รู้จักเฮียแต๋ม เจ้าของธุรกิจขนส่งรายใหญ่ ผู้ไม่ทิ้งบิ๊กโจ๊ก ในยามลำบาก

เฮียแต๋ม

เฮียแต๋ม นักธุรกิจขนส่งรายใหญ่อุดรฯ เจ้าของบ้านเช่าที่บิ๊กโจ๊กพักอยู่ ผู้ไม่เคยทิ้ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ในยามลำบาก

วันที่ 27 กันยายน 2566 จากกรณีตำรวจไซเบอร์นำหมายค้นเข้าค้นบ้านพัก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ซอยวิภาวดีรังสิต 60 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. เมื่อเช้าวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา เนื่องจากตำรวจ 8 นาย ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทพัวพันแก๊งพนันออนไลน์ และถูกจับกุมเรียบร้อยแล้ว และจากการตรวจสอบบ้านพักทั้ง 5 หลัง ที่บิ๊กโจ๊กและลูกน้องเข้าพักอาศัย เป็นชื่อเฮียแต๋ม อายุ 63 ปี และภรรยา นักธุรกิจเจ้าของบริษัทขนส่งรายใหญ่ใน จ.อุดรธานี ทำธุรกิจขนส่งขนาดใหญ่ มี 17 สาขา ในภาคอีสานและภาคกลาง

รู้จัก เฮียแต๋ม

นายชินรัตน์ วัฒนกูล หรือ “เฮียแต๋ม” อายุ 63 ปี รู้จักและคุ้นเคยกับตำรวจในภูธรภาค 4 และภูธร จ.อุดรธานี ทั้งระดับใหญ่และเล็ก เป็นคนไม่ถือตัว แต่ไม่เปิดเผยตัว และรู้จักสนิมสนมกับ “บิ๊กโจ๊ก” เป็นอย่างดี เหมือนเครือญาติเพราะในช่วงที่บิ๊กโจ๊กเจอมรสุม มีคำสั่งให้ไปประจำที่สำนักนายกรัฐมนตรี ช่วงนั้นเพื่อนและลูกน้องก็หายหน้า แต่มีตำรวจบางนายและเสี่ยแต๋มยังคงเหมือนเดิม พาไปวัดทำบุญ พาไปบวชปฏิบัติธรรมวัดป่า เมื่อบิ๊กโจ๊กมีโอกาสมาราชการที่ จ.อุดรธานี ก็มักจะนัดพบกันเป็นประจำ

ธุรกิจเฮียแต๋ม

“เฮียแต๋ม” เป็น กก.ผจก.บริษัท พี.เค.เอ็ม.ที (2002) จำกัด ตั้งอยู่ ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี ประกอบการธุรกิจขนส่งชื่อดังของอุดรธานี “พรของแม่ขนส่ง” สร้างเครือข่ายในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และกรุงเทพฯ ปริมณฑล มีศักยภาพขนส่งสินค้าไปได้ทั่วประเทศ โดยภาคใต้อาศัยเครือข่ายที่ จ.สงขลา หรือพ่อตาบิ๊กโจ๊ก

เดิมธุรกิจเป็นของครอบครัว แต่ว่าเฮียแต๋มเข้ามาบริหารตั้งแต่ยังหนุ่ม จากธุรกิจผลิตและขนส่ง “เกลือสินเธาว์” อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี มีรถบรรทุกส่งเกลือไปยังโรงงานอุตสาหกรรม และเติบโตขึ้นต่อเนื่องจากการได้รับสิทธิขนส่งสินค้าอุปโภค-บริโภค ของห้างค้าภูธรยักษ์ใหญ่ใน จ.อุดรธานี ซึ่งมีความผูกพันเป็นเครือญาติ ขนส่งสินค้าจาก กทม.กลับมาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ย้ายศูนย์รับส่งสินค้าจากในพื้นที่ ทน.อุดรธานี ไปที่บ้านหนองนาหล่ำในปัจจุบัน

“พรของแม่ขนส่ง” เติบโตอย่างรวดเร็ว และปรับตัวเป็นผู้ประกอบการทันสมัย ยกระดับขึ้นเป็นกิจการ “โลจิสติกส์” เต็มตัว มีรถบรรทุกของตัวเอง และรถบรรทุกร่วมวิ่ง รวมแล้วหลายร้อยคัน และจากการซื้อรถบรรทุกจำนวนมาก ทำให้มาทำธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถบรรทุก มีศูนย์ตั้งอยู่ที่ จ.นครปฐม ล่าสุดมียอดรวมจำหน่ายสูงที่สุดในประเทศ

บริษัท พี.เค.เอ็ม.ที (2002) จำกัด ด้านหน้าเป็นสำนักงาน และโกดังขนาดใหญ่ มีรถบรรทุกส่งสินค้าจอดอยู่ในโกดัง ด้านหลังเป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่ ซึ่งพนักงานยังมาทำงานตามปกติ แต่ไม่พบเสี่ยแต๋ม ทราบเพียงว่าเสี่ยแต๋มกับภรรยาอยู่ที่บริษัทโชว์รูมรถใน จ.นครปฐม

ทั้งนี้ ด้านหน้าสำนักงานและโกดังขนาดใหญ่ มีรถบรรทุกส่งสินค้าจอดอยู่ในโกดังจำนวนมาก ซึ่งบริษัทขนส่งของเฮียแต๋มมีทั้งหมด 17 สาขา ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ภาคอีสานและภาคกลาง ส่วนด้านหลังเป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่ ซึ่งพนักงานยังมาทำงานตามปกติ

ข้อมูล:มติชน