ป.ป.ช. ตีตก คำร้อง ”เศรษฐา” ตั้ง “บิ๊กต่อ” นั่ง ผบ.ตร. ชี้ทำตามหลักเกณฑ์แล้ว

เศรษฐา ทวีสิน
เศรษฐา ทวีสิน

ป.ป.ช. ตีตก คำร้อง ”เศรษฐา” ตั้ง “บิ๊กต่อ” นั่ง ผบ.ตร. ชี้ หลักฐานไม่พอฟังได้ว่ามีเจตนาทุจริตเอื้อประโยชน์ และทำตามหลักเกณฑ์แล้ว

นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า ในวันนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาคดีสําคัญที่อยู่ในความสนใจของประชาชน กรณีข้อกล่าวหา นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวก

ในฐานะคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ว่าดำเนินการคัดเลือกรายชื่อเสนอแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่เป็นไปตามกฎหมาย โดยไม่คำนึงถึงถึงอาวุโส และความรู้ความสามารถประกอบกัน โดยเฉพาะประสบการณ์ในงานสืบสวน

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณารายงานการตรวจสอบเบื้องต้นแล้วเห็นว่า การดำเนินการคัดเลือกรายชื่อเสนอแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กฎหมายไม่ได้กำหนดให้มีการ

พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโส แต่กฎหมายกำหนดไว้แต่เพียงว่า ให้คำนึงถึงอาวุโส และความรู้ความสามารถประกอบกัน โดยเฉพาะประสบการณ์ในงานสืบสวนสอบสวน หรืองานป้องกันปราบปราม

เมื่อผู้ถูกร้องที่ 1 กับพวก ได้พิจารณาข้อเท็จจริงและเหตุผลที่ใช้ประกอบในขณะพิจารณาคัดเลือก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ซึ่งเป็นบุคคลมีคุณสมบัติครบถ้วน และอยู่ในเกณฑ์ที่สมควรได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้นตามนัยมาตรา 77 (1) ให้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. และได้รับฟังความคิดเห็นจาก ก.ตร. ทุกคน และไม่มีพฤติการณ์หรือข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานใด

ADVERTISMENT

บ่งชี้ได้ว่ามีการสั่งการให้มีการคัดเลือก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ให้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. การใช้ดุลพินิจของผู้ถูกร้องที่ 1 กับพวก จึงไม่พอที่จะรับฟังได้ว่า มีเจตนาเพื่อประโยชน์ของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ จึงมีมติไม่รับเรื่องกล่าวหาไว้พิจารณา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 49 ประกอบ ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทจริตแห่งชาติ ว่าด้วยการตรวจสอบและไต่สวน พ.ศ. 2561 ข้อ 45 (1)