กรมอุตุฯประกาศฉบับที่ 4 เตือนอุณหภูมิลด 1-5 องศา กระทบ 31 จังหวัด

ภาพ : ORAPIN WACHANGNGOEN

กรมอุตุฯออกประกาศเตือนฉบับที่ 4 อากาศแปรปรวน ช่วง 9-13 ก.พ.นี้ อุณหภูมิลด 1-5 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง และอาจมีลูกเก็บตกบางพื้นที่ได้ช่วง 9-10 ก.พ. ระบุภาคอีสานอุณหภูมิจะลดลงมากสุด 3-5 องศา มีจังหวัดได้รับผลกระทบ 31 จังหวัด รวม กทม.และปริมณฑล

วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 นางสาวกรรวี สิทธิชีวภาค อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เตือนภัยลักษณะอากาศ เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ฉบับที่ 4 (26/2567) มีผลกระทบในช่วงวันที่ 9-13 กุมภาพันธ์ 2567

ประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่าในช่วงวันที่ 9-13 ก.พ. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน

ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่งเกิดขึ้นได้ในช่วงวันที่ 9-10 ก.พ. 67 หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนบนของภาค ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นโดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาไม่แข็งแรงในระยะนี้

Advertisment

จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงมีดังนี้

วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง : จังหวัดลพบุรี และสระบุรี

Advertisment

ภาคตะวันออก : จังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567

ภาคเหนือ : จังหวัดอุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคใต้ : จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์

ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 10-13 ก.พ. 67 โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่ง รวมทั้งระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ

อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า
โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 14-19 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง
บริเวณจังหวัดชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-16 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคกลาง

มีหมอกในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง
บริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎ์ธานี นครศรีธรรมราช และพัทลุง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎ์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

เมฆบางส่วน กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต และกระบี่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

กรุงเทพฯและปริมณฑล

มีหมอกบางในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

(ออกประกาศ 9 กุมภาพันธ์ 2567)