แม้ไม่ใช่ของขวัญปีใหม่ แต่ก็เสมือนเป็นของขวัญปีใหม่ 2567 ให้กับประชาชนทั้งประเทศ จากการเร่งรัด-ขับเคลื่อนเมกะโปรเจ็กต์การลงทุนภาครัฐ ภายใต้กระทรวงคมนาคม
โดย 3 รัฐมนตรีคมนาคม “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ-มนพร เจริญศรี-สุรพงษ์ ปิยะโชติ” เพิ่งประกาศผลงาน “99 วัน 9 เรื่องเด่น” เร่งรัดทุกโปรเจ็กต์คมนาคม เชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งครบทุกโหมด ทั้งบก-ราง-น้ำ-อากาศ สนองนโยบาย Quick Win ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเติบโต ประชาชนอยู่ดี มีสุข
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
ทำทันที 20 บาท 2 รถไฟฟ้า
ทั้งนี้ ผลงานในช่วงบริหารราชการแผ่นดินกระทรวงคมนาคม 99 วันแรก (ณ 20 ธันวาคม 2566) มี 9 โครงการเด่นที่ได้ดำเนินการ และผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรม ดังนี้
1.นโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย หรือมาตรการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 20 บาท ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2566 เป็นต้น
แบ่งดำเนินการ 2 เส้นทางแรก คือ รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ กับรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน ถือเป็นนโยบาย Quick Win นโยบายแรกของรัฐบาล
ส่วนการขยายผล 20 บาทตลอดสายไปยังเส้นทางอื่น ๆ นั้น ขณะนี้กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างการหารือและพิจารณาร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะสามารถเปิดให้ใช้บริการได้ในระยะต่อไป
ยกระดับสนามบินนานาชาติ
2.การเปิดใช้สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ 24 ชั่วโมง โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2566 ถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2566 เพื่อรองรับปริมาณเที่ยวบินในปัจจุบัน และกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว รวมถึงรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
3.เปิดอาคารเทียบเครื่องบินรอง หลังที่ 1 (SAT-1) พร้อมทั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติเชื่อมต่อระหว่างอาคาร SAT-1 กับอาคารผู้โดยสารหลัก ซึ่งได้เปิดให้บริการแล้วเมื่อเดือนกันยายน 2566
ในการนี้ มีผลทำให้สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้น จาก 45 ล้านคนต่อปี ศักยภาพทะยานขึ้นเป็น 60 ล้านคนต่อปี รองรับการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวประเทศไทย ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน
เปิดใช้ก่อนมอเตอร์เวย์-ทางคู่
4.เร่งรัดการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ หรือภาษาราชการ เรียกว่าทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ไทม์ไลน์ที่ได้รับทราบข้อมูลล่วงหน้าประปรายบ้างแล้วก็คือ เตรียมเปิดให้ประชาชนใช้บริการฟรี 2 เส้นทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567
ได้แก่ เส้นทางมอเตอร์เวย์ รหัส M6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา ช่วงปากช่อง-ทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมา ระยะทาง 77 กิโลเมตร กับมอเตอร์เวย์ รหัส M81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ช่วงนครปฐม ฝั่งตะวันตก-กาญจนบุรี ระยะทาง 51 กิโลเมตร
ข่าวดีสำหรับผู้ใช้เส้นทางก็คือ กระทรวงเปิดให้บริการใช้งานฟรีต่อเนื่อง จนกว่าการก่อสร้างด่านเก็บค่าผ่านทางจะแล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกรวดเร็วในการเดินทาง
เมกะโปรเจ็กต์ทางบก ยังได้เร่งรัดโครงการรถไฟทางคู่สายใต้ เส้นทางนครปฐม-ชุมพร โดยเปิดให้บริการช่วงสถานีบ้านคูบัว จ.ราชบุรี ถึงสถานีสะพลี จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนถึงจุดหมายได้เร็วขึ้นถึง 1 ชั่วโมง 30 นาที เพื่อให้เกิดความสะดวกในการเดินทางของประชาชน รวมทั้งการขนส่งสินค้า โดยไม่ต้องเสียเวลาในการรอหลีกขบวนรถอีกต่อไป
ท่าเรือเจ้าพระยาต้องปลอดภัย
5.พัฒนาท่าเรืออัจฉริยะ โดยการยกระดับมาตรฐานและความปลอดภัยท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ให้สามารถเชื่อมโยงกับระบบขนส่งรูปแบบอื่น โดยการให้บริการด้วยระบบตั๋วร่วม พร้อมทั้งออกแบบรองรับผู้ใช้บริการทุกประเภท
