ชัยวัฒน์ และพวก ให้การปฏิเสธคดีอุ้มฆ่าบิลลี่ นัดตรวจหลักฐาน 26 ธ.ค. นี้

ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร บิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ

ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร พร้อมพวก แถลงศาลให้การปฏิเสธคดีอุ้มฆ่าบิลลี่ นัดตรวจหลักฐาน 26 ธ.ค. 65

วันที่ 26 กันยายน 2565 มติชนรายงานว่า ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบรางรถไฟ ตลิ่งชัน ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย คดีหมายเลขดำ อท.166/2565 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี นายบุญแทน บุษราคำ, นายธนเสฏฐ์ หรือ ไพฑูรย์ แช่มเทศ และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ เป็นจำเลยที่ 1-4

ในความผิด ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและเพื่อจะเอา หรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้, ร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง

ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันโดยทุจริตหรือเพื่ออำพรางคดีกระทำการใด ๆ แก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป

ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตและร่วมกันเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตและเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 91, 157, 289, มาตรา 309 และมาตรา 310 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2502 มาตรา 13 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 ทวิ

Advertisment

พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 21) พ.ศ. 2542 มาตรา 5 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว

จากกรณีการเสียชีวิตของ นายพอละจี หรือ บิลลี่ รักจงเจริญ แกนนำชุมชนกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยศาลสอบถามจำเลยทั้งสี่ เรื่องทนายความแล้ว แถลงว่าจำเลยทั้งสี่แต่งทนายความแล้วศาลจึงอ่านและอธิบายฟ้อง รวมทั้งแจ้งให้จำเลยทั้งสี่ทราบถึงสิทธิต่าง ๆ โดยจำเลยทั้ง 4 แถลงขอให้การปฏิเสธ

Advertisment

ส่วนที่ ผู้เยาว์ 2 คนที่เป็นบุตรของนายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ ผู้ตาย ได้ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ โดยมี น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยาของนายบิลลี่ซึ่งเป็นมารดาผู้แทนโดยชอบธรรม ยื่นคำร้องนั้น จำเลยทั้ง 4 แถลงไม่คัดค้าน

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้เยาว์ทั้งสองคนเป็นบุตรผู้สืบสันดานของนายพอละจี ผู้ตาย กับ น.ส.พิณนภา ตามสำเนาสูติบัตรและสำเนาทะเบียนบ้าน จึงมีอำนาจจัดการแทนนายพอละจี หรือบิลลี่ ผู้เสียหายซึ่งถึงแก่ความตายแล้วได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิ.อ.) มาตรา 5 (2)

จึงอนุญาตให้บุตรทั้งสองคนเข้าร่วมเป็นโจทก์ ในความผิดที่ฟ้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 157, 289, 309, 310 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172

ส่วนความผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิ.อ.) มาตรา 150 ทวิ เป็นความผิดเกี่ยวกับการชันสูตรพลิกศพ เพื่อให้ผลทางคดีเปลี่ยนแปลงหรืออำพรางคดี เป็นการกระทำที่มุ่งลงโทษผู้กระทำการใด ๆ อันเป็นการขัดขวางการชันสูตรพลิกศพของแพทย์หรือเจ้าพนักงานผู้กระทำการชันสูตรพลิกศพ จึงเป็นความผิดต่อรัฐเท่านั้น โจทก์ร่วมทั้งสองซึ่งเป็นราษฎรไม่อาจเป็นผู้เสียหายได้ จึงไม่อนุญาตให้เข้าร่วมเป็นโจทก์ ในข้อหาความผิดนี้ โดยศาลได้กำหนดนัดตรวจสอบพยานหลักฐานคดีนี้ ในวันที่ 26 ธ.ค. 2565 เวลา 09.30 น.