ศาลชั้นต้นสั่งเรียกคืน มาสด้า 2 เครื่องยนต์ดีเซล ปี 2014-2018 ทุกคัน

ผู้บริโภคชนะคดีกลุ่ม พิพากษาเรียกคืนมาสด้า 2 รุ่นปี 2014 - 2018 ทุกคัน!

ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้บริษัทมาสด้า เรียกคืนรถยนต์มาสด้า 2 เครื่องยนต์เชื้อเพลิงดีเซล (Mazda 2 Skyactiv D 1.5) ที่ผลิตในปี 2014-2018 ทุกคัน พร้อมชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้บริโภค หลังผู้บริโภค 9 คน รวมตัวฟ้องบริษัทเป็นคดีแบบกลุ่ม เนื่องจากพบปัญหาการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสั่น หรือเครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้น ซึ่งอาจเกิดอันตรายกับผู้ขับขี่ได้

วันที่ 29 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (28 มี.ค.) นางสาวจิณณะ แย้มอ่วม ทนายความผู้ดูแลคดีการฟ้องร้อง มาสด้า 2 เปิดเผยว่า ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เรียกคืนรถยนต์มาสด้า 2 เครื่องยนต์เชื้อเพลิงดีเซล (Mazda 2 Skyactiv D 1.5) ทุกคันที่ผลิตในปี 2014-2018 (ปี พ.ศ. 2557-2561) เข้ามาซ่อมแซม

เนื่องจากเป็นสินค้าที่ชำรุดบกพร่องและเป็นสินค้าไม่ปลอดภัยที่อาจทำให้เกิดอันตรายกับผู้ขับขี่ได้ นอกจากนั้นยังได้กำหนดให้บริษัทต้องชดใช้ราคาค่าซ่อมตามจริง ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถวันละ 1,800 บาท รวมถึงค่าเสียหายทางจิตใจรายละ 30,000 บาท

อีกทั้งบริษัทต้องจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปีนับจากวันฟ้อง หลังจากที่ผ่านมาผู้บริโภคจำนวน 9 คน ได้ยื่นฟ้องบริษัทมาสด้าเป็นคดีแบบกลุ่ม ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เนื่องจากพบปัญหาเรื่องการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเครื่องสั่น หรือปัญหาเครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้น

ทั้งนี้ เมื่อวิเคราะห์จากคำพิพากษาของศาลที่ออกมานั้นเป็นเรื่องที่ดีและเป็นบรรทัดฐานให้กับผู้ประกอบการรายอื่นที่จะต้องรับผิดชอบกับผู้บริโภคหรือลูกค้าของตัวเอง เพราะที่ผ่านมาเมื่อไม่มีสภาพบังคับที่ชัดเจน ผู้ประกอบการจะพยายามหลีกเลี่ยงและหลบหลีกความรับผิดชอบ

“ในหลาย ๆ คดี เมื่อเกิดสภาพบังคับโดยคำพิพากษาของศาลขึ้นและหากผู้ประกอบการหรือบริษัทไม่น้อมรับหรือไม่ปฏิบัติตาม อาจส่งผลให้ศาลชั้นสูงมองว่าเอาเปรียบผู้บริโภคและอาจมีคำสั่งลงโทษ โดยเพิ่มค่าเสียหายเชิงลงโทษโดยบริษัทจะต้องจ่ายให้กับผู้บริโภคอีก ซึ่งหลังจากนี้ผู้บริโภคต้องการเห็นความรับผิดชอบของผู้ประกอบการในการเยียวยาแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง” จิณณะระบุ

Advertisment

นอกจากนี้ คำพิพากษาของศาลมองว่ารถยนต์เป็นสินค้าที่ใช้บนท้องถนนและหากเครื่องยนต์ของรถคันนั้น ๆ ชำรุดบกพร่องจะกลายเป็นสินค้าที่ไม่ปลอดภัยและมีโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยงกับผู้ขับขี่และคนที่สัญจรบนท้องถนน ซึ่งการฟ้องร้องในครั้งนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นคดีกลุ่มแบบเปิด ที่ศาลคุ้มครองรถยนต์มาสด้า 2 รุ่นดังกล่าวทุกคันที่ผลิตในปี ค.ศ. 2014-2018 กล่าวคือ

ผู้ที่ใช้รถยนต์ในรุ่นและปีการผลิตข้างต้นที่พบปัญหาการใช้งานถือว่าเป็นผู้เสียหายทั้งหมดและต้องได้รับการชดเชยเยียวยาเช่นเดียวกัน ซึ่งที่ผ่านมาผู้ใช้รถรุ่นนี้หลายรายพบปัญหาในการใช้งาน โดยเฉพาะจังหวะที่จะเร่งแซง แต่เครื่องยนต์กลับสั่น

Advertisment

รวมถึงไม่สามารถเร่งเครื่องยนต์ขึ้นได้ ขณะที่บางรายมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุจากปัญหาเครื่องยนต์ และถ้าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริง คนส่วนใหญ่จะมองว่าคนขับประมาท แต่ไม่มีใครรู้ว่าในความเป็นจริงแล้วเกิดจากปัญหาของเครื่องยนต์หรือรถยนต์ที่ขับ

จิณณะระบุทิ้งท้ายอีกว่า ในบางครั้งการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมของผู้บริโภคอาจใช้ระยะเวลาที่มากและทำให้ผู้บริโภคเกิดความท้อแท้ แต่หากไม่เริ่มต้นก็อาจไม่เกิดความเป็นธรรมในอนาคตได้ ดังนั้น ในบางครั้งผู้บริโภคอาจต้องลงทุน ลงแรง และยอมสละเวลาที่จะหาพยานหลักฐานเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม และเมื่อความเป็นธรรมเกิดขึ้น สิ่งที่ตามมาคือจะเกิดเป็นมาตรฐานที่ดีขึ้น

“หากไม่เริ่มต้นและทนกับปัญหาที่เกิดขึ้น เราจะไม่มีทางที่จะได้มาตรฐานที่ดีขึ้นได้ เพราะผู้ประกอบการจะคิดแต่เพียงแต่เรื่องของผลกำไร ซึ่งเขาจะไม่ได้คิดถึงความรับผิดชอบ ดังนั้น เราในฐานะผู้บริโภคต้องตระหนักถึงความสำคัญในการใช้สิทธิของผู้บริโภคให้มากขึ้นเพื่อร่วมกันสร้างบรรทัดฐานให้ดีขึ้น” จิณณะระบุ