ศบค. เคาะมาตรการ “แฟกตอรี่แซนด์บอกซ์” ช่วยแรงงาน 3 ล้านราย

โรงงานผลิต-ส่งออก

ศบค. เห็นชอบโครงการ “Factory Sandbox” เคลื่อนเศรษฐกิจ-ส่งออก ปกป้องฐานส่งออก 700,000 ล้านบาท อุ้มแรงงาน 3 ล้านราย นำร่อง 4 จังหวัด ตรวจคัดกรอง-ฉีดวัคซีน 100% นับแสนราย

วันที่ 16 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 12/2564 ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference)

ที่ประชุมมีมติเห็นชอบมาตรการป้องกันควบคุมพื้นที่เฉพาะ (Bubble & Seal) และโครงการนำร่องการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดในโรงงาน (Factory Sandbox)

โดยโครงการดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อตรวจคัดกรองเชิงรุก และฉีดวัคซีนให้กับลูกจ้างครบ 100% เพื่อเป็นการรักษาการจ้างงานและดำเนินธุรกิจส่งออกให้ดำเนินต่อไปได้ โดยที่ประชุมมีข้อสรุปทั้ง 2 โครงการ ดังนี้

1. มติรับทราบแนวทางการดำเนินงาน คู่ขนาน 2 มาตรการ

  • มาตรการป้องกันควบคุมมาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ (Bubble & Seal)
  • โครงการนำร่องการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดในโรงงาน (Factory Sandbox)

2. การดำเนินงาน 4 กระทรวง

  • กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับ กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข ดำเนินมาตรการ Bubble and Seal ในสถานประกอบการ
  • กระทรวงแรงงาน ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข ดำเนินโครงการ Factory Sandbox
  • หน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุนและร่วมดำเนินการฯ
  • ศบค. จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการด้านการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสถานประกอบการ และโรงงานอุตสาหกรรม

โรงงาน 4 จังหวัด เฟสแรก แรงงาน 474,109 คน

สำหรับสถานประกอบการที่เข้าเกณฑ์โครงการ Factory Sandbox ในเฟสแรก รวมทั้งสิ้น 4 จังหวัด โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นสถานการประกอบการภาคการผลิตส่งออกที่มีจำนวนผู้ประกันตนเกิน 500 คน ขึ้นไป ซึ่งจากข้อมูลพบว่า ผู้ประกันตนในสถานประกอบ 4 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 474,109 คน มีดังนี้

1. นนทบุรี 

  • จำนวนสถานประกอบการ (ขนาด 500 คนขึ้นไป ในภาคการผลิต-ส่งออก) : 21 แห่ง จากทั้งสิ้น 20,260 แห่ง
  • จำนวนผู้ประกันตน (ขนาด 500 คนขึ้นไป ในภาคการผลิต-ส่งออก) : 19,600 ราย จากทั้งสิ้น 351,474 ราย
  • จำนวนผู้ประกันตนที่ได้รับการฉีดวัคซีนในกลุ่มกิจการ : 2,596 ราย

2. ปทุมธานี 

  • จำนวนสถานประกอบการ (ขนาด 500 คนขึ้นไป ในภาคการผลิต-ส่งออก) : 76 แห่ง จากทั้งสิ้น 18,397 แห่ง
  • จำนวนผู้ประกันตน (ขนาด 500 คนขึ้นไป ในภาคการผลิต-ส่งออก) : 107,681 ราย จากทั้งสิ้น 443,822 ราย
    จำนวนผู้ประกันตนที่ได้รับการฉีดวัคซีนในกลุ่มกิจการ : 4,073 ราย

3. สมุทรสาคร 

  • จำนวนสถานประกอบการ (ขนาด 500 คนขึ้นไป ในภาคการผลิต-ส่งออก) : 107 แห่ง จากทั้งสิ้น 11,821 แห่ง
  • จำนวนผู้ประกันตน (ขนาด 500 คนขึ้นไป ในภาคการผลิต-ส่งออก) : 152,047 ราย จากทั้งสิ้น 441,307 ราย
  • จำนวนผู้ประกันตนที่ได้รับการฉีดวัคซีนในกลุ่มกิจการ : 2,801 ราย

4. ชลบุรี 

  • จำนวนสถานประกอบการ (ขนาด 500 คนขึ้นไป ในภาคการผลิต-ส่งออก) : 183 แห่ง จากทั้งสิ้น 23,996 แห่ง
  • จำนวนผู้ประกันตน (ขนาด 500 คนขึ้นไป ในภาคการผลิต-ส่งออก) : 194,781 ราย จากทั้งสิ้น 734,065 ราย
  • จำนวนผู้ประกันตนที่ได้รับการฉีดวัคซีนในกลุ่มกิจการ : 32,798 ราย

