โควิดสายพันธุ์อินเดียร้ายแรงแค่ไหน? สรุป 5 เรื่องต้องรู้

โควิดอินเดีย

เปิด 5 เรื่องเกี่ยวกับ “โควิดสายพันธุ์อินเดีย” มีความร้ายแรงขนาดไหน เป็นสาเหตุของการระบาดระลอกใหม่ในอินเดียหรือไม่

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศอินเดีย ที่มีการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงทะลุถึง 3 แสนคนต่อวัน ส่งผลให้ผู้เสียชีวิตมีจำนวนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

“ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ “โควิดสายพันธุ์อินเดีย” มาให้ทำความรู้จัก และเปิดมุมมองของนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญต่อการระบาดของโควิด-19 ในประเทศอินเดีย ดังนี้

  1. เชื้อโควิดกลายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศอินเดียมีชื่อทางการว่า “B.1.617” พบครั้งแรกเดือนตุลาคม ปี 2563 ในประเทศอินเดีย
  2. พบการแพร่กระจายแล้ว 21 ประเทศทั่วโลก
  3. นักวิทยาศาสตร์ ยังไม่สามารถประเมินความรุนแรงในการแพร่จาย แต่เชื่อว่า “การเดินทางข้ามพรมแดน” เป็นสาเหตุของการกระจายเชื้อในประเทศอื่น ๆ
  4. ยังไม่สามารถตอบได้ว่า เป็นสาเหตุให้เกิดการติดต่อได้ง่าย และอันตรายกว่าสายพันธุ์อื่นหรือไม่
  5. ไวรัสมีการกลายพันธุ์ที่ทำให้เชื้อหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าปกติ

นักวิทยาศาสตร์ เชื่อยังไม่ร้ายแรงเท่า สายพันธุ์อังกฤษ

บีบีซีไทย รายงานว่า ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์กำลังเร่งศึกษาวิจัยถึงความชัดเจนว่า เชื้อโควิดกลายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศอินเดีย มีความสัมพันธ์กับการระบาดในระลอกใหม่หรือไม่ พร้อมเผยความเห็นของ ดร. เจเรมี คามิลล์ นักไวรัสวิทยาจากมหาวิทยาลัยลุยเซียนาสเตตของสหรัฐฯ ว่า “ผมคิดว่าสายพันธุ์อินเดียไม่น่าจะร้ายแรง หรือติดต่อได้ง่ายเท่าสายพันธุ์อังกฤษ เราไม่ควรจะตื่นตระหนก”

นอกจากนี้ ยังระบุว่า ไวรัสสายพันธุ์เคนต์ หรือ B.1.1.7 จากอังกฤษ แพร่กระจายไปยังกว่า 50 ประเทศทั่วโลกแล้ว

โควิดสายพันธุ์อินเดีย ยังไม่เข้าไทย

เมื่อวานนี้ (25 เม.ย.) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ เปิดเผยว่า โควิดสายพันธุ์กลายพันธุ์ ถือเป็นวิวัฒนาการของไวรัส ถ้าไวรัสมีการแพร่ระบาดมากก็ยิ่งมีโอกาสกลายพันธุ์ ตัวอย่างเช่นใน อังกฤษ อินเดีย บราซิล แอฟริกา เป็นเหมือนการแตกลูกหลาน ยิ่งมากเท่าไหร่ ก็มีโอกาสเกิดการผ่าเหล่า หรือแหวกแนวออกไป

ส่วนสายพันธุ์อินเดียไม่เหมือนสายพันธุ์อังกฤษ เพราะเรายังไม่พบตำแหน่งที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดง่ายของสายพันธุ์อินเดีย แต่สายพันธุ์อินเดียพบว่า มี 2 ตำแหน่ง ซึ่งทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนที่ใช้อยู่ลดลง หลายประเทศกำลังจับตามอง แต่ยังไม่ได้พิสูจน์ว่า จะทำให้วัคซีนมันลดประสิทธิภาพลงจริงหรือไม่จริง แต่โดยทางหลักทฤษฎีในตำแหน่งนี้อาจมีผลให้ประสิทธิภาพวัคซีนลดลงได้

ศ.นพ.ยง ย้ำว่า สายพันธุ์อินเดียยังไม่มีเข้ามาในบ้านเราจึงจำเป็นต้องเฝ้าระวัง คนมาจากอินเดียก็ต้องเข้ากักตัว ผมเชื่อว่าไม่ควรมีสายพันธุ์นี้ หรือแม้กระทั่งชายแดนต่าง ๆ เราก็ต้องเฝ้าระวังมากขึ้น ไม่ให้มีสายพันธุ์อื่นหลุดเข้ามา

“ดังนั้นการที่จะลดการกลายพันธุ์ได้ คือ พวกเราทุกคนต้องช่วยกันลดการระบาดครั้งนี้ลงให้ได้ ด้วยการมีระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด ใส่หน้ากากอนามัย 100% ก็ต้องทำจริงๆ กำหนดระยะห่าง ไม่ให้มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมากก็ต้องปฏิบัติตาม หมั่นล้างมือ เจลล์ แอลกอฮอล์ ถ้าทุกคนช่วยกันคนละไม้คนละมือ โรคภัยต่าง ๆ ผมคิดว่าไม่สามารถยุติได้แค่คนใดคนหนึ่ง แต่ต้องร่วมกันทุกคน”