กรมควบคุมโรค เผยสัปดาห์เดียวคนไทยติด ฝีดาษลิง เพิ่ม 24 ราย เสียชีวิต 1 ราย

ฝีดาษลิง ฝีดาษ

กรมควบคุมโรค เผยถึงสถานการณ์ “โรคฝีดาษวานร” ในไทยของสัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 24 ราย และมีรายงานผู้ป่วยเอชไอวีติดฝีดาษวานรเสียชีวิต 1 ราย เน้นย้ำกลุ่มเสี่ยงงดมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า

วันที่ 31 ตุลาคม 2566 นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคฝีดาษวานรในประเทศไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2566) พบผู้ติดเชื้อรวม 559 ราย เสียชีวิต 2 ราย เป็นผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง ชาวไทย 503 ราย ชาวต่างชาติ 52 ราย ไม่ระบุสัญชาติ 4 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มหลากหลายทางเพศ 474 ราย และรู้ว่าติดเชื้อ HIV 274 ราย คิดเป็นร้อยละ 44.18

ซึ่งกลุ่มอายุที่พบมากที่สุดคือ กลุ่มอายุ 30-39 ปี (241 ราย) ตามด้วยอายุ 20-29 ปี (172 ราย) ในสัปดาห์นี้พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 24 ราย กรุงเทพฯ 9 ราย เชียงใหม่และนนทบุรีจังหวัดละ 3 ราย ภูเก็ต 2 ราย นครปฐม ชลบุรี ปทุมธานี ปราจีนบุรี สระบุรี อุดรธานี และอุบลราชธานีจังหวัดละ 1 ราย

นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร
นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร

และสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานผู้ป่วยเอชไอวีติดฝีดาษวานรเสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 24 ปี เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีและขาดยามา 3 ปี ระดับเม็ดเลือดขาว CD4 เท่ากับ 3 เซลล์ต่อมิลลิลิตร เริ่มป่วยตั้งแต่ 25 สิงหาคม 2566 และไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งด้วยอาการไข้ อ่อนเพลีย มีผื่นใบหน้า หลัง มือ บริเวณอวัยวะเพศ

ซึ่งต่อมาวันที่ 12 กันยายน 2566 ได้รับการส่งต่อมารักษาที่สถาบันบำราศนราดูร เนื่องจากมีอาการรุนแรง คือผิวหนังตายบริเวณที่จมูก แผ่นหลัง และนิ้วมือ และมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนที่ผิวหนัง ในสภาพที่ผู้ป่วยเอชไอวีรายนี้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง พบการแพร่กระจายของเชื้อฝีดาษวานรไปที่ปอด ทำให้เกิดปอดอักเสบมีโรคติดเชื้อฉวยโอกาสที่เกิดจากเชื้อซีเอ็มวี (Cytomegalovirus; CMV)

ทั้งนี้ แม้ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยยา tecovirimat นาน 28 วัน ร่วมกับยาต้านไวรัสเอชไอวี และยารักษาโรคติดเชื้ออื่น ๆ ที่ตรวจพบ แต่ยังมีการตายของเนื้อเยื่อเป็นบริเวณกว้างขึ้น ต่อมามีภาวะไตวายและระบบการหายใจล้มเหลวจนเสียชีวิตในที่สุด

นายแพทย์ธงชัยกล่าวต่อว่า อาการของโรคฝีดาษวานรที่พบบ่อย ได้แก่ มีผื่น มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ต่อมน้ำเหลืองโต และอาการคัน สำหรับการรักษานั้น หากผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง ไม่มีโรคอื่นร่วมด้วย จะรักษาตามอาการ และสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง มีโรคประจำตัวร่วม เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี จะให้ยาต้านไวรัส Tecovirimat (TPOXX) โดยเร็ว

ซึ่งผลการรักษาส่วนใหญ่จะอาการดีขึ้น แต่มีบางรายที่ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องรุนแรงจะเสียชีวิต โดยกระทรวงสาธารณสุขกระจายยาต้านไวรัสดังกล่าวไปไว้ที่โรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดที่พบการระบาด

อย่างไรก็ตาม โรคฝีดาษวานรสามารถป้องกันได้ โดยหลีกเลี่ยงการมีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้การติดเชื้อโรคฝีดาษวานรและงดมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า เพื่อป้องกันเองและลดการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น รวมถึงไม่สัมผัสใกล้ชิดแนบเนื้อกับผู้ที่มีผื่น ตุ่ม หรือหนอง แนะนำให้ล้างมือบ่อย ๆ ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น

และขอความร่วมมือหน่วยงานสาธารณสุขทุกจังหวัดเฝ้าระวัง และติดตามกลุ่มเสี่ยงพร้อมทั้งสื่อสารให้ความรู้วิธีการป้องกัน หากประชาชนมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำในการปฏิบัติตัวสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422