เตือน 1 เมษาฯ วัน“April Fool’s Day” พูดเล่นโควิด-19 คุกแน่นอน !!

วันที่ 31 มีนาคม 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวตอนหนึ่ง ถึงกรณีที่วันพรุ่งนี้ (1 เมษายน) จะเป็นวันเอพริลฟูลเดย์ “ April Fool’s Day” หรือวันโกหก ล่าสุดมีเพจดังได้โพสต์เตือนประชาชนว่า อย่านำเรื่องการติดเชื้อโควิด-19 มาพูดโกหกในวันดังกล่าว เพราะคุกแน่นอน ก็ต้องขอบคุณสื่อโซเชียลที่ช่วยกันในส่วนนี้ด้วย

เมื่อถามถึงกระแสข่าวเรื่องการชัตดาวน์ ข้อเท็จจริงเรื่องนี้เป็นอย่างไร นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ยืนยันว่าเราใช้วิธีการเฉพาะบางจุด โดยกทม.ยังเป็นไปตามประกาศเดิมอยู่ ไม่ได้มีข้อสั่งการใดๆเพิ่มเติม

ผู้สื่อข่าวถามว่า ครบสัปดาห์ของการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ รัฐบาลพอใจหรือไม่หรือจะปรับเปลี่ยนเพิ่มมาตรการใดบ้าง นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้(30 มีนาคม) มีการประชุมกันและท่านนายกรัฐมนตรีมีความพึงพอใจระดับหนึ่งแต่ก็ยังไม่สามารถไว้วางใจในสถานการณ์ทั้งหมดได้ ต้องให้ทางปลัดกระทรวงสาธารณสุขติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด มาตรการต่างๆจะปรับแปรเปลี่ยนไปตามข้อมูลนำเข้าของกระทรวงสาธารณสุข ถ้าประชาชนให้ความร่วมมือและตัวเลขลดลงมาตรการก็ไม่เพิ่ม แต่ถ้าตัวเลขเพิ่มขึ้น หมายความว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาก็ต้องเข้มเพื่อควบคุมให้เป็นศูนย์ให้มากที่สุด

เมื่อถามว่า มีทันตแพทย์เปิดเผยว่ามีคนขับแทกซี่ปกปิดประวัติข้อมูล จะมีบทลงโทษกับผู้ที่ปกปิดข้อมูลอย่างไร นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า บทลงโทษมีกำหนดตามข้อกฎหมาย แต่เจตนาของกฎหมายต่างๆเหล่านี้ไม่ต้องการนำท่านไปสู่การจองจำหรือเสียเงิน เจตนาของกฎหมายต้องการให้เปิดเผย ขณะเดียวกันทางแพทย์และบุคลากรก็จะได้ป้องกันตัวเองและลดผลกระทบที่จะตามมา ดังนั้น ขอความร่วมมือเพื่อจะได้ไม่ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายจะดีที่สุด

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีบริษัทเอกชนหลายแห่งยังไม่ยอมให้พนักงานหยุดทำงาน ทั้งที่สามารถทำงานที่บ้านได้ ทั้งๆที่มีพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวยังเป็นมาตรการขอความร่วมมือเช่นเคย นายจ้าง ผู้ประกอบการ ขอให้พิจารณาอย่างดีว่าได้ประโยชน์อย่างไรในการดึงบุคลากรของท่านมาอยู่รวมในห้องทำงาน ถ้าเขาทำงานอยู่ที่บ้านทดแทนการทำงานของท่านได้หรือไม่ ถ้าเปรียบเทียบมีความเสี่ยงติดเชื้อและมาอยู่รวมกันและใกล้ชิดท่าน อาจจะนำความเสี่ยงมาติดท่านด้วย ติดบุคคลากร อาจต้องหยุดงานหรืออยู่โรงพยาบาล ยิ่งจะมีความเสียหาย ดังนั้นขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ถ้าให้หยุดงานหรือเหลื่อมเวลางานหรือวิธีอื่นๆ ก็จะช่วยชาติได้ด้วย

เมื่อถามว่า สามารถประกาศพื้นที่แออัดหรือจุดเสี่ยงได้หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เรื่องนี้ท่านนายกรัฐมนตรีได้มอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละแห่งนำข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข ที่ท่านเน้นย้ำเมื่อวานนี้ ส่วนราชการต้องใช้ข้อมูลให้เป็นประโยชน์และร่วมกันคิดปรึกษาหารือและหามาตรการที่สำคัญมาตรการนั้นต้องคิดกันหลายชั้นว่าออกมาแล้ว ประชาชนในเขตพื้นที่จะได้รับผลกระทบอย่างไร มีมาตรการรองรับผลกระทบหรือไม่ สิ่งนี้เป็นอิสระของแต่ละพื้นที่ที่จะช่วยกัน ภาพกว้างของท่านนายกฯโดยส่วนใหญ่ก็จะมองภาพใหญ่ๆ คงไม่ได้ออกข้อกำหนดที่จะไปสั่งการในพื้นที่ยิบย่อย รายละเอียดต่างๆทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้รับบัญชาและนำไปสู่การปฏิบัติแล้ว ทั้งนี้ ขอความร่วมมือจากประชาชนให้ปฏิบัติตามพ่อเมืองของท่านเพื่อจะได้ประสบความสำเร็จ