“สกุลธร” โผล่ชี้แจง เป็นคนยื่นสำนักทรัพย์สิน ตรวจสอบทุจริตสินบน

สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ

“สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ออกโรงชี้แจง ย้ำตนเองคือผู้เสียหายจากการปลอมแปลงเอกสาร และเป็นผู้ยื่นให้สำนักงานทรัพย์สินฯ ตรวจสอบการทุจริต จนนำมาซึ่งการดำเนินคดีผู้กระทำความผิด

วันที่ 16 ธันวาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยซัมมิท ออโต พาร์ท อินดัสตรี จำกัด น้องชายของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้ออก PRESS RELEASE ชี้แจงกรณีที่ดิน 3 หน้ามีเนื้อหาว่า

ข้าพเจ้า นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ อยากจะชี้แจงสังคมเกี่ยวกับเรื่องที่ดินบริเวณชิดลมว่าข้าพเจ้าขอยืนยันความบริสุทธิ์และมีประเด็นที่อยากชี้แจง ดังนี้

1. ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าไม่เคยรู้จัก นายประสิทธิ์ อภัยพลชาญ เป็นการส่วนตัว รวมถึงข้าพเจ้าไม่เคยรู้จักเจ้าหน้าที่ในสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ท่านใดก็ตาม ข้าพเจ้ามารู้ว่าคุณประสิทธิ์คือใครหลังจากตำรวจได้ทำการสืบคดีแล้วเท่านั้น

2. ในปี 2560 ข้าพเจ้าได้รู้จักนายสุรกิจผ่านนายหน้าที่รู้จักอีกท่านหนึ่ง ซึ่งไม่ได้มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกันมาก่อน รวมถึงไม่มีความสนิทสนมใด ๆ ตลอดระยะเวลาในการทำงาน ที่ดินแปลงนี้มีคณะนายหน้าจำนวนหลายท่านได้รวมตัวเข้ามาเสนอที่ดินให้กับข้าพเจ้า ดังนั้นการเจรจาต่าง ๆ มีผู้รับรู้หลายท่านเป็นสิ่งที่เปิดเผยมาก และการที่คนที่เพิ่งรู้จักกันมันเป็นไปไม่ได้ที่ข้าพเจ้าจะบอกให้คุณสุรกิจนำเงินไปดำเนินการในสิ่งที่ไม่ถูกต้องให้กับบุคคลที่สามหรือมีลักษณะเรียกเงินเพื่อให้มีการกระทำที่ทุจริตยิ่งเป็นไปไม่ได้ ซึ่งผมขอยืนยันว่าในกรณีนี้ผมไม่ได้ไปวิ่งหาที่ดินตั้งแต่แรก แต่เป็นนายหน้าเข้ามาเสนอที่ดินให้ข้าพเจ้า โดยที่ผมไม่ได้เป็นผู้มอบหมายให้นายหน้าไปจัดหาเมื่อผมพิจารณาแล้วเห็นว่ามีความคุ้มค่าในเชิงธุรกิจจึงมีการดำเนินโครงการต่อ

Advertisment

3. ทั้งนี้ตลอดการทำงานข้าพเจ้าเน้นย้ำเสมอถึงความโปร่งใสและการทำงานบนความถูกต้อง โดยมีการระบุลงไปในสัญญาการจ้างอย่างชัดเจนว่า “ในการปฏิบัติงานนายหน้าจะต้องเคารพและปฏิบัติตามกฎหมาย ตามข้อบังคับหรือระเบียบต่าง ๆ และรวมถึงการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามมาตรฐานของวิชาชีพของนายหน้า ”

4. ทั้งนี้ตลอดในช่วงระยะเวลาดังกล่าวมีการทำงานหลายขั้นตอนจน Final project development proposal ได้ออกมาเป็นโครงการเป็นลักษณะ Mix-Use ขนาด 160,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วย โรงแรม ศูนย์การค้า สำนักงาน และคอนโดมิเนียม (ดูเอกสารประกอบที่ 1) ซึ่งตลอดการทำงานมีการจ้างที่ปรึกษาหลายหน่วยงานเพื่อส่งแผนการพัฒนานี้ ซึ่งมีการทำงานจริง เพราะขณะนั้นเชื่อเพียงว่าการผ่านการพิจารณาได้จะต้องทำโครงการให้มีความโดดเด่นเท่านั้น

