ศบค.กางไทม์ไลน์เปิดพื้นที่ท่องเที่ยว “สีฟ้า” ดีเดย์ 1 ต.ค. ปูพรมยาวถึงปี’65

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน

ศบค.กางไทม์ไลน์ เปิดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวใหม่ “สีฟ้า” มีผล 1 ต.ค.นี้ ส่วนใหญ่เป็นเกาะด้านการท่องเที่ยว ส่วน 1 พ.ย.เฟสสอง เปิดเพิ่มอีก 10 จังหวัด รวม กทม.และหัวเมืองทางท่องเที่ยวหลัก ปลายปีเพิ่มอีก 20 จังหวัด และต้นปี’65 อีก 13 จังหวัดที่มีพรมแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน

วันที่ 27 กันยายน 2564 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศประจำวันว่าข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 มีผู้ป่วยรายใหม่ 10,288 ราย หายป่วยแล้ว 1,407,975 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,543,063 ราย เสียชีวิตสะสม 16,275 ราย

ส่วนข้อมูลสะสมตั้งแต่ปี 2563 มีผู้หายป่วยแล้ว 1,435,401 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,571,926 ราย และเสียชีวิตสะสม 16,369 ราย

ยอดป่วยหนัก-ใส่ท่อช่วยหายใจลด

วันนี้มีผู้ป่วยกำลังรักษาตัวอยู่ 120,156 ราย อยู่ใน รพ. 33,759 ราย อยู่ในรพ.สนามและอื่น ๆ 86,397 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 3,341 ราย อาการหนัก 728 ราย

สำหรับผู้ขอรับการฉีดวัคซีน ข้อมูล ณ วันที่ 26 กันยายน 2564 มีผู้รับการฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวน 62,276 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 97,061 ราย เข็มที่ 3 จำนวน 16,586 ราย เข็มที่ 4 จำนวน 3 ราย และระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 26 กันยายน 2564 มีผู้รับวัคซีน สะสมทั้งหมด จำนวน 50,566,651 โดส

ขณะที่สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก ข้อมูล ณ วันจันทร์ที่ 27 กันยายน 2564 เวลา 10.00 น. มียอดผู้ติดเชื้อรวม 232,596,030 ราย อาการรุนแรง 93,240 ราย รักษาหายแล้ว 209,219,177 ราย และเสียชีวิตรวม 4,761,864 ราย

ขณะที่อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับ 1. สหรัฐอเมริกา 🇺🇸 จำนวน 43,750,983 ราย 2. อินเดีย จำนวน 33,678,243 ราย 3. บราซิล จำนวน 21,351,972 ราย 4. สหราชอาณาจักร จำนวน 7,664,230 ราย 5. รัสเซีย จำนวน 7,420,913 ราย

ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 28 ของโลก จำนวน 1,571,926 ราย

ห่วงผู้ติดเชื้อจังหวัดชายแดนใต้

ส่วน 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับ 1 ยังเป็น กทม. จำนวน 1,785 ราย ซึ่งลดลงจากก่อนหน้าค่อนข้างมาก แต่ก็ยังยืนอยู่ในระดับหลักพันกว่ารายต่อวัน

รองลงมาเป็น จ.สมุทรปราการ 607 ราย ชลบุรี 587 ราย สงขลา 466 ราย ยะลา 445 ราย ระยอง 355 ราย ปัตตานี 305 ราย นราธิวาส 300 ราย สมุทรสาคร 291 ราย ราชบุรี 274 ราย

“การติดเชื้อตัวเลขโดยรวมกรุงเทพฯและปริมณฑล และต่างจังหวัดดูเหมือนลดน้อยลง แต่ว่าสิ่งที่เป็นตัวเลขที่น่ากังวลใจก็คือ จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งตอนนี้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขไปอยู่ในพื้นที่ เพื่อไปดูแลสั่งการในเรื่องของการติดเชื้อในพื้นที่อยู่”

