รถ BRT EV เก็บค่าโดยสาร 15 บาท เริ่ม 1 พ.ย. 67 จ่ายผ่านช่องทางไหน

ค่าโดยสาร รถ BRT รถโดยสารด่วนพิเศษ BRT

รถโดยสารด่วนพิเศษ BRT รุ่นใหม่ BRT EV เตรียมเก็บค่าโดยสาร 15 บาท ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป หลังเปิดให้ทดลองนั่งฟรี 2 เดือน จ่ายได้ผ่านช่องทางไหน ทำอย่างไร เช็กรายละเอียดที่นี่

จากกรณี บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (บีทีเอสซี) ผู้ชนะการประมูลโครงการเดินรถโดยสารด่วนพิเศษ BRT โฉมใหม่ รถ BRT-EV และได้เริ่มให้บริการในเส้นทางสาทร – ราชพฤกษ์ ฟรี ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน-31 ตุลาคม 2567 (ฟรี 2 เดือน) เวลาให้บริการ 06.00 – 22.00 น.

ล่าสุด สำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร (สจส.) แจ้งว่า วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2567 นี้ จะเป็นวันแรกที่มีการเก็บค่าโดยสาร รถโดยสารด่วนพิเศษ BRT และระบุว่าสามารถชำระค่าโดยสารได้ผ่าน BRT E-Ticket ผ่านมือถือ และ บัตรแรบบิท โดยที่สถานีจะไม่มีช่องทางการจำหน่ายบัตรโดยสาร

“ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมข้อมูลสำคัญ ก่อนเริ่มจ่ายค่าโดยสาร รถ BRT ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายนนี้

ค่าโดยสาร BRT จ่ายได้ผ่านช่องทางไหน ?

ค่าโดยสาร รถโดยสารด่วนพิเศษ BRT สามารถชำระได้ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้

  • BRT E-Ticket โดยซื้อได้ผ่านไลน์ออฟฟิเชียล @brteticket และจ่ายด้วยการสแกน QR Payment ผ่านแอปธนาคารต่าง ๆ
  • บัตรแรบบิท ทุกประเภท (บุคคลทั่วไป/นักเรียน-นักศึกษา/ผู้สูงอายุ) ยกเว้นบัตรที่ผูกกับบัญชีไลน์ เพย์

ค่าโดยสาร BRT กี่บาท ?

ค่าโดยสาร รถโดยสารด่วนพิเศษ BRT มีอัตราอยู่ที่ 15 บาทตลอดสาย โดยนักเรียน-นักศึกษา และผู้สูงอายุ ที่จ่ายด้วยบัตรแรบบิท จะได้รับส่วนลดค่าโดยสาร ทำให้อัตราค่าโดยสารเป็นดังนี้

ADVERTISMENT
  • ใช้ตั๋ว BRT E-Ticket – 15 บาทตลอดสาย
  • ใช้บัตรแรบบิท ประเภทบุคคลทั่วไป – 15 บาทตลอดสาย
  • ใช้บัตรแรบบิท ประเภทนักเรียน-นักศึกษา – 11 บาทตลอดสาย
  • ใช้บัตรแรบบิท ประเภทผู้สูงอายุ – 11 บาทตลอดสาย

ซื้อ BRT E-Ticket ขึ้นรถโดยสาร BRT ทำอย่างไร ?

