“อภิสิทธิ์” แจกถุงยังชีพกาฬสินธุ์ ขอรัฐบาลเอาใจใส่ความเดือดร้อน-ปากท้องชาวบ้าน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำสิ่งของเครื่องใช้และถุงยังชีพมูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ที่ขณะนี้มีผู้ประสบภัยและได้รับผลกระทบกว่า

วันที่ 10 ส.ค. 60 ที่เทศบาลตำบลบัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หน.พรรคประชาธิปัตย์ และประธานมูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช พร้อมด้วยนายเทพไท เสนพงษ์ นายสามารถ มะลูลีม นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นำสิ่งของและถุงยังชีพมอบให้กับประชาชนในเขต ทต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมทั้งกรณีพายุเซินกาและปัญหาการระบายน้ำของเขื่อนลำปาว โดยมีนายสุพรรณ ภูบุญเติม นายกเทศมนตรีตำบลบัวบาน นำประชาชนที่เดือดร้อนและได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมกว่า 1,000 คน ให้การต้อนรับและรับมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ ในนามมูลนิธิม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช

โดยนายอภิสิทธิ์ฯ ได้เดินทักทายประชาชนอย่างเป็นกันเอง และสอบถามความเป็นอยู่ ความเดือดร้อนและผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งประชาชนมีรอยยิ้มสดชื่นทันทีที่เห็นนายอภิสิทธิ์ เดินเข้ามายังหอประชุมเทศบาลฯ

ทั้งนี้คณะได้นำเอาของบริจาคจากสมาคมอนุเคราะห์คลองเตย ถุงยังชีพ เสื้อยืดสีดำ และไม้เท้าอเนกประสงค์สำหรับผู้สูงอายุ มอบให้กับผู้สูงอายุด้วยตนเอง ขณะที่ประชาชนใน จ.กาฬสินธุ์ และพื้นที่ใกล้เคียงกับทต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ได้ทราบข่าวนายอภิสิทธิ์ลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบภัยน้ำท่วมได้เดินทางมาให้กำลังใจและติดตามการลงพื้นที่ครั้งนี้อย่างใกล้ชิด และมีประชาชนอีกจำนวนมากเข้ามาขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายอภิสิทธิ์ได้ร่วมถ่ายภาพกับประชาชนและพูดคุยกับชาวบ้านโดยไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยใดๆ โดยเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงเดินทางกลับ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวว่า ได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมมาโดยตลอดทั้งพื้นท่า จ.สกลนคร จ.ร้อยเอ็ด และ จ.กาฬสินธุ์ สิ่งที่พบคือปัญหาด้านเศรษฐกิจโซนพื้นที่เศรษฐกิจค้าขายตั้งแต่รายเล็กจนถึงรายใหญ่ เพราะในด้านการเยียวยาในส่วนทางราชการและรัฐบาลส่วนใหญ่จะชดเชยค่าเสียหายให้กับพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนราษฎร ขณะที่พื้นที่ จ.ร้อยเอ็ดหลายแห่งถูกตัดขาดถือว่ามีความเดือดร้อน และคาดว่าระยะความเดือดร้อนจากการประสบภัยน้ำท่วมน่าจะยาวไปถึง 1 เดือน ส่วนการช่วยเหลือของรัฐบาลที่มีเกณฑ์ตายตัวอยู่แล้ว ขอให้รัฐบาลติดตามเร่งรัดให้เร็วที่สุดไม่ใช่อนุมัติในหลักการแล้วจะจบเพราะยังมีขั้นตอนการสำรวจ และการกระชับระยะเวลาในการเยียวยาประชาชน ซึ่งใช้เวลานานมาก นอกจากนี้การลงพื้นที่ยังได้รับฟังปัญหาความเดือดร้อนหลายรูปแบบขณะที่กลุ่มเกษตรกรอยากความช่วยเหลือเป็นเมล็ดพันธุ์ทางเกษตรเพิ่มเติมเพราะนาปีที่เสียหายไปในช่วงทำนาปรังอาจจะพอทำได้บ้าง ทั้งนี้ก็จะติดตามสถานการณ์ว่าพื้นที่ไหนมีปัญหาก็จะนำสิ่งของที่ได้รับบริจาคมาช่วยเหลือพี่น้อง และรับฟังปัญหาแต่ละพื้นที่เพื่อช่วยคิดหาทางแก้ปัญหา

ส่วนภาคธุรกิจจะหนักและมีปัญหาก็อยากให้ทำงานผ่าน กรอ. อนาคตอยากจะให้นำนโยบายพลักดันเอาไว้เรื่องประกันภัยพืชผลประกันภัยต่างเข้ามามากขึ้น แต่ละพื้นที่มีความหลากหลายโดยเฉพาะความช่วยเหลือเฉพาะที่ยังเดือดร้อน นอกจากนี้ด้านเยียวยารัฐบาลต้องใช้ทัพหน้าอย่างท้องถิ่นและกำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นกำลังในการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาเพราะเป็นผู้ใกล้ชิดประชาชนซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่รัฐบาลต้องการจะตรงจุดมากขึ้น เวลานี้อยากให้รัฐบาลเอาใจใส่ประชาชนที่เดือดร้อนให้มากซึ่งแท้จริงแล้วชาวบ้านในชนบทยังประสบปัญหาปากท้อง ผลผลิตราคาตกต่ำปัญหารายได้สของพี่น้องประชาชนส่วนนี้ยังรอการแก้ไขอยู่

 


ที่มา : มติชนออนไลน์