต่งตั้งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในกรรมาธิการกฎหมายกระบวนการยุติธรรม และกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
โดยเฉพาะกรณีปรากฏชื่อเป็นผู้ช่วย ส.ว. ทำให้กรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ จะเรียกตัว ส.ว.และผู้มีชื่อเกี่ยวข้องไปชี้แจงข้อมูลด้วยตนเอง
ส่วนการสืบสวนของตำรวจพบว่า ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม อายุ 43 ปี ทำร้าย น.ส.เอ (นามสมมุติ) ผู้เป็นลูกจ้าง และเรียกรับประโยชน์จากการฝาก น.ส.เอ เข้ารับราชการทหาร จากนั้นย้าย น.ส.เอ ไปช่วยราชการ บังคับให้มาทำงานรับใช้อยู่ที่บ้าน หาก น.ส.เอ ทำสิ่งใดไม่ถูกใจ ก็จะถูกผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการทุบตีตามร่างกาย ใช้ไม้หน้าสามตีตามเนื้อตัว ใช้เครื่องชอร์ตไฟฟ้าชอร์ตตามร่างกาย
ต่อมาผู้ต้องหาได้บังคับให้ น.ส.เอลาออกจากทหาร และขู่ว่าถ้าไม่ทำตามจะทำร้ายร่างกายอีก น.ส.เอจึงยื่นหนังสือลาออกจากราชการ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 แต่ผู้ต้องหายังบังคับและทำร้ายร่างกาย น.ส.เอเช่นเดิม ต่อมา น.ส.เอขอความช่วยเหลือจากทางบ้านเพื่อให้พาเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจนถึงที่สุด