
รองผู้ว่า กทม. เซ็น MOU ร่วม 2 มูลนิธิพัฒนาการจัดการ Food Waste นำร่อง 10 สำนักงานเขต กทม.
วันที่ 23 ธันวาคม 2565 นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นประธานการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการดำเนินโครงการพัฒนาต้นแบบ BKK Food Bank ระบบส่งต่ออาหารให้กลุ่มเปราะบางอย่างเป็นรูปธรรม โดยความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร(กทม. )ร่วมกับมูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (SOS) และมูลนิธิ วีวี แชร์ (VV Share)
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เข้าบัญชีวันนี้ 5 จังหวัด
- วิธีเช็กเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท chongkho.inbaac.com
- เช็กเงื่อนไขกู้ “ออมสิน” ปลดหนี้นอกระบบ คุณสมบัติผู้กู้ต้องมีอะไรบ้าง ?
โดยมีนางสาวกรรณตรัตย์ วิเศษธรรมภัทร์ ประธานกรรมการมูลนิธิ สโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ นางศรินทร เมธีวัชรานนท์ รองประธานมูลนิธิ วีวี แชร์ เข้าร่วมพิธีดังกล่าว
นายศานนท์ กล่าวว่า สำนักพัฒนาสังคม กทม. ได้ดำเนินโครงการพัฒนาต้นแบบ BKK Food Bank ระบบส่งต่ออาหารให้กลุ่มเปราะบางโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งต่ออาหารส่วนเกินให้กลุ่มเปราะบางที่ขาดแคลนอาหาร และลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นจากอาหารส่วนเกิน โดยมีการเชื่อมโยงการทำงานทุกภาคส่วน
จากการลงนามบันทึกดังกล่าว จะมีการดำเนินงานใน 10 เขตนำร่อง ประกอบด้วย เขตบางขุนเทียน คลองเตย คลองสาน บางกอกน้อย บางแค บางพลัด พระโขนง ประเวศ ภาษีเจริญ และลาดกระบัง นำร่อง 3 วัน ต่อ สัปดาห์ คือ วันอังคาร พุธ พฤหัส จากนั้นจะขยายจำนวนวันและเขตพื้นที่ให้ครบคลุมทั้งกทม.ต่อไป
“Food Bank ไม่ใช่เรื่องใหม่ หลายเขตทำอยู่แล้ว มูลนิธิทั้งสองมีประสบการณ์อยู่แล้ว ซึ่ง การให้ไม่ได้มองเฉพาะผลกระทบทั้งของผู้ให้และผู้รับ อาจไม่ใช่การวัดที่ว่าผู้ให้ได้ให้ไปแล้วกี่กล่อง แต่อาจจะสามารถคำนวณได้ว่าแต่ละวันมีอาหารที่เหลือเกินความต้องการเท่าไหร่และสามารถนำไปวางแผนเรื่องอื่นต่อไปได้
นอกจากนี้ เขตจะตั้งป้ายประจำจุดบริจาคให้ชัดเจน โดยเป็นจุดทั้งสำหรับผู้ที่บริจาคประจำและผู้ที่บริจาคไม่ประจำ อาจเป็นการบริจาคเนื่องในวันสำคัญต่างๆ”นายศานนท์ กล่าว
ทั้งนี้หน่วยงานองค์กรที่มีอาหารส่วนเกินสามารถบริจาคให้กทม.เพื่อส่งต่อแก่กลุ่มผู้รับ ได้แก่ กลุ่มเปราะบาง (เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง คนไร้บ้าน คนเร่ร่อน) ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ผู้ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัยต่างๆ
โดยอาหารส่วนเกินที่นำมาบริจาค (Food surplus) จะเป็นอาหารสด เช่น ผัก ผลไม้ หรืออาหารปรุงสุกที่ไม่เกินหรือระบุภายในวันที่ควรบริโภคก่อน Best before : BBF แต่ยังไม่หมดอายุ ผลิตเกิน จำหน่ายไม่หมด สี รสชาติ คุณลักษณะอาจเปลี่ยนไปบ้างแต่ยังสามารถบริโภคได้ โดยไม่กระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภค
ด้านนางสาวกรรณตรัตย์ กล่าวว่า การร่วมมือส่งต่ออาหารให้กลุ่มคนที่ต้องการอาหารเพื่อพัฒนาชีวิตต่อไป ซึ่งหากผู้ประกอบการทิ้งไม่ได้ส่งต่อ อาหารจะเป็นแค่ขยะ