สถานประกอบการ 4 จังหวัด “สนใจ” เข้าร่วมเฟสแรก

ส่วนสถานประกอบการใน 4 จังหวัด ที่ผ่านเกณฑ์และ “สนใจ” เข้าร่วม Factory Sandbox ในเฟสแรก มีดังนี้

  • นนทบุรี : 8 แห่ง รวมลูกจ้าง 6,559 ราย
  • ปทุมธานี : 19 แห่ง รวมลูกจ้าง 49,407 ราย
  • สมุทรสาคร : 12 แห่ง รวมลูกจ้าง 51,354 ราย
  • ชลบุรี : 21 แห่ง รวมลูกจ้าง 31,075 ราย

Factory Sandbox 3 จังหวัด เฟสสอง

นอกจากนี้ ยังมีจังหวัดที่เตรียมเข้าร่วมโครงการ Factory Sandbox ในเฟส 2 ทั้งสิ้น 3 จังหวัด ดังนี้

  • อยุธยา
  • ฉะเชิงเทรา
  • สมุทรปราการ

Factory Sandbox คืออะไร

Factory Sandbox เป็นแนวคิดในการจัดการโครงสร้างและกระบวนการในลักษณะ “เศรษฐศาสตร์สาธารณสุข” ที่มุ่งเป้าดำเนินการควบคุมคู่กันระหว่าง สาธารณสุข และเศรษฐกิจ โดยใน Sandbox มุ่งเป้าไปที่โรงงานภาคการผลิตส่งออกขนาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นกลไกหลักที่พยุงประเทศให้อยู่ได้ในปัจจุบัน โดยมีด้วยกันอยู่ 4 Sector ได้แก่ ยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อาหาร และอุปกรณ์การแพทย์

Factory Sandbox : ตรวจ รักษา ดูแล ควบคุม

แผนการดำเนินงานสำหรับสถานประกอบการที่เข้าร่วม Factory Sandbox มีด้วยกัน 4 ขั้นตอน ดังนี้

  • ตรวจ : ดำเนินการตรวจคัดกรองด้วย RT-PCR 100% เพื่อแยกคนป่วยไปรักษาทันทีและดำเนินการตรวจ Self-ATK ทุกสัปดาห์
  • รักษา : จัดให้มี FAI, Hospitel, โรงพยาบาลสนาม และ ICU สำหรับผู้ป่วย เขียว เหลือง และแดง
  • ดูแล : ดำเนินการฉีดวัคซีนให้แรงงาน โดยเน้นกลุ่ม 7 โรคเสี่ยง คนท้อง ออกใบรับรอง “โรงงานสีฟ้า” เพื่อสร้างความมุ่นใจให้แก่ผู้ลงทุน
  • ควบคุม : ดำเนินการตามมาตรการ Bubble and seal และ DMHTT

เงื่อนไขโรงงานเข้าร่วม Factory Sandbox

ประเภทสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ มีดังนี้

  1. สถานประกอบกิจการที่ผลิตเพื่อการส่งออก
  2. อยู่ในจังหวัด ชลบุรี นนทบุรี สมุทรสาคร ปทุมธานี อยุธยา ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ
  3. มีลูกจ้างตั้งแต่ 500 คนขึ้นไป
  4. ต้องดำเนินการ FAI (Factory Accommodation Isolation) ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5
  5. ดำเนินการ Bubble and Seal โดยกำหนดให้ลูกจ้างเดินทางกลับที่พักโดยตรงไม่แวะระหว่างทาง และอยู่แต่ในเคหะสถานเท่านั้น
  6. ตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR จำนวน 1 ครั้งให้ลูกจ้างทั้งหมด และตรวจแบบ Self-ATK (Antigen Test Kit) ทุก 7 วัน
  7. ฉีดวัคซีนให้ลูกจ้างที่ตรวจ Swab Test ทุกคน ยกเว้นคนที่ติดเชื้อฯ ให้เข้ารับการรักษา ส่วนค่าบริการฉีดวัคซีนสถานประกอบการต้องเป็นผู้จ่ายให้แก่สถานพยาบาล
  8. สถานประกอบการทำหนังสือยินยอมดำเนินการตามแนวทางของสถานกระทรวงแรงงานและจังหวัด

4 เป้าหมาย Factory Sandbox

ทั้งนี้ ผลที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการ Factory Sandbox มีดังนี้

  1. รักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ในภาคการผลิตส่งออก ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่า 700,000 ล้านบาท
  2. ป้องกันคลัสเตอร์โรงงานจากการติดเชื้อ สร้างสมดุล ระหว่างมาตรการทางด้านสาธารณสุข และเศรษฐกิจ ของประเทศให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้
  3. สร้างความเชื่อมั่นให้กับ นักลงทุนทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ซึ่ง ณ ปัจจุบันระบบ Supply Chain ของประเทศคู่แข่งกำลังปิดตัวลง
  4. รักษาระดับการจ้างงาน ในภาคการผลิตส่งออกสำคัญได้กว่า 3 ล้านตำแหน่ง