สรส.บุก ก.แรงงาน ทวงขึ้นเงินเดือนรัฐวิสาหกิจ 10% หลังไม่ปรับขึ้น 10 ปี

เงินเดือนรัฐวิสาหกิจ สรส.

สรส.รวมตัวที่กระทรวงแรงงาน เรียกร้องให้ปรับขึ้นเงินเดือนพนักงานรัฐวิสาหกิจ 10% เท่ากันทุกคน หลังไม่มีการปรับขึ้นมาถึง 10 ปี

สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) นำโดยนายมานพ เกื้อรัตน์ เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ นำผู้แทนสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ จำนวนกว่า 200 คน รวมตัวกันให้กำลังใจคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (ครรส.) ในการประชุมเพื่อพิจารณาการปรับอัตราเงินเดือนและบัญชีโครงสร้างเงินเดือนแรงงานพนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่กระทรวงแรงงาน

นายมานพเปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้ได้นำสมาชิกแต่ละสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ เดินทางไปที่กระทรวงแรงงานเพื่อมอบดอกไม้และให้กำลังใจการประชุม ครรส. ที่มีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธาน เพื่อพิจารณาการปรับอัตราเงินเดือนและบัญชีโครงสร้างเงินเดือนแรงงานพนักงานรัฐวิสาหกิจ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 อย่างเท่าเทียมกันทุกคน

สำหรับเหตุผลที่มีการเรียกร้องให้ปรับเงินเดือนขึ้นร้อยละ 10 เนื่องจาก

1.พนักงานรัฐวิสาหกิจไม่มีการปรับโครงสร้างเงินเดือนมาเป็นระยะเวลานานตั้งแต่ปี 2558 มาจนถึงปัจจุบันซึ่งเป็นเวลาราว 10 ปี

2.อัตราค่าเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นทุกปี โดยเฉลี่ยตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ตัวเลขเงินเฟ้อสูงขึ้นประมาณกว่าร้อยละ 30 เฉลี่ยเพิ่มปีละร้อยละ 3

ADVERTISMENT

3.ค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้น วันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเงิน 100 บาทนั้น แทบไม่มีค่า รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น สอดรับกับภาวะเงินเฟ้อ ทำให้รายได้ที่มีน้อยอยู่แล้ว ไม่สามารถดูแลชีวิตและบุคคลในครอบครัวให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้

4.ควรจะปรับอัตราเงินเดือนพนักงานรัฐวิสาหกิจเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เช่นเดียวกับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งเห็นชอบในหลักการปรับอัตราเงินเดือนแรกเข้าบรรจุของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐเพิ่มปีละร้อยละ 10

ADVERTISMENT

5.ค่าจ้างขั้นต่ำ ที่ผ่านมาได้มีการเรียกร้องให้มีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำที่ 492 บาท ขณะที่รัฐบาลได้มีการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำสูงสุดที่ 400 บาททั่วประเทศ ในบางกิจการและบางพื้นที่ ซึ่งประกาศใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2568

“สิ่งเหล่านี้จึงเป็นเหตุผลที่เรายื่นต่อรัฐบาลให้มีการปรับเงินเดือนพนักงานรัฐวิสาหกิจขึ้นร้อยละ 10 โดยจะต้องผ่านมติการประชุม ครรส. ซึ่งวันนี้เป็นการพิจารณารอบที่ 3 หากมีมติเห็นชอบ จะนำเสนอต่อ ครม.ต่อไป วันนี้จึงเป็นการให้กำลังใจในการปรับเงินเดือนพนักงานรัฐวิสาหกิจ” นายมานพกล่าว

ด้าน น.ส.ณีรนุช จิตต์สม รองเลขาธิการ สรส. กล่าวว่า สรส.มีการวิเคราะห์ข้อมูลสภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบกับไม่ได้มีการปรับเงินเดือนมาเป็นเวลานาน รวมถึงการจ้างงานแตกต่างกับข้าราชการ

ดังนั้น สรส.จึงขับเคลื่อนในเรื่องเกี่ยวข้องกับประชาชนทั้งประเทศ เช่น ผลักดันการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ผลักดันพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อากาศสะอาด, ลาคลอด 98 วัน เป็นต้น

น.ส.ณีรนุชกล่าวว่า คำนึงถึงสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน พนักงานรัฐวิสาหกิจมีจำนวนราว 2 แสนคน ถ้าทุกคนได้รับการปรับเงินเดือนขึ้น ก็จะเคลื่อนเศรษฐกิจได้ รัฐบาลไม่จำเป็นต้องลงทุน เพราะเราหารายได้เข้ารัฐอยู่แล้ว เราต้องหาเงินเอง เราทำงานวันเสาร์-อาทิตย์ไม่มีโอที โดย สรส.ได้ยื่นข้อเสนอปรับเงินเดือนไปตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2566 แต่ก็ยังเลื่อนไปมา วันนี้จึงติดตามความคืบหน้า และรอจนถึงการประชุม ครรส.จะเสร็จสิ้น ซึ่งมีความคาดหวังว่าคณะกรรมการจะมีมติเห็นชอบ

ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้มอบหมายให้นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย น.ส.กาญจนา พูลแก้ว รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) และเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน รับช่อดอกไม้ดังกล่าว

นายอารีกล่าวว่า กระทรวงแรงงานสามารถช่วยเหลือได้ในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ เป็นการทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของลูกจ้าง เชื่อมั่นว่าจะไม่มีอุปสรรคใด ๆ