ครอบครัวรับศพ จีจี้ #เรื่องของจี้ เหยื่อความรุนแรงนักเรียนเตรียมทหาร

รับศพ จีจี้ เรื่องของจี้
ภาพจาก ข่าวสด

ครอบครัว “จีจี้ เรื่องของจี้” เข้ารับศพลูกสาว เหยื่อความรุนแรงนักเรียน นตท. แม่เผยรู้เรื่องทำร้ายร่างกาย และสั่งห้ามคบมาโดยตลอด พ่อ นตท. ยอมรับ คุมลูกไม่อยู่ ด้าน น.1 ตั้งกรรมการสอบสวนคดีใหม่ ยืนยันคดีไม่ซับซ้อน

วันที่ 20 เมษายน 2566 ข่าวสด รายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. ที่นิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดี น.ส.ชุติกาญจน์ ธีระโรจนพงษ์ แม่ของ น.ส.สุพิชชา ปรีดาเจริญ หรือ จีจี้ อายุ 19 ปี และ นายกีรติ อาจหาญ อายุ 39 ปี พ่อเลี้ยง เดินทางมายื่นเอกสารเพื่อรับร่างของลูกสาว หลังจากเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา พบร่างของ น.ส.สุพิชชา และ นตท.ภูมิพัฒน์ ชัยวณิชยา หรือ อิคคิว แฟนหนุ่ม เสียชีวิตอยู่ภายในห้องพักคอนโดฯหรู ย่านอโศก

น.ส.ชุติกาญจน์กล่าวว่า ที่ผ่านมาตลอดช่วงเวลาที่คบกัน ตนทราบเรื่องมาตลอดว่า อิคคิว ทำร้ายร่างกายลูกสาว ซึ่งทางครอบครัวของฝ่ายชายก็ทราบดีและทั้งสองครอบครัวไม่อยากให้มาคบกัน โดยก่อนหน้านี้ทั้งสองคนเคยเลิกรากันไปแล้ว แต่ก็กลับมาคบกันใหม่ โดยช่วงที่กลับมาคบกันใหม่ ลูกสาวไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรมาก เพราะไม่อยากให้แม่เป็นห่วง ซึ่งตนก็ถามว่า “กลับมาคบกันใหม่แล้วเป็นอย่างไรบ้าง” ทางจีจี้ก็บอกว่า “กลับมาคบกันแล้วดี ไม่มีอะไร”

น.ส.ชุติกาญจน์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ตนได้เตือนลูกตลอดเพราะลูกสาวถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนัก และฝ่ายชายก็เป็นคนชอบเล่นปืนและมีอาวุธปืนติดตัว เป็นคนอารมณ์ร้อน จึงกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ทั้งสองคนทะเลาะกันภายในห้อง แล้วไม่มีบุคคลที่สามคอยห้ามจะเกิดเหตุไม่ดีขึ้น แต่ลูกไม่ฟัง อาจจะเพราะยังเป็นวัยรุ่น และยังมีความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน

น.ส.ชุติกาญจน์กล่าวอีกว่า ในวันเกิดเหตุตนรู้สึกสังหรณ์ใจ เพราะว่าไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้ จึงคุยกับแม่ของฝ่ายชายตลอด ซึ่งก็ทราบว่าไม่สามารถติดต่อฝ่ายชายได้เหมือนกัน และแม่ของฝ่ายชายก็บอกว่าอิคคิวมาหาจีจี้ ตนจึงติดต่อเพื่อนให้มาเปิดห้องให้ ก่อนจะเจอเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนใจและไม่อยากพูดถึงอีก เพราะยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

วอนตำรวจชี้แจง “เจ้าของปืน ต้องรับผิดชอบด้วยหรือไม่ ?”

น.ส.ชุติกาญจน์กล่าวว่า สำหรับประเด็นในโลกโซเชียล ที่มีข้อความของจีจี้และรูปภาพส่งไปให้เพื่อนแล้วบอกว่า อิคคิวใช้อาวุธปืนยิงประตูทะลุ เรื่องนี้ตนทราบดีเพราะว่าเหตุเกิดที่บ้านของฝ่ายชาย และพ่อกับแม่ของฝ่ายชายก็อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งเขาได้แจ้งว่าทั้งสองคนทะเลาะกัน แล้วก็พยายามห้ามปรามแล้วแต่ไม่สามารถห้ามลูกได้

น.ส.ชุติกาญจน์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาอิคคิวมีพฤติกรรมชอบเล่นปืนและยิงปืนมาก หลังช่วงสงกรานต์ยังพาจีจี้ไปยิงปืนที่สนามด้วยอยู่เลย ซึ่งตนก็เข้าใจว่าหลังจากที่เล่นปืนเสร็จแล้วก็คงให้คนขับรถเอาปืนไปเก็บ ไม่ทราบมาก่อนเลยว่า ฝ่ายชายจะพกปืนติดตัวด้วย

“เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางด้านครอบครัวของฝ่ายชายก็เลี้ยงลูกมาแบบตามใจ จึงยอมรับกับเราว่า ไม่สามารถคุมลูกได้ เพราะลูกเป็นคนใจร้อน ขอโทษและขออโหสิกรรมกับทางครอบครัวเราด้วย ในหัวอกคนเป็นแม่ก็สูญเสียลูกเหมือนกัน จึงไม่อยากให้เรื่องบานปลาย อยากให้ต่างคนต่างส่งลูกของตัวเองให้ดีที่สุด ตอนนี้หนูไปสบายแล้ว แม่ขอให้หนูไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ แม่จะส่งลูก และทำให้ดีที่สุด” น.ส.ชุติกาญจน์ กล่าว

น.ส.ชุติกาญจน์กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ตนก็ยังคาใจเรื่องปืนที่ใช้ก่อเหตุว่าเจ้าของปืนจะต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วยหรือไม่ ก็อยากให้ตำรวจชี้แจงเรื่องนี้อย่างเป็นธรรม

พ่อเลี้ยงมอง ครอบครัวฝ่ายชายเลี้ยงลูกแบบผิด ๆ

ด้านนายกีรติกล่าวว่า ครอบครัวเลี้ยงลูกชายมาแบบผิด ๆ ในมุมมองของตน พ่อควรเตือนลูกว่าไม่ให้พกปืน เนื่องจากอายุยังไม่ถึง และตนสงสัยว่า อายุยังไม่ถึง ทำไมถึงสามารถเข้าไปที่สนามยิงปืนได้ โดยทราบมาว่า ฝ่ายชายถูกเลี้ยงมา โดยที่คิดตลอดว่า พ่อของตัวเองมีอำนาจ จึงเป็นคนเอาแต่ใจและอารมณ์รุนแรง เราไม่ได้โกรธเกลียดอะไรทางครอบครัวของฝ่ายชาย ตอนที่ทราบว่าทั้งสองคนเลิกกัน เราก็ดีใจเพราะลูกได้หลุดพ้นแล้ว

นายกีรติกล่าวต่อว่า แต่เมื่อมาถึงวันนี้ทั้งสองก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว ก็อยากให้ครอบครัวของฝ่ายชายจริงใจกับครอบครัวเรา รู้ว่าเขามีพาวเวอร์ใหญ่ เราไม่ได้กลัว แต่อยากให้ ข่าวจบด้วยดี จีจี้ไม่มีอะไรเสียหาย และฝ่ายชายก็ไม่มีอะไรเสียหายไปมากกว่านี้

นายกีรติกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามในมุมของกฎหมาย ตำรวจบอกว่าถ้าหากเจ้าของปืนมีส่วนรู้เห็นว่า อิคคิวเอาปืนมาใช้ ก็จะต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วยนั้น ตนเห็นด้วยอย่างยิ่ง เบื้องต้นจากที่สอบถามตำรวจทราบมาว่าปืนเป็นของพ่อฝ่ายชาย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ถามต่อว่า ทำไมฝ่ายชายถึงคิดว่าตัวเองมีอำนาจตลอดเวลา ที่ผ่านมามีการข่มขู่เรื่องนี้หรือไม่ ด้านนายกีรติตอบว่า “ไม่แปลกที่ลูกไม้จะหล่นไม่ไกลต้น”

น.1 ตั้งทีมสืบสวนสอบสวนคดี ชุดใหม่

มติชน รายงานว่า พ.ต.อ.เสนาะ พูนเพชร รักษาการ ผกก.สน.มักกะสัน เรียกประชุมพนักงานสอบสวน เพื่อเร่งรัดและรวบรวมพยานหลักฐาน คลี่คลายคดีให้เกิดความชัดเจน และเป็นธรรมโดยเร็วที่สุด ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างรอผลตรวจพิสูจน์ ทั้งผลชันสูตรร่างผู้เสียชีวิตจากแพทย์นิติเวช และผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์จากกองพิสูจน์หลักฐาน โดยเฉพาะเรื่องคราบเขม่าดินปืน

เบื้องต้นพบหัวกระสุนตกอยู่เพียง 1 นัด คาดเป็นกระสุนที่ยิงทะลุศีรษะฝ่ายหญิง ส่วนหัวกระสุนที่ยิงฝ่ายชาย คาดว่าถูกฝังอยู่ในศีรษะ ต้องรอความชัดเจนจากผลแพทย์อีกครั้ง

ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ได้เข้าพบ พ.ต.อ.เสนาะ เพื่อแจ้งสิทธิในกรณีดังกล่าว โดยเบื้องต้นผู้เสียชีวิตจะได้ค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวน 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ค่าจัดการศพใช้จ่ายเป็นเงิน 20,000 บาท ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดูใช้จ่ายเป็นเงินจำนวนไม่เกิน 40,000 บาท ค่าเสียหายอื่น ๆ ไม่เกิน 40,000 บาท

