พี่สาว “วันเฉลิม” เข้ายื่นหลักฐานสำคัญ ร้องอัยการสูงสุดตามคดีน้องชาย โวยผ่านไป 9 เดือนคดีไม่คืบ
วันที่ 19 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวสิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือ พี่สาวของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ยื่นหลักฐานสำคัญให้อัยการสูงสุด ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อยืนยันว่า น้องชายของตน อยู่และหายไปจากที่พักในประเทศกัมพูชาจริง
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- จับตา! พี่สาว “วันเฉลิม” ยื่นหลักฐานสำคัญให้อัยการสูงสุด พรุ่งนี้
- พี่สาว “วันเฉลิม” เข้าพบ “กงสุล” ขอเดินทางไปขึ้นศาลกรุงพนมเปญ
นางสาวสิตานัน ระบุว่า ผ่านไป 9 เดือนแล้ว สำหรับการหายตัวไปของน้องชาย ไม่มีการสืบสวนสอบสวนอย่างจริงจังเลย ตนก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมอัยการสูงสุดถึงให้ข่าวออกไปว่า เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นจริงที่กัมพูชา
ในส่วนหลักฐานที่นำมายืนยัน มีเอกสารรูปภาพ พาสปอร์ต บัญชีธนาคาร และหลักฐานของทางราชการ ซึ่งหามาด้วยตนเองทั้งหมด โดยไม่มีได้มีการช่วยเหลือจากทางรัฐบาล ซึ่งหลักฐานมีจำนวนมากพอที่จะยืนยันได้ว่า รัฐบาลไทยรู้ว่าน้องชายตนอยู่ที่ไหน ส่วนอัยการฯ จะมองว่า สำคัญหรือไม่สำคัญไม่รู้ แต่ตนอยากได้ความยุติธรรม
ด้านทนายสิทธิมนุษยชน ระบุว่า กรณีการอุ้มหายของวันเฉลิม พี่สาวได้โทรคุยไลน์ขณะที่น้องชายถูกอุ้ม และก็มีภาพวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้ว่า มีรถสองคัน ลักษณะคล้าย ๆ กันติดตามกันมา แล้วก็มีพยานบุคคล ที่สามารถบอกกับพี่สาวบอกกับสื่อในกัมพูชาได้ว่า มีกลุ่มบุคคลติดอาวุธผลักผู้ชายคนนึงเข้าไปในรถ แลัวก็ยังมีภาพวงจรที่สามารถมองเห็นทะเบียนรถ
สำหรับทะเบียนที่กล้องวงจรปิดจับภาพได้ เป็นเลขทะเบียนของกัมพูชา แต่ทางการกัมพูชา อ้างว่า ไม่มีอยู่สารบบของกรมขนส่งทางบกในกัมพูชา และอ้างว่า ไม่มีกล้องวงจรปิดที่จับภาพบุคคลที่ลักษณะคล้ายวันฉลิมไว้เลย ตั้งแต่วันที่ 2-6 มิถุนายน 2563
“เขาได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด 16 ตัว ก็ไม่พบเลย แต่มันก็ขัดกับหลักฐานที่ญาติได้เผยแพร่ไปแล้ว”
ทนายฯ ระบุว่า ข้อเท็จจริงต่าง ๆ เหล่านี้ ต้องทำให้เราต้องมาพึ่งอัยการสูงสุดว่า จะรับพิจารณาเปิดคดีได้แล้วหรือยัง
