ในประเทศ

อธิบดีดีเอสไอเผยยังไม่ชัด”ธัมมชโย”อยู่ยุโรป ชี้ถ้าพบใช้หลักเกณฑ์เดียวกับ”เณรคำ”

อธิบดีดีเอสไอเผยยังไม่ชัด ’พระธัมมชโย’ อยู่ยุโรป ชี้ถ้าพบใช้หลักเกณฑ์เดียวกับ ’เณรคำ’ ขอตัวส่งตัวกลับดำเนินคดีเมืองไทย

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีดำเนินคดีกับพระธัมมโยว่า ในส่วนของเรื่องการดำเนินคดีพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในส่วนของคดีนั้น มีอยู่ 15 คดี ในคดีทุจริตสหกรณ์คลองจั่นยูเนี่ยน ซึ่งบางคดีก็เสร็จไปแล้วอยู่ระหว่างการขยายผล ซึ่งทางดีเอสไอได้ติดตามเส้นทางของเงินทั้งหมดว่าได้มีการจ่ายค่าอะไรบ้าง ถ้าหากเข้าข่ายพฤติกรรมการฟอกเงินก็จะดำเนินคดี ระหว่างนี้ยังคงติดตามคดีนี้อยู่และไม่ได้เสนอข่าวต่อสื่อมวลชนเท่านั้น เส้นทางการเงินในปี 2552-2556 ยังคงต้องตามเงินออกจากสหกรณ์และไปไหนบ้าง ในส่วนการปฏิบัติการงานสืบสวน ซึ่งหลายหน่วยก็เริ่มกันอยู่หากเรามีข้อมูลชัดเจนนั้นเราก็จะเริ่มดำเนินการต่อไป

พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวอีกว่า ในส่วนของการติดตามตัวพระธัมมชโยนั้นก็ยังคงดำเนินการอยู่ตอนนี้ก็มีการข่าวแจ้งมายังดีเอสไอจากหลายส่วน ทั้งยังอยู่ในประเทศไทย และหลบหนีไปทางต่างประเทศ โดยช่องทางธรรมชาติไม่ใช่ช่องทางปกติ โดยมีกลุ่มลูกศิษย์พาหลบหนีไปยังกลุ่มประเทศแถบยุโรป ซึ่งดีเอสไอก็ได้ตรวจสอบไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการยืนยัน หากได้รับการยืนยันชัดเจน ก็สามารถประสานขอตัวกลับมาดำเนินคดีได้ เช่นเดียวกับนายวิรพล สุขผล หรือเณรคำ

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า เบื้องต้น ยังไม่ได้รายงานพระธัมมชโยหลบหนี แต่ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง เนื่องจากพระธัมมโย เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ และในระบบคัดกรองบุคคลมีหมายจับ ก็มีชื่อพระธัมมโยอยู่ในนั้น ส่วนการหลบหนีออกนอกประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ ตำรวจมีการเฝ้าระวังแต่ประเทศไทยมีเขตแดนกว้างใหญ่ เส้นชายแดนล้อมลอบ ซึ่งขณะนี้ทุกหน่วยก็พยายามติดตามอยู่ ถ้ามีข่าวหรือเบาะแสก็สามารถแจ้งมาได้ยังเจ้าหน้าที่ได้

เมื่อถามว่า จะมีการประสานตำรวจสากลอย่างไรเพื่อติดตามตัวธัมมชโยหรือไม่ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า คดีนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นเพียงหน่วยเสริมและสนับสนุนการทำงาน ขึ้นอยู่กับว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ จะประสานอะไรช่วยเหลืออะไร แต่หน้าที่หลักของตำรวจจะเป็นในส่วนของ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ซึ่งมีหน้าที่คัดกรองบุคคลเข้าออกประเทศ มีการเฝ้าระวังมาโดยตลอด ไม่ใช่เฉพาะกรณีของพระธัมมชโยเท่านั้น ผู้ต้องหาคดีอื่นๆก็มีการเฝ้าระวังและติดตามอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ทุกรายชื่อที่มีหมายจับมีการแจ้งเตือนเฝ้าระวัง ทุกด่านมีบัญชีรายชื่อบุคคลต้องห้าม บุคคลเฝ้าระวังอยู่แล้ว ซึ่งการเฝ้าระวังช่องทางธรรมชาติ ที่ผ่านมาตำรวจได้มีการบูรณาการ การทำงานร่วมกับทหารฝ่ายปกครอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดกรองบุคคล ไม่ให้บุคคลเล็ดลอดออกไปได้ ทั้งนี้ยินดีจะดำเนินการหากกรมสอบสวนคดีพิเศษประสานมาให้ตรวจสอบด่านธรรมชาติทั่วประเทศ

 

ที่มา : มติชนออนไลน์