ป.ป.ช. ฟัน อดีตเลขาฯสภา ทุจริตจัดซื้อนาฬิการัฐสภา

ป.ป.ช.

“ป.ป.ช.” ชี้มูลความผิด “สุวิจักขณ์ นาควัชระชัย” อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรกับพวก ผิดวินัย-อาญา ทุจริตจัดซื้อนาฬิการัฐสภาแห่งใหม่

วันที่ 14 มิถุนายน 2566 มติชนออนไลน์ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ได้พิจารณากรณีไต่สวนเรื่องโครงการการจัดซื้อนาฬิกาติดโดยรอบอาคารรัฐสภา มูลค่า 15,422,845 บาท เมื่อครั้งนายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เมื่อปี 2556

โดยมีนายสุวิจักขณ์กับพวกเป็นผู้ถูกกล่าวหา ว่าร่วมกับบริษัทเอกชนในการกำหนดสเป็ก รายละเอียด ราคากลาง โดยมีเจ้าหน้าที่ของทางสภาเข้าไปร่วมในการดำเนินการ เพื่อกำหนดล็อกสเป็กนาฬิกายี่ห้อ BODET ของบริษัท อีควิพเม้นท์ จำกัด ให้เป็นผู้ชนะ และเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับทางรัฐสภา ทั้งที่วัตถุประสงค์ของการจดจัดตั้งบริษัทไม่ได้มีเรื่องจำหน่ายและติดตั้งระบบนาฬิกาแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ยังมีการปลอมหนังสือรับรองผลงาน และสัญญาจ้างที่ใช้ประกอบการเสนอราคา จนกระทั่งมีการอนุมัติลงนามในสัญญา อีกทั้งในขั้นตอนการส่งมอบงานให้กับรัฐสภานั้น ทางบริษัท อีควิพเม้นท์ จำกัด ไม่ได้สั่งนาฬิกาเข้ามาจากผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายโดยตรง แต่สั่งจากบริษัท พรีเซียสไทม์ เทรดดิ้ง ซึ่งเป็นผู้แข่งขันอีกราย

ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วจึงมีมติชี้มูลความผิดนายสุวิจักขณ์กับพวก มีโทษทั้งวินัยและอาญา แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนายสุวิจักขณ์ได้พ้นจากการดำรงตำแหน่งแล้ว จึงพ้นวินัย ส่วนโทษทางอาญานั้น ป.ป.ช.จะส่งสำนวนไปยังอัยการเพื่อส่งฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการจัดซื้อนาฬิกาดังกล่าว เดิมจะจัดซื้อนาฬิกาแขวนผนังจำนวน 200 เรือน มูลค่าประมาณ 15 ล้านบาท หรือเฉลี่ยเรือนละ 75,000 บาท

โดยข้อดีของนาฬิกาตัวนี้มีระบบควบคุมการทำงานด้วยคลื่นวิทยุไร้สาย ที่สามารถควบคุมเวลาผ่านนาฬิกาหลัก ซึ่งเมื่อมีการตั้งเวลานาฬิกาเรือนหลัก นาฬิกาเรือนอื่น ๆ ที่อยู่ในระบบทั้งหมดก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย ไม่ต้องมานั่งตั้งเวลากันทุกเรือน รวมทั้งยังมีระบบ GPS ที่เชื่อมต่อกับดาวเทียมเพื่อแจ้งข้อมูลต่าง ๆ เช่นสามารถแสดงผลเวลาต่างประเทศในระบบมาตรฐาน GMT ได้

รวมถึงยังมีระบบการ Back Up ให้กับชุดควบคุมนาฬิกาหลักให้สามารถรักษาเวลาต่อเนื่องได้ในในกรณีเกิดเหตุกระแสไฟฟ้าขัดข้อง หรือไฟฟ้าดับได้ไม่น้อยกว่า 8 ชั่วโมงด้วย