‘เก่ง หงส์ไทย’ จากเด็กขาย ‘พิมเสน’ สู่เจ้าของกลิ่น 500 ล้าน 

“เก่ง-ธีระพงศ์ ระบือธรรม” ไม่คิดเหมือนกันว่า “หงส์ไทย” จะมาไกลขนาดไปอยู่ในมือของซุปตาร์ระดับโลกอย่าง ลิซ่า ลลิษา มโนบาล, คริส เฮมส์เวิร์ธ ดาวดังฮอลลีวูด, เซนทรัล ซี แรปเปอร์ชาวอังกฤษ รวมถึงเป็นเบื้องหลังความผ่อนคลายชั้นดีให้กับบรรดานักกีฬาโอลิมปิกไทย ในปารีส 2024

จากเด็กเร่ขายพิมเสนน้ำที่ได้สูตรมาจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันนี้ เก่ง ธีระพงศ์ เตรียมพากลิ่นหงส์ไทยทะยานสู่ยอดขายระดับ 500 ล้าน

ชีวิตโชกโชน ทุนหลักร้อย-ผลหลักล้าน

เก่ง ธีระพงศ์ ประสบการณ์โชกโชน เกิดและโตย่านตลาดพลู แถววัดสระเเก ฝั่งธนบุรี ครอบครัวยากจน คุณพ่อขับแท็กซี่ คุณแม่เป็นแม่บ้าน มีลูก ๆ 6 คน อาศัยในบ้านพักขนาดเล็ก

“ขนาดผ้าห่มยังต้องผ่อนเลยครับ” เขาอธิบายสถานะครอบครัว

ผ่านการทำงานมาตั้งแต่อายุ 13 ปี จากเด็กจัดเก็บอุปกรณ์เล็กทรอนิกส์ ขับรถเวสป้าส่งเอกสาร รวมถึงทำโบรชัวร์สินค้า ก่อนเข้ารับราชการทหารเมื่ออายุ 20 ปี

หลังปลดประจำการ วิ่งสมัครหางานในฐานะเซลส์แมนแต่ไม่มีใครรับ หันมาเลี้ยงชีพด้วยการขายแคบหมูและน้ำพริก วันดีคืนดีอ่านหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ สะดุดกับมุมสร้างอาชีพ “สอนทำพิมเสนน้ำ” จึงไปลงคอร์ส เสียค่าเรียน 200 บาท

Advertisment

“ทดลองปรับปรุงไปเรื่อย ๆ” เขาบอกตระเวนขายริมทางไปทั่วยันปั๊มน้ำมัน

รอบแรกไม่ประสบความสำเร็จหยุดไป 2 เดือน กลับไปทบทวนกลับมารอบที่ 2 ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ หันกลับไปทำงานประจำราว 3 ปีครึ่งจนกระทั่งค้นพบประโยคเปลี่ยนชีวิตและเป็นใจความสำคัญของผู้บริโภค

Advertisment

“เด็กปั๊มบอกว่าพี่หายไปไหนมา ลูกค้ามาถามหาของพี่อยู่เลยนะ”

มีลูกค้ามาตระเวนตามหากลิ่นทรงพลังในช่วงที่เขาหายหน้าไป ไฟที่เคยดับกลับมาลุกโชน

“มันทำให้เรารู้สึกว่า ของเรามีคุณภาพ” เก่ง ธีระพงศ์ หลับตาสูดลมหายใจปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทดลองนับร้อยรอบ รวมถึงรับฟังคำตำหนิอย่างจริงใจ จนกลายเป็นตำนานในปัจจุบัน

สีเขียวหงส์ไทย

เครือหงส์ไทยมีหลากหลายผลิตภัณฑ์สมุนไพร ประเภทยาใช้ภายนอก ทั้งดม ทา นวด คลึง
ในส่วนของยาดมปัจจุบันมีอยู่ 6 ชนิด และแน่นอนว่า “สีเขียว” นั่นคือเบอร์ 1

“เป็นน้ำมันและเนื้อสมุนไพรที่เหลืออยู่ในโหล เราลองดม ๆ ดูแล้ว โอ้โห…ทำไมมันโล่งและรู้สึกดีจัง ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าจะขายได้หรือเปล่า”

