นนทบุรี รั้งท้าย ฉีดวัคซีนต่ำสุดจังหวัดปริมณฑล “กทม.-ปทุมธานี” นำโด่ง

นนท์พร้อม ฉีดวัคซีน

ศบค.เผย “นนทบุรี” รั้งท้าย ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรได้ต่ำสุดในจังหวัดสีแดงเข้ม กทม.และปริมณฑล ยังไม่ถึง 50% ขณะที่อีก 4 จังหวัดฉีดเกินไปแล้ว เฉพาะ”กลุ่มผู้สูงอายุ” กทม.และปทุมธานีนำโด่ง ฉีดมากสุดเกินกว่า 70%

วันที่ 13 กันยายน 2564 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนว่า สำหรับผู้ขอรับการฉีดวัคซีน ณ วันที่ 12 กันยายน 2564 มีผู้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 109,213 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 106,570 ราย เข็มที่ 3 จำนวน 106 ราย

และระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 12 กันยายน 2564 มีผู้รับวัคซีนสะสมทั้งหมด จำนวน 40,276,356 โดส รวมๆแล้วเรามีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 คิดเป็นสัดส่วน 37.9% ของจำนวนประชากรแล้ว ส่วนเข็มที่สองคิดเป็น 17.2% ของจำนวนประชากร(ตามกราฟิกท้ายข่าว)

อย่างไรก็ตามเมื่อแยกเป็นความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนจำแนกตามจังหวัด และการได้รับวัคซีนตามเป้าหมายพบว่า กลุ่มจังหวัดกทม.และปริมณฑล ในส่วนจังหวัดกรุงเทพมหานคร(กทม.) สมุทรสาคร สมุทรปราการ พบว่ามีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากกว่า 50% มีเพียง จ.นนทบุรีจังหวัดเดียวที่ยังไม่ครอบคลุมประชากรเกิน 50% ในกลุ่มจังหวัดปริมณฑล

นอกจากนี้เมื่อเทียบความครอบคลุมในกลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 50-69 ปี และผู้สูงอายุที่มากกว่า 70 ปี ก็ยังปรากฎว่าจ.นนทบุรี ยังมีการฉีดวัคซีนที่ไม่ครอบคลุมกลุ่มผู้สูงอายุดังกล่าวเช่นกัน มีเพียง 4 จังหวัดที่ครอบคลุมได้แก่ กทม. ปทุมธานี สมุทรสาคร และสมุทรปราการ

“นนทบุรี ซึ่งอยู่ในเขตปริมณฑลยังไม่ถึงกลุ่มเป้าหมาย ได้แค่ 40-49% ก็ต้องขอแรงทุกท่านช่วยกันกระตุ้นและพยายามไปให้ถึงให้ได้ รวมถึงอยุธยา เพชรบุรี พังงา และระนอง ส่วนกลุ่มผู้สูงอายุที่ครอบคลุม70% แล้วมี กรุงเทพ ปทุมธานี ภูเก็ต ระนอง ที่เหลือยังมีอีกหลายจังหวัดก็ฝากให้ทุกท่านได้ช่วยกันเพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย” นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าว

ขณะที่จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 19 จังหวัด มีฉะเชิงเทรากับชลบุรี ที่มีการฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรเกิน 50% ไปแล้ว รวมทั้งที่ภูเก็ตด้วย และยังมีอีกหลายจังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนครอบคลุมกลุ่มผู้สูงอายุอีกหลายจังหวัด(ตามตาราง)

ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อ 10 อันดับแรกวันนี้ อันดับหนึ่งยังเป็น 1.กทม. 3,329 ราย 2.ชลบุรี 650 ราย 3.ระยอง 647 ราย 4.นนทบุรียังเพิ่มขึ้น 468 ราย 5.สมุทรปราการ 443 ราย 6.สมุทรสาคร 402 ราย 7.นราธิวาส 401 ราย 8.ยะลา 366 ราย 9.สงขลา 301 ราย และ10.ราชบุรี 299 ราย