
พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า กรมอุตุฯเตือนระวัง “พายุฝนฟ้าคะนอง” 6-7 เมษายนนี้ เหตุมีมวลอากาศเย็นระลอกใหม่จากจีนแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ปะทะกับอากาศร้อนตอนบนของไทย ส่งผลเกิดพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง หลีกเลี่ยงอยู่ในที่โล่งแจ้ง ส่วนตัวเลขอาฟเตอร์ช็อกจากแผ่นดินไหวที่เมียนมาล่าสุด ทะลุ 313 ครั้งแล้ว
กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายอากาศทั่วไป ระหว่างวันที่ 4-10 เมษายน 2568 ว่า ในช่วงวันที่ 4-5 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง
ในช่วงวันที่ 6-7 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ โดยจะมีแนวพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น
ส่วนในช่วงวันที่ 8-10 เม.ย. ลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองลดลงกับมีอากาศร้อน
สำหรับภาคใต้ในช่วงวันที่ 5-10 เม.ย. ลมตะวันออก และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 6-7 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย
ส่วนสถานการณ์แผ่นดินไหว สรุป Aftershocks จากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.2 ที่ประเทศเมียนมา อัพเดตล่าสุด เวลา 16.00 น. วันที่ 4 เมษายน 68 มีอาฟเตอร์ช็อกรวมทั้งสิ้น 313 เหตุการณ์(ครั้ง) ทั้งหมดไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย

คาดหมายอากาศรายภาค
วันที่ 4-10 เม.ย. 2568
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 4-5 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณด้านตะวันออกและตอนล่างของภาค ลมใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.
ในช่วงวันที่ 6-7 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 8-10 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค ลมใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-40 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ช่วงวันที่ 4-5 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป
ในช่วงวันที่ 6-7 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 8 -10 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 18-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 4-5 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ในช่วงวันที่ 6-7 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 8-10 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 4-5 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
ในช่วงวันที่ 6-7 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 8-10 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-37 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 5-10 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 20-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-35 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 5-10 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-35 องศาเซลเซียส
กรุงเทพฯและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 4-5 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
ในช่วงวันที่ 6-7 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 8-10 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส

(ออกประกาศ 4 เมษายน 2568)