โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้: อากาศ-น้ำประปา เป็นอย่างไร ? เช็กที่นี่

กิ่งแก้วไฟไหม้ น้ำประปา
ภาพโดย Mietzekatze จาก Pixabay

กรมประชาสัมพันธ์ เผยข้อมูลสัมภาษณ์ กรมควบคุมมลพิษ และการประปานครหลวง ต่อสภาพของอากาศและน้ำประปา บริเวณพื้นที่รอบโรงงาน หมิงตี้ฯ กิ่งแก้ว

วันที่ 6 กรกฎาคม 2564 เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ ได้เผยข้อมูลผ่านทางเฟซบุ๊กถึงกรณีการควบคุมมลพิษทางสภาพอากาศและน้ำ เหตุโรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติกไฟไหม้ ที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ โดยมีข้อความว่า

กรมควบคุมมลพิษสั่งเฝ้าระวังมลพิษทั้งทางอากาศ-แหล่งน้ำ 3 วัน ในพื้นที่ จากเหตุไฟไหม้-ระเบิด รง.พลาสติก ย่านกิ่งแก้ว 21 สั่งบล็อกรัศมี 1 กม.ระวังเข้ม หวั่นฝนตกทำสารพิษลงใต้ดิน

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เผยว่า ได้ส่ง จนท.พร้อมใช้เครื่องมือเพื่อตรวจสอบสภาพอากาศในพื้นที่ ที่เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานพลาสติก จนเกิดระเบิด ในย่านกิ่งแก้ว 21 อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวานนี้ (5 ก.ค.) สภาพอากาศโดยภาพรวมดีขึ้น โดยในรัศมี 1 กิโลเมตรแรกจะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

สารเคมีที่ต้องระวัง คือ โซเวนต์ ที่ติดไฟได้ง่าย และสารสไตรีนโมโนเมอร์ (องค์ประกอบทำเม็ดพลาสติก) เมื่อเกิดลุกไหม้ไฟจะปลดปล่อยสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย สามารถติดตามและตรวจสอบคุณภาพอากาศที่ได้ http://air4thai.pcd.go.th/

“ต้องเฝ้าติดตามด้านมลพิษ 1-3 วัน ขณะนี้ที่น่าเป็นห่วง คือ กรณีมีฝนตกลงมา อาจจะชะสารเคมีลงใต้ดิน แหล่งน้ำ หรือท่อระบายน้ำ ซึ่งจะยากต่อการควบคุม ซึ่งอาจต้องเข้าไปบำบัดเพื่อแก้ปัญหาต่อไป” อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ทางเฟซบุ๊ก สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ ได้ออกมาแจ้งเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้น้ำประปาที่อยู่ในรัศมีควันดำจากเหตุโรงงานไฟไหม้ ว่าน้ำประปามีความปลอดภัยและสามารถใช้งานได้ เพราะพื้นที่เสี่ยงอยู่ห่างจากโรงงานผลิตน้ำดิบ โดยมีเนื้อหาดังนี้

กปน. ยืนยันน้ำประปาปลอดภัย เหตุระเบิดโรงงานกิ่งแก้ว 21 ไม่กระทบคุณภาพน้ำ

นายรักษ์ศักดิ์ สุริยหาร รองผู้ว่าการ การประปานครหลวง (กปน.) กล่าวว่า จากกรณีเกิดการระเบิดของโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก ย่านกิ่งแก้ว 21 นั้น กปน.ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ย้ำว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่ส่งผลต่อคุณภาพน้ำประปา เพราะพื้นที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากแหล่งน้ำดิบ โรงงานผลิตน้ำประปา ของ กปน. และคลองประปา มากกว่า 30 กม. ซึ่งอยู่นอกพื้นที่เสี่ยงภัย

กปน.มีทีมนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและเฝ้าตรวจสอบคุณภาพน้ำประปาอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชม. และมีแผนรับมือเพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นไว้พร้อมแล้ว น้ำประปาที่ผลิตจากโรงงานผลิตน้ำจะถูกลำเลียงด้วยระบบปิด ผ่านทางท่อประปา ซึ่งเป็นไปตามแผนน้ำประปาปลอดภัย (water safety plan (WSP)

สารเคมีไม่สามารถปนเปื้อนในน้ำประปาได้ และได้ทำการตรวจสอบแนวท่อประปาบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ พบว่าไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด จึงขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าน้ำประปาของ กปน. สะอาด ปลอดภัย