ศบค.ถกหนัก พื้นที่ติดเชื้อโควิดชั้นใน กทม. สั่งสแกน 28 คลัสเตอร์ 19 เขต ตรวจ 100 คน เจอติดเชื้อเกือบ 7 คน ระบุ “แคมป์คนงานหลักสี่” หนักสุด สั่งซีลแล้ว แต่ยังมีแคมป์อื่นอีก 8 แคมป์ บริษัท subcontract อีก 11 บริษัท เร่งตามตัวคนงาน แถมมีชุมชนใหญ่รอบข้างอีก 6 ชุมชน กว่า 6 พันคนเสี่ยงติดเชื้อ พบมีครอบครัวตำรวจอยู่มากที่สุด
วันที่ 17 พฤษภาคม 2564 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า วันนี้ประเด็นสำคัญที่ประชุม ศบค. มีการพูดคุยกันระหว่างศูนย์ EOC ของกระทรวงสาธารณสุข และศูนย์ที่ทำเนียบรัฐบาล และพุ่งเป้าไปที่พื้นที่ของกรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัยของ กทม.ได้รายงานในที่ประชุมโดยการจัดกลุ่มการติดเชื้อ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ “กรุงเทพชั้นใน” เพื่อให้เห็นภาพรวม
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
โดยพื้นที่ดังกล่าว มีผู้ติดเชื้อสูงมาก ๆ หรือมากกว่า 6 คน ต่อจำนวนประชากรพันคน ได้แก่ เขตหลักสี่ ป้อมปราบศัตรูพ่าย ราชเทวี คลองเตย ห้วยขวาง จากก่อนหน้าซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่สีเหลือง มาจนถึงเดือนพฤษภาคม ได้เปลี่ยนเป็นสีส้ม และสีแดง
ซึ่งทาง ศปม. ศปค ได้ให้ทางสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน): หรือ GISTDA มาจัดทำแมปปิ้งพื้นที่ เหมือนที่เคยทำที่ จ.สมุทรสาคร ซึ่งทำให้เห็นภาพของการกระจาย และทำให้เห็นความหนาแน่นของพื้นที่ ของการติดเชื้อในประชากรในแต่ละพื้นที่
นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าวว่า ภาพเหล่านี้ถูกฉายขึ้นมาให้เห็นว่า ถ้าเป็นสีแดงจะอยู่ในระหว่างการควบคุมโรค จะยังพบผู้ป่วยต่อเนื่อง สีเหลืองเริ่มควบคุมได้ อยู่ระหว่างการเฝ้าระวัง ไม่พบผู้ป่วยในช่วง 14 วันที่ผ่านมา คือเคยเจอมาก่อนและหายไป
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพื้นที่ของ กทม.มีประชากรรวมกว่า 10 ล้านคน ซึ่งรวมประชากรแฝงด้วย คือจำนวนประชากรตามสำมะโนประชากร 5.6 ล้านคน บวกกับประชากรแฝง 7-8 ล้านคน ตรงนี้จะทำอย่างให้แต่ละเขตมีความตระหนักรู้ ทั้งตัวประชาชน และผู้ประกอบการ โดยแบ่งออกมา 4 เขต และเขตที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และเพิ่มขึ้นเร็ว 25 เขต (ขวาบน) มีปริมาณการระบาดมาก แต่เพิ่มช้ามี 6 เขต ส่วนปริมาณที่ระบาดไม่มาก แต่เพิ่มเร็วมี 17 เขต และปริมาณการระบาดไม่มากและเพิ่มช้า มี 2 เขต
“เพราะฉะนั้นจะอยู่ตรงไหนก็แล้วแต่ให้ดึงมาเป็นสีเขียวให้ได้ อันนี้เป็นเป้าหมายของทั้งหมด 50 เขต เราต้องสื่อสารถึงประชาชนทุกคน รวมทั้งเจ้าหน้าที่บุคลากรพร้อม ๆ กันได้” นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าวและว่า
กทม.จับตา 28 คลัสเตอร์ กระจาย 19 เขต
ทั้งนี้ กทม.ได้รายงานว่า ตอนนี้สถานการณ์การระบาดยังคงมีอยู่ทั้งหมด 28 คลัสเตอร์ กระจายอยู่ใน 19 เขต ได้แก่ 1.ดินแดง 2.วัฒนา 3.คลองเตย 4.หลักสี่ 5.ลาดพร้าว 6.ราชเทวี 7.พระนคร 8.ป้อมปราบฯ 9.สวนหลวง 10.ปทุมวัน 11.สาทร 12.สัมพันธวงศ์ 13.จตุจักร 14.บางรัก 15.ประเวศ 16.วังทองหลาง 17.รามคำแหง 18.บางกอกน้อย และ 19.ห้วยขวาง
โดยคลัสเตอร์ที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นต่อวันของผู้ติดเชื้อสูงที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.แคมป์ก่อสร้าง เขตหลักสี่ 2.แฟลตดินแดง เขตดินแดง 3.ตลาดห้วยขวาง เขตดินแดง 4.คลองถมเซ็นเตอร์ และวงเวียน 22 ก.ค. เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และ 5.แคมป์คนงานก่อสร้าง เขตวัฒนา
