WHO ประกาศ “ไวรัสโคโรน่า” เป็นภัยพิบัติฉุกเฉิน “อนุทิน” ชงเงื่อนไขกั้นจีนเข้าไทย

แฟ้มภาพ

องค์การอนามัยโลกประกาศยกระดับสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 เป็น ‘ภัยพิบัติฉุกเฉินระดับโลก’ หลังยอดผู้เสียชีวิตในจีนเพิ่มต่อเนื่อง ทั้งยังพบผู้ติดเชื้อใน 18 ประเทศและเขตปกครองทั่วโลก

ที่ประชุมองค์การอนามัยโลก (WHO) ลงมติให้ประกาศว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019-nCoV เป็นภัยพิบัติฉุกเฉินระดับโลก เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่นนครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ภายหลังจากผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อดังกล่าวเพิ่มเป็น 170 รายในประเทศจีน และมีผู้ติดเชื้อราว 7,800 คนในจีนและประเทศอื่นๆ รวม 18 แห่งทั่วโลก

ทั้งนี้ นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ระบุหลังการประชุมคณะกรรมการฉุกเฉินครั้งที่ 2 ว่า สิ่งที่น่ากังวลคือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเข้าไปยังประเทศที่มีระบบสุขภาพที่อ่อนแอ โดยขณะนี้ (31 ม.ค.) มีผู้เสียชีวิตในจีนจากการติดเชื้อไวรัสดังกล่าวแล้ว 213 ราย นอกจากนี้ยังมีการพบผู้ป่วย 98 รายใน 18 ประเทศทั่วโลก แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิตนอกประเทศจีน

อย่างไรก็ตาม นายกีบรีเยซุสยังระบุว่า การประกาศยกระดับภาวะฉุกเฉินครั้งนี้ไม่ได้เป็นการแสดงความไม่ไว้วางใจในระบบบริหารจัดการของจีน โดยองค์การอนามัยโลกยังคงมั่นใจใน “มาตรการพิเศษ” ที่ทางการจีนใช้เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค พร้อมทั้งระบุด้วยว่า ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะจำกัดการค้าขายหรือการเดินทางไปยังประเทศจีน

แต่ขณะนี้หลายประเทศที่มีพรมแดนติดกับจีนได้ประกาศใช้มาตรการปิดพรมแดนและยกเลิกเที่ยวบินชั่วคราวแล้ว รวมถึงบรรดาบริษัทห้างร้านต่าง ๆ ที่มีสาขาย่อยในจีนก็ปิดให้บริการด้วยเช่นกันไม่ว่าจะเป็น กูเกิล อิเกีย สตาร์บักส์ และเทสลา

การประกาศภัยพิบัติฉุกเฉินระดับโลกจะทำให้ประเทศต่างๆ ต้องเพิ่มความเข้มงวดมาตรการกักกันและควบคุมโรค รวมถึงต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของ WHO อย่างเคร่งครัด ทั้งยังจะต้องแบ่งปันข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการและรับมือสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว

ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะเสนอยกเลิก visa on arrival (VOA) จากจีนชั่วคราว เหตุ WHO ประกาศเป็นภัยพิบัติระดับโลกแล้ว และจะให้เพิ่มเงื่อนไขการขอวีซ่าเข้าไทยจากจีนด้วย