กรมอุตุฯ เผยภาพพายุ 2 ลูกใหม่-เตือนไทยฝนตกหนัก 15-16 ก.ย.นี้

พายุดีเปรสชัน 2 ลูกในมหาสมุทรแปซิฟิก

กรมอุตุฯเตือน 15-16 ก.ย.นี้ เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะภาคเหนือ อีสาน ภาคกลาง และตะวันออก เหตุอิทธิพลจากร่องมรสุมกำลังแรงเลื่อนลงมาผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางและภาคอีสานตอนล่าง ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ยจะเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน เสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ส่วน กทม.มีฝนฟ้าคะนอง 60-80% ตลอดช่วง เผยมีพายุดีเปรสชัjน 2 ลูกใหม่ในมหาสมุทรแปซิฟิก 

วันที่ 13 กันยายน 2566 กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายอากาศทั่วไป ระหว่างวันที่ 13-19 กันยายน พ.ศ. 2566 ว่า ในช่วงวันที่ 13-17 ก.ย. 66 ร่องมรสุมกำลังแรงจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ยจะเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบนตามแนวร่องมรสุมในช่วงวันที่ 15-16 ก.ย. 66 ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก

ส่วนในช่วงวันที่ 18-19 ก.ย. 66 ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ตลอดช่วง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง

ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมี โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ข้อควรระวัง
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง

ร่องมรสุม

คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 13-19 กันยายน 2566

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 13-17 ก.ย. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 18-19 ก.ย. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 13-17 ก.ย. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 18-19 ก.ย. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

พื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนักวันที่13-14 ก.ย.2566

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 13-17 ก.ย. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 18-19 ก.ย. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 15-18 ก.ย. 66

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 15-19 ก.ย. 66

ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-36 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 14-16 ก.ย. 66

ตั้งแต่จังหวัดพังงา ขึ้นมาลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ต ลงไป : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส

กรุงเทพฯและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 14-16 ก.ย. 66

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส

พยากรณ์อากาศ 7 วัน 13-19 กันยายน 2566

พยากรณ์ฝนสะสม 10 วันล่วงหน้า

ส่วนการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุก ๆ 24 ชม. (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น. วันรุ่งขึ้น) 10 วันล่วงหน้า ระหว่าง 13-22 ก.ย. 66 อัพเดตจากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) ระบุว่า

ช่วงวันที่ 13-14 ก.ย. 66 ร่องมรสุมยังพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ภาคอีสาน ส่วนมรสุมยังคงพัดปกคลุม มีกำลังปานกลาง ทำให่้ถานการณ์ฝนในระยะนี้ ยังมีกระจายต่อเนื่อง แต่ปริมาณฝนส่วนใหญ่ยังเป็นฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง อาจมีฝนหนักบางแห่งด้านรับมรสุม และบริเวณประเทศไทยตอนบนใกล้ร่องมรสุม

ส่วนภาคใต้ยังมีฝนน้อยกว่าภาคอื่น ๆ โดยยังมีฝนบางแห่ง ด้านรับมรสุม ทั้งนี้เนื่องจากลิ่มความกดอากาศสูงจากซีกโลกใต้แผ่ขึ้นมาสูง คลื่นลมยังมีกำลังปานกลาง ชาวเรือ ชาวประมงต้องเดินเรือด้วยความระวัง

ช่วงวันที่ 15-17 ก.ย. 66 ร่องมรสุมจะเลื่อนกลับลงมาพาดภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสาน ภาคกลางตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคอีสาน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักอีกช่วง โดยเฉพาะด้านตะวันตกของภาคเหนือ (แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก กาญจนบุรี) เตรียมการและเฝ้าระวังฝนตกหนัก

ช่วง 18-22 ก.ย. 66 ฝนน้อยลงบ้าง เป็นฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง ส่วนใหญ่เกิดขึ้นบริเวณภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลาง (กทม.และปริมณฑล) ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ใกล้หย่อมความกดอากาศต่ำปกส่วนสถานการณ์ของพายุหมุนเขตร้อนในระยะยี้ มีการก่อตัวของพายุดีเปรสชั่นในมหาสมุทรแปซิฟิก แต่อยู่ห่างจากประเทศไทยมาก ยังไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด (ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลนำเข้าใหม่ ใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ)

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการวิเคราะห์แผนที่อากาศผิวพื้น ภาพถ่ายดาวเทียม และทิศทาง ความเร็วลม ที่ระดับ 925hPa (สูงจากพื้นดินประมาณ 600 ม.) พบว่า ร่องมรสุมยังพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ เมฆฝนยังปกคลุมบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ใกล้แนวร่องมรสุมและหย่อมความกดอากาศต่ำ

ในขณะที่มหาสมุทรแปซิฟิก มีพายุดีเปรสชั่น 2 ลูก แต่ยังอยู่ห่างและยังไม่มีแนวโน้ม เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยในระยะนี้ ฝนที่ตกขณะนี้ยังเกิดจากอิทธิพลของร่องมรสุม และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอยู่ในขณะนี้

กทม. พยากรณ์อากาศ 7 วัน 13-19 ก.ย.2566
กทม. พยากรณ์อากาศ 7 วัน 13-19 ก.ย. 2566