“จะสังเกตได้ว่าเรื่องของแคมป์คนงานเป็นเรื่องที่ให้ความสำคัญสูงมาก มีการทำการตรวจเชิงรุกไปทั่วกรุงเทพฯ พบว่า ตรวจเชิงรุกไป 5,642 ราย พบติดเชื้อ 371 ราย ตัวเลขการพบเชื้ออยู่ที่ 6.58% คือลงไปตรวจเชิงรุก 100 คน เจอการติดเชื้อเกือบ 7 คน ตอนนี้นำเรียนว่ากระจายตัวอยู่ทั่วกรุงเทพมหานครที่กำลังเจอกัน” นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าว (ตามตาราง)
ผงะแคมป์หลักสี่ มีแคมป์อื่น-subcontract อีกอื้อ
นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมได้นำเรื่องแคมป์คนงานมา 1 กรณี คือแคมป์คนงานก่อสร้างที่หลักสี่ ของบริษัททเอกชนรายหนึ่ง ตอนนี้ติดเชื้อไป 885 ราย คิดเป็น 53% และเนื่องจากงานยังไม่แล้วเสร็จยังมีแคมป์อื่น ๆ อีก ตรงนั้นยังไม่เท่าไร แต่สิ่งที่เรากังวลใจคือ มีบริษัทที่เรียกว่าเป็น subcontract หรือมีบริษัทรับเหมาช่วงต่อไปอีก 11 บริษัท และยังมีบริษัทรับเหมาอื่น ๆ อีก ตอนนี้กำลังติดตามกันอยู่ ทั้ง 8 แคมป์อื่น ๆ นี่คือแผนการที่เราจะต้องเข้าไปดู
ชุมชนรอบข้าง 6 พันกว่าคนเสี่ยง “ครอบครัวตำรวจ” เพียบ
นอกจากแคมป์คนงานแล้ว สิ่งที่เราต้องการสื่อสารคือ ยังมีชุมชนรอบข้าง ที่เกิดการติดเชื้อจำนวนมากอีก 6 ชุมชน ได้แก่ 1.ชุมชนแฟลตตำรวจอิสระ (214 คน) 2.ชุมชนอยู่แล้วรวย 560 คน 3.ชุมชนแฟลตตำรวจกลางฯ 3,300 คน 4.ชุมชนกองบัญชาการศึกษา 750 คน 5.ชุมชนคนรักถิ่น 490 คน และ 6.ชุมชนเปรมสุขสันต์ 804 คน รวมทั้งหมด 6,118 คน อยู่ในชุมชนเหล่านี้
“ที่ต้องเอ่ยนามเพื่อที่จะเตือนไปยังพี่น้องประชาชนทุกท่านว่าตระหนัก แต่ไม่ตระหนก ขอให้ทุกท่านได้ช่วยกันดูแล เพื่อที่จะดูแลสุขอนามัยส่วนตัว ครอบครัว เพื่อป้องกัน เพราะพวกท่านอยู่ในละแวกพื้นที่ที่จะติดเชื้อ” นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าว
โฆษก ศบค. กล่าวต่อว่า เมื่อเช้าทาง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาฯ สมช. ได้ต่อสายตรงไปยัง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ซึ่งได้มีการพูคคุยกัน และให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ไปช่วยกันดูแล เพราะมีชุมชนที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานราชการต่าง ๆ อยู่ด้วย
“ที่ต้องการสื่อสารนี้โดยเร็ว เพราะว่าระบบของทางราชการอาจจะต้องใช้เวลากันพอสมควร ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่แค่ระบบราชการ กทม.มีระบบที่ซับซ้อนมาก มีประธานชุมชน ซึ่งเป็นบุคคลที่สำคัญมากที่จะช่วยให้ดูแลประชาชน ต้องช่วยกันอย่างเต็มที่” โฆษก ศบค.กล่าว และว่า
ตอนนี้ได้มีคำสั่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่โรคติดต่อได้เข้าไปดำเนินการจำกัดพื้นที่ ปรับปรุงพื้นที่ ควบคุมดูแลให้ถูกสุขลักษณะ ห้ามเข้าออกพื้นที่รวมทั้งควบคุมการเคลื่อนย้ายของแรงงานในแคมป์ ทั้งคนไทยและคนต่างด้าว ด้วยการลดการเคลื่อนที่ของประชากรเป็นอย่างน้อย 14 วัน
สำหรับมาตรการควบคุมโรคแคมป์ก่อสร้างอิตาเลียนไทย ได้แก่ 1.การเฝ้าระวังในแคมป์ 2.การแยกกักผู้ป่วย 3.การกักกันผู้มีสัมผัสเสี่ยงสูง 4.การเฝ้าระวังนอกแคมป์ 5.การซีลด์ (sealed) แคมป์ก่อสร้าง 6.การจัดการสิ่งแวดล้อมในแคมป์ 7.การบริหารวัคซีนในพื้นที่ระบาด และ 8.การติดตามบริษัท ub-contact 11 บริษัท และสถานที่ก่อสร้าง 2 แห่ง ซึ่งขอให้ไปแจ้งสำนักอนามัยของ กทม.ด้วย เพื่อติดตามไม่ให้เกิดการกระจายของโรค
