เคาะเป็นทางการ 17 ช่องทีวีดิจิทัล ร่วมถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย “ทรูโฟร์ยู” ประเดิมนัดเปิดสนาม วันพรุ่งนี้ (20 พ.ย. 65)
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 มติชนรายงานความคืบหน้าการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 18-19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จัดประชุมออนไลน์ร่วมกับสถานีทีวีดิจิทัล เพื่อหาแนวทางการถ่ายทอดสด และสิทธิประโยชน์ต่างๆ หลังจากก่อนหน้านี้ได้เคยเรียกประชุมเตรียมแผนล่วงหน้ากันมาครั้งหนึ่งแล้วก่อนได้ลิขสิทธิ์
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
ที่ประชุมได้ใช้วิธีการจับสลากเพื่อจัดสรรเกมแต่ละคู่ให้กับแต่ละสถานี โดยมี 17 ช่องที่จะแบ่งกันถ่ายทอดสด ประกอบด้วย ทรูโฟร์ยู 24, ทีสปอร์ต7, ช่อง 3, ช่อง 5, ช่อง 7, ช่อง 8, ช่อง 9 MCOT, NBT, Thai PBS, ไทยรัฐทีวี, อมรินทร์ทีวี, โมโน 29, PPTV HD 36, GMM25, เนชั่นทีวี, ONE 31 และ JKN18
ทั้งนี้ “ทรูโฟร์ยู” จากกลุ่มทรู ซึ่งเป็นหนึ่งในภาคเอกชนที่ร่วมสนับสนุนเงินค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด จะได้เป็นผู้ถ่ายเกมนัดเปิดสนาม ระหว่าง “เจ้าภาพ” กาตาร์ พบ เอกวาดอร์ ที่สนามอัล เบย์ท สเตเดียม คืนวันพรุ่งนี้ 20 พฤศจิกายนนี้ ตามเวลาประเทศไทย 23.00 น.
สำหรับการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายที่กำลังจะเปิดสนามในวันพรุ่งนี้นั้น กกท. บรรลุการเจรจาซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฯ กับเอเย่นต์ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ในวงเงิน 33 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1,200 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน และหากรวมค่าใช้จ่ายเรื่องภาษีในการชำระเงินจะอยู่ที่ราว 1,400 ล้านบาท
โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติอนุมัติเงินสนับสนุนจากกองทุนวิจัย และพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กองทุน กทปส.) ให้ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) 600 ล้านบาท
และภาคเอกชนร่วมสนันสนุนการถ่ายทอดสด ได้แก่ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) 300 ล้านบาท, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) 100 ล้านบาท และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 100 ล้านบาท