วิธีการซื้อ BRT E-Ticket เพื่อขึ้นรถโดยสาร BRT มีขั้นตอนดังนี้

  1. เพิ่มเพื่อน LINE Official Account BRT E-Ticket @brteticket
  2. เมื่อเพิ่มเพื่อนแล้ว เลือกเมนู “ซื้อ E-Ticket”
  3. เลือกสถานีต้นทาง-ปลายทาง จำนวนบัตรโดยสารที่ต้องการซื้อ
  4. ตรวจสอบรายละเอียด และกดชำระเงิน
  5. กด “Pay Now”
  6. เลือกช่องทางการชำระเงิน
  7. ทำการชำระเงินโดยการบันทึกรูปภาพ QR Code และจ่ายผ่านโมบายแบงกิ้ง
  8. เมื่อชำระเงินสำเร็จ จะได้รับ BRT E-Ticket

วิธีการจ่ายค่าโดยสารด้วย BRT E-Ticket มีขั้นตอนดังนี้

ADVERTISMENT
  1. ในหน้าแชต LINE Official BRT E-Ticket เลือกเมนู “ตั๋วของฉัน”
  2. กดเลือกตั๋วที่ต้องการใช้เดินทาง
  3. เมื่อหน้าจอแสดง QR Code ของ BRT E-Ticket ให้นำไปสแกนที่เครื่องชำระเงิน บริเวณทางเข้ารถโดยสาร จนเครื่องชำระเงินแสดงหน้าจอ “ชำระค่าโดยสารสำเร็จ”

ทั้งนี้ ตั๋ว BRT E-Ticket มีเงื่อนไขในการซื้อและการใช้ ดังนี้

  • BRT e-Ticket ที่ทำการซื้อผ่านช่องทาง LINE Official Account: BRT E-Ticket เป็นราคาปกติเท่านั้น ไม่สามารถใช้ส่วนลดค่าโดยสารใดๆ ได้
  • จำกัดการซื้อ BRT e-Ticket ได้สูงสุด 4 (สี่) ในต่อครั้งเท่านั้น
  • BRT e-Ticket ที่ทำการซื้อแล้วสามารถใช้ได้ภายในวันที่ซื้อเท่านั้น ทั้งนี้ท่านสามารถใช้ได้จนถึงเวลาให้บริการรถโดยสารด่วนพิเศษ (BRT) เที่ยวสุดท้ายในแต่ละวัน
  • BRT e-Ticket 1 (หนึ่ง) ใบ สามารถใช้ได้ 1 (หนึ่ง) คน ต่อครั้งเท่านั้น และเมื่อมีการใช้ BRT e-Ticket แล้วจะไม่สามารถนำมาใช้ซ้ำได้อีก
  • BRT e-Ticket ที่ทำการซื้อแล้ว ไม่สามามารถยกเลิก ขอคืน แลก เปลี่ยน และ/หรือ ทอนเป็นเงินสด หรือสิ่งอื่นใดได้ในทุกกรณี
  • โปรดเก็บและแสดง BRT e-Ticket เป็นหลักฐาน หากมีการขอตรวจสอบผู้ที่ไม่มีหลักฐานยืนยันได้ว่ามีการชำระค่าโดยสาร จะต้องทำการชำระค่าโดยสารหรืออาจถูกปรับตามที่ BMA กำหนด
  • ราคาค่าโดยสารเป็นไปตามที่กรุงเทพมหานคร (“BMA”) ประกาศกำหนด
  • หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือแจ้งปัญหาการใช้งาน สามารถติดต่อได้ที่ Rabbit Hotline โทร 02-617-8383

ขึ้นรถโดยสาร BRT จ่ายด้วยบัตรแรบบิท ทำอย่างไร ?

ขั้นตอนการใช้บัตรแรบบิท เพื่อชำระค่าโดยสาร รถโดยสารด่วนพิเศษ BRT มีขั้นตอนดังนี้

  1. เตรียมบัตรแรบบิท พร้อมเติมเงิน
  2. เมื่อขึ้นรถโดยสารแล้ว แตะบัตรแรบบิทที่เครื่องรับชำระเงิน จนกว่าหน้าจอแสดงคำว่า “ชำระค่าโดยสารสำเร็จ”

สำหรับผู้ที่ยังไม่มีบัตรแรบบิท หรือต้องการเติมเงินบัตรแรบบิท ก่อนใช้บริการรถโดยสารด่วนพิเศษ BRT สามารถทำได้ผ่านช่องทางต่อไปนี้

