“อัศวิน” เตือนคนกรุงเก็บของขึ้นที่สูง รับมือมวลน้ำเหนือทะลัก

กทม. เตรียมรองรับมวลน้ำ หลัง ”กรมชลฯ” ร่อนหนังสือด่วน แจ้งเตือนเขื่อนปล่อยน้ำสูงขึ้น ให้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เผยมี 17 ชุมชน 358 ครัวเรือนนอกคันกั้นน้ำเสี่ยง

เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2563 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ตามที่กรมชลประทาน มีหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา แจ้งเตือน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร ที่อาจจะได้รับผลกระทบจาการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์และเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

โดยกรมชลประทานมีแนวโน้มจะดำเนินการปล่อยปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนจ้าพระยาสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำ ตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบัน โดยระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่คลองโผงเผง คลองบางบาล บริเวณ อ.บางบาล อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา จะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 60 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง

สำหรับ กทม. มีแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สามารถรองรับน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาได้ 2,500-3,000 ลูกบาศก์เมตร/วินาที และได้มีการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำเหนือ

โดยได้ดำเนินการตรวจสอบความแข็งแรง และดำเนินการปรับปรุงแก้ไขจุดที่ชำรุดและรั่วซึม ของแนวป้องกันน้ำท่วมถาวรริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ คลองชักพระ และคลองพระโขนงตลอดแนวพื้นที่กรุงเทพมหานคร สำหรับพื้นที่ช่องเปิดหรือแนวฟันหลอของแนวป้องกันน้ำท่วมถาวรได้มีการดำเนินการเรียงกระสอบทรายเป็นแนวป้องกันชั่วคราวแล้ว โดยในปี 2563 สำนักการระบายน้ำได้ดำเนินการเรียงกระสอบทราย ความยาวประมาณ 3.2 กิโลเมตร

ทั้งนี้ระดับน้ำที่สูงขึ้นอาจจะส่งผลกระทบต่อชุมชนนอกแนวป้องกันน้ำท่วม ซึ่งปัจจุบันมี 17 ชุมชน 358 ครัวเรือน กทม. ได้เตรียมการช่วยเหลือโดยการวางแนวกระสอบทรายเพื่อเป็นแนวชั่วคราวในพื้นที่ที่สามารถดำเนินการได้ ให้สามารถป้องกันน้ำหลากไม่ให้ไหลเข้าท่วมพื้นที่ชุมชน

แต่หากเกิดน้ำท่วมขึ้น กทม. ได้เตรียมพร้อมดำเนินการสร้างสะพานไม้ชั่วคราวเป็นทางเดินเข้าออกชุมชน รวมถึงติดตามสถานการณ์และแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง และให้สำนักงานเขต สำนักการระบายน้ำ สำนักการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเตรียมพร้อมเพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ทันที