ผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่วันนี้เพิ่ม 3 ราย กลับมาจาก “UAE -อินเดีย” ฮ่องกง เจอระบาดระลอก 3

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.

วันที่ 3 สิงหาคม 2563 เวลา 11.30 น. ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 3 ราย กลับมาจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAE) และประเทศอินเดีย 1 ราย อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ส่วนผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,320 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมมีผู้เสียชีวิตสะสมเท่าเดิมคือ 58 ราย หายป่วยแล้ว  3,142 ราย ผู้ป่วยรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 120  ราย

สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ จำนวน 3 ราย ได้แก่

1.สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) 2 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 26 ปี อาชีพรับจ้าง และชายไทย อายุ 43 ปี อาชีพพนักงานขับรถ เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม เข้าพักในสถานกักกันโรคฯ ที่ จ.ชลบุรี และตรวจหาเชื้อในวันที่ 1 สิงหาคม ผลตรวจพบเชื้อ ทั้งหมดไม่มีอาการ

2.อินเดีย 1 ราย เป็นนักศึกษาชายไทย อายุ 19 ปี เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม เข้าพักในสถานกักกันโรคฯ ที่ กทม. และตรวจหาเชื้อในวันที่ 1 สิงหาคม ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ

ทั้งนี้ในส่วนของต่างประเทศ ในส่วนของฮ่องกง พบว่า กำลังเผชิญกับโควิดระลอก 3 โดยพบผู้ติดเชื้อเกิน 100 รายมา 12 วันต่อเนื่อง และเป็นการติดเชื้อจากภายในฮ่องกง มียอดรวมผู้ป่วยอยู่ที่ 3,512 ราย เสียชีวิตรวม 34 ราย โดยทางการฮ่องกงต้องสร้างดรงพยาบาลสนามใกล้กับท่าอากาศยาน และรัฐบาลจีนต้องส่งทีมเข้าไปตรวจโรค

สำหรับสาเหตุของการแพร่ระบาดในระลอกที่ 3 นี้ ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่ามาจาก 3 ปัจจัย คือ

1.มาตรการที่ให้กักตัวที่บ้าน

2.การที่รัฐบาลยกเว้นการตรวจและการกักตัวให้กับบุคคลหลายกลุ่ม เช่น ลูกเรือที่มากับสายการบินและเรือสินค้า รวมทั้งผู้บริหารในตลาดหลักทรัพย์ และคนงานต่างด้าวที่มาทำงานที่บ้าน รวมจำนวนแล้วมากกว่า 2 แสนคน

3.การที่ประชาชนผ่อนคลายวินัยและไม่ระมัดระวังในการป้องกันโรค ไม่ใส่หน้ากากอนามัย และไม่เว้นระยะห่างในการทำกิจกรรมทางสังคม

ส่วนสถานการณ์ที่เวียดนามมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เป็นรายที่ 6 เพียงสัปดาห์เดียวมีผู้ป่วยพุ่งถึง 182 ราย ยอดรวม 621 ราย ทางการเวียดนามต้องกักตัวประชาชนมากกว่า 1 แสนคน ผู้ที่เสียชีวิต 6 รายอายุตั้งแต่ 53-86 ปี ทุกรายมีโรคประจำตัว โดยที่ฮานอยปิดสถานบันเทิง ห้ามขายของริมถนนชั่วคราว เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อไวรัส เนื่องจากการรวมกลุ่มขนาดใหญ่ไม่ได้รับอนุญาต ฟิลิปปินส์ แพทย์และพยาบาลออกมาขอให้รัฐล็อกดาวน์อย่างเข้มข้นรอบใหม่ โดยบุคลากรทางแพทย์ 80 กลุ่ม เป็นตัวแทนแพทย์ 80,000 คน และพยาบาล 1 ล้านคน ได้ออกมาเตือนว่าระบบสาธารณสุขจะล้มเหลว เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จะพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องหากไม่มีมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดในกรุงมะนิลา และจังหวัดใกล้เคียง

ขณะที่ออสเตรเลีย เผชิญโควิดระลอกสอง ประกาศเป็นภาวะภัยพิบัติ โดยดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ระดับ 4 คือ ห้ามออกนอกบ้านตั้งแต่เวลา 20.00 – 05.00 น.วันรุ่งขึ้น อนุญาตให้ออกนอกบ้านได้เพียง 1 คนต่อครัวเรือนต่อวันในช่วงเวลานอกเคอร์ฟิว และห้ามเดินทางไปไกลเกิน 5 กิโลเมตรจากบ้าน หลังจากที่มีการพบเชื้อวันเดียว 671 ราย

สรุปสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม 2563

  • ผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย
  • ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,320 ราย
  • หายป่วยแล้ว 3,142 ราย
  • เสียชีวิตสะสม 58 ราย

สรุปสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม 2563 เวลา 10.00 น.

  • ยอดผู้ติดเชื้อรวม 18,234,936 ราย
  • อาการรุนแรง 65,754 ราย
  • รักษาหายแล้ว 11,444,149 ราย
  • เสียชีวิต 692,794 ราย

อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด
1. สหรัฐอเมริกา 🇺🇸 จำนวน 4,813,647 ราย
2. บราซิล 🇧🇷 จำนวน 2,733,677 ราย
3. อินเดีย 🇮🇳 จำนวน 1,804,702 ราย
4. รัสเซีย 🇷🇺 จำนวน 850,870 ราย
5. แอฟริกาใต้ 🇿🇦 จำนวน 511,485 ราย

ประเทศไทย 🇹🇭 อยู่ในอันดับที่ 110 จำนวน 3,320 ราย