ตู้เติมสบายพลัส บนสถานี BRT จำนวน 6 สถานี

  • สถานี B1 : สาทร (เชื่อมต่อ BTS ช่องนนทรี)
  • สถานี B3 : เทคนิคกรุงเทพ
  • สถานี B4 : ถนนจันทน์
  • สถานี B5 : นราราม 3
  • สถานี B6 : วัดด่าน
  • สถานี B12 : ราชพฤกษ์ (เชื่อมต่อ BTS ตลาดพลู)

ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารของรถไฟฟ้า ดังต่อไปนี้

  • BTS สายสีเขียว
  • MRT สายสีเหลือง
  • MRT สายสีชมพู
  • รถไฟฟ้าสายสีทอง

หรือทำผ่านช่องทางออนไลน์ โดยซื้อบัตรแรบบิทผ่านทาง ช้อปปี้ และลาซาด้าของ Rabbit Card และเติมเงินผ่านแอปพลิเคชั่น My Rabbit

รถ BRT มีกี่สถานี ?

สถานีของรถโดยสารด่วนพิเศษ BRT มีทั้งหมด 14 สถานี คือ

  • สถานี B1 : สาทร (เชื่อมต่อ BTS ช่องนนทรี)
  • สถานี B2 : อาคารสงเคราะห์
  • สถานี B3 : เทคนิคกรุงเทพ
  • สถานี B3A : ถนนจันทน์เหนือ (สถานีใหม่)
  • สถานี B4 : ถนนจันทน์
  • สถานี B4A : ถนนจันทน์ใต้ (สถานีใหม่)
  • สถานี B5 : นราราม 3
  • สถานี B6 : วัดด่าน
  • สถานี B7 : วัดปริวาส
  • สถานี B8 : วัดดอกไม้
  • สถานี B9 : สะพานพระราม 9
  • สถานี B10 : เจริญราษฎร์
  • สถานี B11 : สะพานพระราม 3
  • สถานี B12 : ราชพฤกษ์ (เชื่อมต่อ BTS ตลาดพลู)
ภาพจาก Facebook รถไฟฟ้าบีทีเอส

รถ BRT เปิดทำการกี่โมง เดินรถทุกกี่นาที ?

รถโดยสารด่วนพิเศษ BRT เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-22.00 น. โดยมีความถี่การให้บริการดังนี้

วันจันทร์-ศุกร์

  • เวลา 06.00-07.00 น. ให้บริการทุก 10 นาที
  • เวลา 07.00-09.30 น. ให้บริการทุก 7 นาที
  • เวลา 09.30-17.00 น. ให้บริการทุก 10 นาที
  • เวลา 17.00-19.30 น. ให้บริการทุก 7 นาที
  • เวลา 19.30-21.00 น. ให้บริการทุก 10 นาที
  • เวลา 21.00-22.00 น. ให้บริการทุก 15 นาที

วันเสาร์-อาทิตย์

  • เวลา 06.00-07.00 น. ให้บริการทุก 15 นาที
  • เวลา 07.00-21.00 น. ให้บริการทุก 12 นาที
  • เวลา 21.00-22.00 น. ให้บริการทุก 15 นาที

ทั้งนี้ รถโดยสารด่วนพิเศษ BRT ให้บริการคันสุดท้ายจากสถานีต้นทางในเวลา 22.00 น.

มีข้อสงสัยเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ไหน ?

หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม เกี่ยวกับรถโดยสารด่วนพิเศษ BRT สามารถสอบถามได้ผ่านช่องทางต่อไปนี้

การให้บริการ รถโดยสารด่วนพิเศษ BRT

การชำระค่าโดยสาร รถโดยสารด่วนพิเศษ BRT

  • แรบบิท ฮอตไลน์ โทร. 02-617-8383
  • LINE : @brteticket