ด้าน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า คดีนี้ได้ตั้งทีมสืบสวนสอบสวนใหม่ เนื่องจากทั้งคู่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ตอนนี้รอผลชันสูตรมารวมกับหลักฐานต่าง ๆ ที่พบในที่เกิดเหตุ วิถีกระสุน ทิศทางกระสุน รวมถึงแวดล้อมต่าง ๆ เบื้องต้นจากการดูทิศทางกระสุน คาดว่าฝ่ายชายน่าจะเป็นคนก่อเหตุ แต่ก็ต้องรอทาง พฐ. สรุปวิถีกระสุนให้ชัดเจนก่อน

และมีข้อมูลจากเพื่อนฝ่ายหญิง พบว่าทั้งคู่ได้ไปเที่ยวพัทยากันในช่วงวันสงกรานต์ ก่อนกลับเข้ามายังที่พัก แต่ในส่วนวันที่ 18-19 เมษายนที่ผ่านมานั้น ยังต้องไล่ดูภาพกล้องวงจรปิด ซึ่งช่วงนั้นฝ่ายหญิงไม่ได้ติดต่อกับเพื่อน จึงไม่แน่ชัดว่าทั้งคู่หรือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ได้ไปไหนกันอีกหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าคดีนี้ไม่ซับซ้อน และตอนนี้ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง รวมถึงยังอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนว่ามีตัวละครเพิ่มหรือไม่

ส่วนประเด็นเรื่องปืนที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นพบว่าเป็นของฝ่ายชาย เท่าที่ตรวจสอบน่าจะเป็นของคนในครอบครัวของฝ่ายชาย และเป็นปืนที่ใช้ในอาชีพข้าราชการ ซึ่งฝ่ายชายก็ไม่สามารถครอบครองอาวุธปืนได้อยู่แล้ว เพราะในทางกฎหมาย หากผู้ที่ครอบครองปืนได้ในวัยเท่านี้ จะต้องได้รับการรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมายว่ามีคุณสมบัติครบถ้วน

ส่วนเจ้าของปืนจะมีความผิดหรือไม่ ต้องดูว่าเข้าเกี่ยวข้องในเรื่องของความประมาทหรือไม่ แต่กฎหมายยังไม่ได้ระบุ พร้อมยืนยันว่าคดีนี้ทำทุกอย่างในกรอบกฎกติกาของกฎหมาย

คนบันเทิง ร่วมแสดงความเสียใจ

ย้อนกลับไปเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากมีการนำเสนอข่าวจากสื่อต่าง ๆ ถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้มีคนใกล้ชิด รวมถึงคนในวงการบันเทิง ร่วมแสดงความเสียใจ เช่น วี-วีรยา จาง สมาชิกวง BNK48 โพสต์แชต Direct Message ในแอปพลิเคชั่น อินสตาแกรม (Instagram) เมื่อปี 2019 ผ่านทางไอจีสตอรี่

โดยระบุว่า “ขอให้จี้ได้ไปสู่ภพที่ดีนะคะ พี่ยังคอยชมจี้กับเพื่อนตลอดว่าจี้สวยมาก ๆ กลับมานั่งดูแชตน้ำตาไหลเลย แค่อ่านก็รู้สึกได้เลยว่า จี้เป็นคนสดใสมากมาก ดีใจที่ได้รู้จักและได้เป็นกำลังใจให้กันและกันนะ หลังจากนี้ไม่ต้องมีอะไรให้คิดมากแล้ว ขอให้โลกข้างหน้าใจดีกับจี้เยอะ ๆ นะ”

รวมถึง ไนซ์ซีเอ็นเอ็กซ์ (NICECNX) ศิลปินชื่อดัง และค่ายเพลง บ็อกซ์มิวสิค (BOXX MUSIC) ได้โพสต์ผลงานที่เคยร่วมงานกัน โดย NICECNX เล่าความประทับใจช่วงที่ร่วมงานด้วยกันในเพลง เพราะ (BECAUSE) ระบุว่า “จริง ๆ รูปนี้เป็นปกเพลง แต่ผมขอเลื่อนปิดชื่อเพลงของผม เพื่อให้เกียรติน้อง น้องเฟรนด์ลี่ดีมากกับพี่ ๆ ในกองถ่าย มีไรก็จะปรึกษาตลอด ขอบคุณสำหรับหลาย ๆ คำแนะนำ ขอบคุณทุกอย่างนะครับ ขอให้หลับฝันดี ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นเลย ต่อไปเพลงที่เศร้าก็จะเศร้ากว่าเดิม”


ขณะเดียวกัน บนโลกออนไลน์ มีการถกเถียงถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกรณีสะเทือนขวัญนี้ ทั้งเรื่องการพกพาอาวุธปืน และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของทั้งนักเรียนเตรียมทหาร คนดังกล่าว และกรณีที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหายรายอื่น ๆ