ขณะที่ นางศรินทร กล่าวว่า กทม.เห็นปัญหาของขยะอาหารที่ก่อให้เกิดมลพิษสิ่งแวดล้อม ในขณะที่ยังมีประชาชนต้องการอาหารเป็นจำนวนมาก ซึ่งมูลนิธิฯจะเป็นตัวกลางให้หน่วยงานร่วมแบ่งปันอาหารให้แก่กลุ่มบุคคลด้อยโอกาส โดยไม่คิดถึงเชื้อชาติและศาสนา
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีการแบ่งบทบาทและหน้าที่สำหรับทั้ง 2 มูลนิธิดังนี้
สำหรับมูลนิธิวีวี แชร์ (VV Share) ดำเนินการ ดังนี้
- ทำการเปิดบัญชีให้กับเจ้าหน้าที่ของกทม.จาก 4 เขต คือ เขตลาดกระบัง เขตพระโขนง เขตประเวศ และเขตคลองเตย เพื่อเข้าทำรายการผ่าน VV Share Application พร้อมทำการสอนวิธีการใช้งานอย่างละเอียด
- ในทุกวันทำงานจะมีการประสานงานระหว่างผู้บริจาค มูลนิธิวีวี แชร์ และกทม. โดยเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิฯ จะเป็นผู้สร้างรายการเข้ารับบริจาคอาหารในแต่ละวันตามสาขาที่แจ้งความประสงค์ในการบริจาค
- เจ้าหน้าที่ของกทม.เข้ารับบริจาคอาหาร โดยต้องลงข้อมูลใน VV Share Application เมื่อถึงแต่ละสาขา พร้อมทำการถ่ายรูปและให้เจ้าหน้าที่แต่ละสาขาเซ็นใน VV Share Application เพื่อเป็นการยืนยันข้อมูลในการรับบริจาคอาหาร
- ก่อนการนำอาหารส่งต่อกลุ่มเป้าหมาย ให้เจ้าหน้าที่กทม. ทำการชั่งน้ำหนักและลงรายละเอียดประเภทอาหาร แบ่งเป็น 4 ประเภท คือ กลุ่มทานรองท้อง (kg) กลุ่มสลัดผักผลไม้ (kg) กลุ่มข้าวและพร้อมทาน (kg) และอาหารกล่อง Chef Cares (กล่อง) และใส่ข้อมูลทั้งหมดลงใน VV Share Application โดยมีขั้นตอนสุดท้ายคือการลงชื่อปิดงานของเจ้าหน้าที่กทม.
- การรายงานปริมาณอาหารที่เข้ารับบริจาค เจ้าหน้าที่ของกทม.สามารถเข้าดูรายงานได้แบบ real-time โดยใช้อีเมล์เพื่อให้มูลนิธิฯ เพิ่มสิทธิในการเข้าดูรายงานได้ หรือจะให้เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิทำการส่งรายการผ่านทางอีเมลก็ได้เช่นกัน
ในส่วนของมูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (SOS) ดำเนินการ ดังนี้
- มูลนิธิ SOS รับข้อมูลผู้บริจาคที่ลงทะเบียนผ่าน Cloud Food Bank และบันทึกไว้ใน Google Sheet กลาง เพื่อให้ทางสำนักพัฒนาสังคม สื่อสารแผนการทำงานและรับอาหารจุดต่าง ๆ ให้กับสำนักงานเขตนำร่อง จำนวน 10 เขต โดยระบุข้อมูล เช่น ชื่อผู้บริจาค ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ ประเภทอาหาร ปริมาณอาหาร เป็นต้น
- สำนักพัฒนาสังคม ส่งข้อมูลต่อให้แต่ละเขตเพื่อสร้างแผนงานในแต่ละวัน (ปฏิบัติงานทุกวัน อังคาร พุธ พฤหัสบดี) โดยเจ้าหน้าที่เขตที่ได้รับมอบหมายจะต้องวางแผนการดำเนินงานและเข้ารับตามแผนที่กำหนดไว้
- ณ จุดรับอาหารส่วนเกิน เจ้าหน้าที่เขตที่ได้รับมอบหมายให้ทำงานรับอาหารตามจุดรับอาหาร จะต้องบันทึกน้ำหนักลงใน Google Form ที่ทางมูลนิธิ SOS ได้จัดทำไว้ให้ โดยจะต้องบันทึกรายละเอียดทั้งหมด คือ บันทึก 1 ครั้ง ต่อ 1 ผู้บริจาค และ 1 ประเภทอาหาร เมื่อส่งมอบผู้รับบริจาคแล้ว จะต้องบันทึกให้แล้วเสร็จในทุก ๆ วันของการทำงาน ซึ่งทางสำนักงานเขตสามารถจดบันทึกข้อมูลอาหารส่วนเกินที่ได้รับไว้ในกระดาษหรือฟอร์มใด ๆ ก่อนได้ ก่อนจะบันทึกน้ำหนักลง Google Form
- ทางมูลนิธิ SOS จะนำข้อมูลจาก Google Form ไปจัดระเบียบ ประมวลผล ให้ถูกต้องและสามารถใช้งานต่อได้ 5. ทางมูลนิธิ SOS จะส่งข้อมูลสรุปรวมการทำงานของ BKK Food Bank ใน 6 เขตนำร่องให้กับสำนักพัฒนาสังคมทุกสิ้นเดือน เพื่อรายงานผู้บริหารกรุงเทพมหานครทราบต่อไป