
กระทรวงการคลังร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 7 แห่ง รับซื้อ “มังคุด-ลำไย” ช่วงปริมาณผลผลิตล้นตลาด ช่วยเหลือเกษตรกรกว่า 55 ตัน
วันที่ 25 กรกฎาคม 2567 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมหารือความร่วมมือของกระทรวงการคลังและสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) ทั้ง 7 แห่ง ได้แก่
1.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
2.ธนาคารออมสิน
3.ธนาคารอาคารสงเคราะห์
4.ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
5.ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
6.ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
7.บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม
เพื่อพิจารณาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกมังคุดและลำไยในช่วงที่ผลผลิตล้นตลาด ทั้งนี้ ผลจากการหารือได้ข้อสรุปว่า สถาบันการเงินเฉพาะกิจจะร่วมกันช่วยรับซื้อผลผลิตมังคุดและลำไยจากเกษตรกร โดยมีเป้าหมายจะรับซื้อมังคุดประมาณ 29 ตัน และลำไยประมาณ 26 ตัน รวมทั้งสิ้น 55 ตัน และกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน จะช่วยเหลือในส่วนของการจัดส่งผลผลิตผลไม้ดังกล่าว
ด้านนายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงการคลังได้หารือร่วมกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อพิจารณาแนวทางขับเคลื่อนมาตรการบริหารจัดการพืชเกษตรเศรษฐกิจตัวรอง ปี 2567 เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567 และกระทรวงพาณิชย์ได้ประสานงานมายังกระทรวงการคลังเกี่ยวกับฤดูการผลิตผลไม้สำคัญที่คาดว่าจะออกสู่ตลาดจำนวนมากในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม 2567 และมีแนวโน้มที่เกษตรกรอาจประสบปัญหาด้านราคาในช่วงที่ผลผลิตกระจุกตัว ได้แก่
– มังคุด (ภาคใต้)
– ลำไย (ภาคเหนือ)
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จึงขอความร่วมมือกระทรวงการคลังในการช่วยดูดซับผลผลิตผลไม้ในช่วงดังกล่าว ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งในการรักษาระดับเสถียรภาพด้านราคา ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงได้จัดประชุมร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจทุกแห่ง เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 เพื่อขอความร่วมมือสถาบันการเงินเฉพาะกิจให้ช่วยรับซื้อผลผลิตมังคุดและลำไยจากเกษตรกรในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อลดปริมาณผลผลิตที่ล้นตลาด
โดยผลการประชุมคาดว่าสถาบันการเงินเฉพาะกิจจะสามารถรับซื้อมังคุดและลำไยจากเกษตรกรในช่วงดังกล่าวได้ประมาณ 55 ตัน ประกอบด้วย มังคุด 29 ตัน และลำไย 26 ตัน นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายในจะร่วมช่วยเหลือเกษตรกรในส่วนของการจัดส่งผลผลิตให้กับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
“การดำเนินการในครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ซึ่งพร้อมให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมังคุดและลำไย และทุกภาคส่วนที่ร่วมกันในวันนี้คาดหวังว่า การช่วยรับซื้อผลผลิตมังคุดและลำไยจากเกษตรกรในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก จะช่วยดูดซับปริมาณผลผลิตที่ล้นตลาด พยุงราคาผลไม้ ยกระดับรายได้ให้แก่เกษตรกร และก่อให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในพื้นที่เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่อไป” นายพรชัยกล่าว