ดังนั้นการชำระเงินตามที่มีข่าวอออกไป เป็นการชำระค่าจ้างในลักษณะของ real estate consultancy ตามคู่สัญญาการค้าที่มีการระบุในสัญญาตามมาตรฐานธุรกิจทั่วไป โดยแบ่งจ่ายเมื่อแผนงานมีความคืบหน้า ทุกครั้งมีการชำระเงินเป็นเช็คและได้มีการบันทึกใบรับเช็คตามมาตรฐานสัญญาธุรกิจทั่วไป ซึ่งไม่ได้มีเจตนาที่จะหลบหลีกการตรวจสอบ ในกรณีนี้ได้มีการทำเอกสารราชการปลอมนำมาแสดงกับข้าพเจ้าเพื่อยืนยันความคืบหน้าในการทำงานอันจะทำให้มีสิทธิ์ขอเบิกค่าจ้างตามที่สัญญากำหนดไว้ได้ซึ่งทำให้ข้าพเจ้าเกิดความเสียหาย

5. ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 ข้าพเจ้าได้รับหนังสือจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อเชิญไปนำเสนอแผนพัฒนาโครงการในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2560 (ภายหลังทราบว่าเป็นหนังสือที่ได้ถูกปลอมแปลงขึ้นมา) ปรากฏว่า ข้าพเจ้าได้รับโทรศัพท์จากนายหน้าว่าขอยกเลิกการประชุมล่วงหน้า 1 วันก่อนถึงวันประชุม จึงเป็นเหตุที่ทำให้เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ จึงได้ส่งหนังสือถึงสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เพื่อสอบถามเกี่ยวกับการเช่าที่ดินแปลงดังกล่าว

Advertisment

โดยมีการบันทึกรับเอกสารจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และได้รับหนังสือตอบกลับจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์แจ้งว่า ยังไม่มีนโยบายในการหาผู้เช่ารายใหม่แต่อย่างใด ข้าพเจ้าจึงได้ยกเลิกสัญญาและส่งหนังสือทวงหนี้ 2 ครั้งตามระบบ ซึ่งจากการที่เราตรวจสอบเอกสารจนค้นพบข้อเท็จจริงทั้งหมดแสดงถึงความบริสุทธิ์ว่าเราไม่มีการไหว้วานใครให้ไปกระทำการที่ผิดกฎหมาย จนทำให้สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้ทำการตรวจสอบและได้ทำการสืบสวนต่อจนทราบว่ามีการปลอมแปลงเอกสารจนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้และที่ผ่านมาได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่จนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้จากเหตุการณ์นี้

6. ข้าพเจ้าขอยืนยันว่า ข้าพเจ้าเป็นผู้เสียหายจากเหตุการณ์นี้และขอยืนยันในความบริสุทธิ์ ทั้งนี้ข้าพเจ้าขอชี้แจงเพิ่มเติมว่า จากข่าวที่สังคมได้รับนั้นเป็นเพียงคำกล่าวอ้างของบุคคลอื่น ซึ่งโดยความเป็นจริงแล้วกรณีนี้ข้าพเจ้าเป็นผู้เสียหายจากการปลอมแปลงเอกสาร สำหรับสิ่งที่ข้าพเจ้าได้ชี้แจงนั้นได้ถูกปรากฏอยู่ในเอกสารสำนวนสอบสวนตั้งแต่แรก ในส่วนของค่านายหน้านั้นเป็นการตกลงตามมาตรฐานในวิชาชีพตามหลักสากลของธุรกิจนี้และจะทำการชำระก็ต่อเมื่อได้ทำธุรกรรมจดสิทธิ์การเช่าที่สำนักงานที่ดินให้แล้วเสร็จ

ข้าพเจ้าขอยืนยันสิ่งที่ชี้แจงมาทั้งหมดเป็นความสัตย์จริง และยืนยันว่าไม่เคยใช้ให้ผู้ใดไปดำเนินการสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามที่เป็นข่าว อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ข้าพเจ้าจะใช้ความระมัดรังวังให้มากยิ่งขึ้นกับการดำเนินธุรกิจต่อไปในภาคหน้า เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาใด ๆ ทั้งกับตนเองและหน่วยงานอื่น