รายละเอียด มีแผนพัฒนาท่าเรือเป็นสถานีเรือ (ระบบปิด) จำนวนทั้งหมด 29 ท่า ล่าสุดปรับปรุงเสร็จแล้ว จำนวน 9 ท่า อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงและก่อสร้าง จำนวน 5 ท่า แผนงานส่วนที่เหลืออีกจำนวน 15 ท่า จะมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องต่อไป
ลุยแลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง
6.เดินหน้าโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมทะเลอ่าวไทย-อันดามัน (Landbridge) โดยกระทรวงคมนาคมได้เร่งรัดดำเนินโครงการให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ซึ่งนับวันโครงการนี้จะทวีความสำคัญมากขึ้น เพราะถูกบรรจุอยู่ในแผนโรดโชว์ของรัฐบาลเศรษฐา เพื่อดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนกระเป๋าหนักทั่วทุกมุมโลก
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้เริ่มดำเนินการรับฟังความคิดเห็นจากนักลงทุนต่างประเทศ (Roadshow) หลายครั้ง โดยล่าสุดได้ร่วมประชาสัมพันธ์โครงการ Landbridge ในการประชุมเอเปค ครั้งที่ 30 ประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น ซึ่งการประชุมในครั้งนี้มีนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นสนใจเป็นจำนวนมาก
7.การปรับเปลี่ยนรถยนต์ใช้น้ำมัน หรือที่เรียกว่า รถสันดาป มาเป็น รถยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV จุดโฟกัสอยู่ที่การขับเคลื่อนปรับปรุงรถสาธารณะทุกชนิดให้เป็น EV
โดยกระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด ทั้งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ พิจารณาเปลี่ยนรถยนต์สันดาปที่หมดอายุสัญญาเช่าให้เป็นรถยนต์ EV ซึ่งจะนำร่องกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ในการทยอยปรับเปลี่ยนรถที่ให้บริการในท่าอากาศยานทั้งหมด ให้เป็นรถยนต์ EV รวมถึงรถส่วนกลางที่จะหมดสัญญาเช่า จะเริ่มสัญญาเช่ารถใหม่ให้เป็นรถยนต์ EV ด้วย
ผลงานในเรื่องนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่ง และเป็นส่วนสำคัญในการช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศ หรือฝุ่นละออง PM 2.5 สอดรับนโยบายอากาศสะอาดเพื่อประชาชน
อัพสเกลอินฟราสตรักเจอร์ภูเก็ต
8.โครงการพัฒนาระบบโครงข่ายคมนาคมจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ การพัฒนาทางอากาศยานภูเก็ต (ระยะที่ 2) คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2572, โครงการก่อสร้างขยายช่องจราจร ทล.4027 ช่วงบ้านพารา-บ้านเมืองใหม่, โครงการทางด่วนหรือทางพิเศษ สายกะทู้-ป่าตอง, การพัฒนาสนามบินนานาชาติภูเก็ต แห่งที่ 2 จ.พังงา
ความคืบหน้าล่าสุด ทอท.อยู่ระหว่างทบทวนข้อกำหนดรายละเอียด ในการจ้างที่ปรึกษาศึกษาความเป็นไปได้ และความคุ้มค่าในการลงทุนโครงการในเบื้องต้น
นอกจากนี้ยังมีโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 (ช่วงสนามบิน-ห้าแยกฉลอง) งานบนหน้าตักของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพ (รฟม.) อยู่ระหว่างศึกษาทบทวนรายละเอียดความเหมาะสมของโครงการ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุน ตามข้อสั่งการของกระทรวงคมนาคม คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2574
ในอนาคตเมกะโปรเจ็กต์ภาครัฐของกระทรวงในจังหวัดภูเก็ตทั้งหมดนี้ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะสามารถลดปัญหาการจราจร และเพื่อเสริมศักยภาพให้ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก และเป็นเมืองน่าอยู่ มีการเดินทางที่สะดวกสบายและทันสมัย
ปราบส่วยทางหลวง-ปรามทุจริต
9.การปราบส่วยทางหลวง แก้ปัญหาการทุจริต โดยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งแก้ไขปัญหาอย่างเคร่งครัด ความเอาจริงเอาจังสามารถชี้วัดได้จากมีการแก้ไขข้อกฎหมายให้มีบทลงโทษมากขึ้น รวมถึงมีศูนย์รับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ตลอด 24 ชั่วโมง
ซึ่งในช่วง 99 วันแรก ทุกหน่วยงานสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้อย่างรวดเร็ว
“ทั้ง 9 ผลงานมั่นใจว่าสามารถขับเคลื่อนภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน และเป็นการพัฒนาระบบคมนาคมให้มีมาตรฐานตามระดับสากล รวมถึงเพื่อยกระดับความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ดีขึ้น และกระจายความเจริญไปสู่ทุกภูมิภาค” คำกล่าวของ รมว.สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