ทดลองขายในตลาดช่วงแรกราว 30-40 กระป๋อง/วัน ทำอยู่ราวเดือนกว่า ๆ มีดีมานด์เป็น “ออร์เดอร์ของชำร่วย” 600 กระป๋อง

“กระป๋องก็ไม่สวย สลากก็ไม่มี ผมเชื่อว่าน่าจะมีเสน่ห์บางอย่างที่ลูกค้าดมแล้วรู้สึกดีเหมือนกับเรา”
จาก 600 กระป๋องวันนั้น วันนี้ยังไม่มีท่าทีจะหยุดผลิตเลยแม้แต่วันเดียว

รับคำตำหนิ-ก้าวสู่ 500 ล้าน

เบื้องหลังความสำเร็จของหงส์ไทยและผู้นำทัพอย่าง เก่ง ธีระพงศ์ คือการเปิดกว้างและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง

“ถูกตำหนิเยอะครับ ช่วงเริ่มต้นทุกวัน ทำไมเราถึงพัฒนาไปกว่า 500 รอบ นั่นแปลว่าเรายังไม่เก่ง”

เมื่อถูกตำหนิจากลูกค้ากลุ่มหนึ่ง หากปฏิเสธไม่แก้ไข เราจะไม่ได้ลูกค้ากลุ่มนั้น แต่หากคิดและทบทวน มองเป็นโอกาสในการปรับปรุง ผลลัพธ์นั้นแสนหอมหวาน

“ถ้าทำธุรกิจแล้วหลงตัวเอง คุณจะไม่ได้แก้ไขตัวเองเลย”

“ทำไปแก้ไป ใจสู้ เชื่ออย่างหนึ่งว่าการมีใจสู้นี่แหละทำให้เราถึงเส้นชัยได้”

ปัจจุบันหงส์ไทยมีพนักงานราว 500 คน มีกำลังการผลิตมากกว่า 3 ล้านชิ้นต่อเดือน นับรวมทุกผลิตภัณฑ์ในเครือ

ยาดม 6 ตัวกินส่วนแบ่งการตลาดราว 80 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ในภาพรวมตลาด “ยาดม” ทั่วประเทศ หงส์ไทยมีส่วนแบ่งอยู่ราว 15 เปอร์เซ็นต์ คาดการณ์ยอดขายรวมทั้งปี’67 อยู่ที่ 500 ล้านบาท

เมื่อปี 2564 บริษัท เบอร์แทรม (1958) จำกัด ผู้ผลิตและทำตลาดผลิตภัณฑ์ยาดมเป๊ปเปอร์มินท์ ฟิลด์ และยาหม่องน้ำเซียงเพียวอิ๊ว ประเมินว่า ตลาดยาดมมีมูลค่าประมาณ 4,500 ล้านบาทต่อปี จากฐานประชากรคนไทยที่น่าจะใช้ยาดมกันไม่น้อยกว่า 10%

ส่วนใหญ่จะซื้อกันมากกว่า 1 ชิ้น เพราะเป็นหนึ่งสินค้าที่หายบ่อย จึงประเมินด้วยตัวเลขขั้นต่ำที่คนละ 2 ชิ้น คำนวณกับราคาเฉลี่ยที่ราว 20-30 บาท จะได้มูลค่าตลาดคร่าว ๆ ได้ประมาณ 4,500 ล้านบาท

ผู้บริหารวัย 50 ปี บอกว่าเป้าหมายในปี’70 คือการก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในฐานะผู้ผลิตที่ให้บริการหลังการขายดีที่สุดในไทย ส่งเสริมให้คู่ค้า-ลูกค้าเติบโตไปด้วยกัน ดูแลอย่างเป็นธรรมและคงคุณภาพในระดับสูง

“สินค้าตัวอย่าง ขายไม่ออก ชำรุดเสียหาย เปลี่ยนแปลงได้ ไม่มีการยัดเยียดเพื่อให้ได้ยอด เราจะสร้างความเป็นธรรมในทุก ๆ การค้า” เขาบอกเมื่อผู้ผลิตสามารถส่งผ่านความเข้าใจที่มีต่อสินค้าไปยังผู้บริโภคได้สำเร็จ กลิ่นหงส์ไทยก็ลอยไปทั่วโลก

—————-

ขอบคุณภาพและเนื้อหาบางส่วนจากรายการ Time To Talk-Voice TV