“จีจี้” เน็ตไอดอลชื่อดัง-ลูกชายนายทหาร เสียชีวิตในคอนโดฯหรู

นักเรียนเตรียมทหาร ลูกชายนายทหาร พร้อม “จีจี้” เน็ตไอดอลสาวชื่อดัง ดับในคอนโดฯหรูย่านอโศก

เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2566 มติชนออนไลน์ รายงานว่า จากกรณีมีรายงานข่าวพบผู้เสียชีวิต 2 ราย ภายในคอนโดฯหรู ย่านอโศกนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รปภ.คอนโดฯ ไม่อนุญาตให้นักข่าวเข้าพื้นที่ ขณะที่มีรายงานข่าวว่าผู้เสียชีวิตเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ลูกชายนายทหารยศใหญ่ ส่วนอีกรายเป็นเน็ตไอดอลชื่อดัง คาดเสียชีวิตจากอาวุธปืนตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา

“ผู้ชายเป็นลูกชายนายทหารระดับสูง ติดต่อได้ครั้งล่าสุดเมื่อวาน 9 โมง ซึ่งวันนี้ผู้ชายซึ่งเป็นนักเรียนเตรียมทหารไม่ได้ไปเรียน เลยพยายามโทร.ตาม แต่ติดต่อไม่ได้ จึงประสานตำรวจเช็กเบสมือถือ จนรู้ว่าอยู่ที่ไหน มาประสานนิติ แต่เข้าไม่ได้เนื่องจากเป็นแบบรหัส ขณะเดียวกันเพื่อนได้มาตามที่ห้องซึ่งเพื่อนคนนี้รู้รหัส พอเปิดเข้าไปก็พบเป็นศพ” แหล่งข่าวระดับสูงข่าว

ล่าสุด พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. และ พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) ได้ลงพื้นที่แล้ว

สำหรับเน็ตไอดอลสาวชื่อดังคือ น.ส.สุพิชชา มีชื่อเล่นเรียกกันว่า “จีจี้”

ต่อมาเวลา 18.00 น. ที่ สน.มักกะสัน บิดาของจีจี้มาติดตามคดี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า รู้ว่าลูกสาวกับฝ่ายชายเคยคบกันและเลิกรากันแล้ว จากนั้นเมื่อช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา จีจี้บอกกับน้องสาวว่า ถูกฝ่ายชายทำร้ายร่างกาย จึงย้ายคอนโดฯหนี มาเช่าอยู่ที่คอนโดฯที่เกิดเหตุเดือนละ 20,000 บาทเศษ ก่อนเกิดเหตุได้คุยโทรศัพท์กับลูกเมื่อค่ำวันที่ 17 เมษายน นัดกันจะมาจ่ายค่าห้องให้แล้วมาหาลูก แต่ต่อมาติดต่อลูกไม่ได้

ที่ผ่านมาลูกไม่เคยเล่าเรื่องปัญหาให้ฟังว่ามีปัญหาอะไรกับผู้ชายคนนี้ ส่วนใหญ่ลูกจะคุยกับแม่ เนื่องจากตนกับแม่แยกกันอยู่ โดยมีประเด็นสงสัยว่าทำไมเขาถึงมีอาวุธปืนที่มีความรุนแรงขนาดนี้ และอีกประการหนึ่งคือ ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงขึ้นไปยังห้องลูกสาวตนได้ทั้งที่ย้ายหนีมาแล้ว และการขึ้นห้องพักต้องมีรหัสผ่าน

ด้านเพื่อนสนิทของจีจี้กล่าวว่า หลังจากไม่มีใครติดต่อกับจีจี้ได้ ปกติไม่เคยเป็นแบบนี้ หรือหายไปนานแบบนี้ จึงพาแม่ไปดูที่ห้องเกิดเหตุ เพราะรู้รหัสห้องเนื่องจากไปหากันประจำ ล่าสุดเจอกันก่อนสงกรานต์ยังคุยเล่นกันอยู่ โดยจีจี้เคยเล่าให้ฟังว่า เมื่อปีก่อนเคยโดนทำร้ายมีรอยฟกช้ำตามร่างกาย ต่อมาผู้ชายมีนิสัยดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้