“อย่างไรก็ตามในภาพรวมของผู้ติดเชื้อรายใหม่และเสียชีวิตแนวโน้มยังคงลดลง แต่ยังต้องคงมาตรการหลังจากวันที่ 30 กันยายน 2564 และยังคงต้องเพิ่มมาตการป้องกันส่วนบุคคลและมาตรการทางสังคม เพื่อเปิดประเทศของเราต่อไป” นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าวย้ำ

ส่วนการแถลงข่าวในส่วนของมติที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศบค.เป็นประธาน โดยในเรื่องใหญ่ คือ การต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 2 เดือน การปรับเวลาเคอร์ฟิวจาก 4 ทุ่มถึงตี 4 การผ่อนคลาย 10 กิจการกิจกรรมเพิ่มเติม รวมถึงการลดเวลาการกักตัวของผู้ที่เดินทางเข้าในราชอาณาจักรแล้ว

คลิกอ่าน>> ศบค.เคาะ ขยาย พรก.ฉุกเฉิน 2 เดือน ลดเคอร์ฟิว เปิดห้าง-ร้านอาหารถึง 3 ทุ่ม

นำร่องเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวสีฟ้า

นายแพทย์ทวีศิลป์เปิดเผยถึงมติที่ประชุม ศบค.เรื่องการเปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว หรือ “พื้นที่สีฟ้า” เพิ่มเติมว่า ตั้งแต่วันที่ 1-31 ตุลาคม 2564 ได้แก่ เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เขาหลัก เกาะยาว จ.พังงา และ เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ คลองม่วง ทับแขก จ.กระบี่

  • วันที่  1 พฤศจิกายน 2564 เปิดพื้นที่เพิ่มเติม 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จ.กระบี่ จ.พังงา (ทั้งจังหวัด) จ.ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน หนองแก) จ.เพชรบุรี (ชะอำ) จ.ชลบุรี (พัทยา บางละมุง จอมเทียน บางเสร่) จ.ระนอง เกาะพยาม จ.เชียงใหม่ (อ.เมือง แม่ริม แม่แตง ดอยเต่า) จ.เลย (เชียงคาน) และ จ.บุรีรัมย์ (เมือง)
  • และในช่วงปลายปี จะมีระยะที่ 2 อีก 20 จังหวัด หัวเมืองหลัก ได้แก่ เชียงรายแม่ฮ่องสอน ลำพูน แพร่ หนองคาย สุโขทัย เพชรบูรณ์ ปทุมธานี อยุธยา สมุทรปราการ ตราด ระยอง ขอนแก่น นครราชสีมา นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา ยาละ และนราธิวาส
  • ส่วนต้นปีหน้า หรือเดือนมกราคม 2565 จะมีอีก 13 จังหวัด ส่วนใหญ่เป็นจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ จ.สุรินทร์ สระแก้ว จันทบุรี ตาก นครพนม มุกดาหาร บึงกาฬ อุดรธานี อุบลราชธานี น่าน กาญจนบุรี ราชบุรี และสตูล

“พื้นที่ท่องเที่ยวสีฟ้าเหล่านี้ มีรายละเอียดเยอะ โดยสรุปพื้นที่สีฟ้าสามารถเปิดกิจการ กิจกรรมต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ทั้งเดินทางได้ บริโภคในร้านได้ เปิดกิจการ ทำกิจกรรมได้ตามปกติ ศูนย์การค้า ร้านเสริมสวย นวด เหมือนพื้นที่สีเขียว แต่ก็ต้องมีมาตรการบริหารจัดการ มาตรการเรื่อง Covid Free ด้วย” นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าว และว่า

แผนนี้เราวางแผนตั้งแต่ปลายปีจนถึงปีหน้า ถ้าเราทำได้ ไม่มีอัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้น แผนนี้จะถูกนำไปปฏิบัติและก็ขยายผลกลับมาสู่การเป็น นิว นอร์มอล หรือชีวิตวิถีใหม่ ส่วนโรคระบาดก็จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งเราก็ต้องอยู่กับเขาให้ได้

“โดยเฉพาะวัคซีนที่จะเข้ามาในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าก็จะเพิ่มขึ้นก็จะสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจของเรา โดยจะมีวัคซีนเข้ามาในปีนี้จำนวน 178.2 ล้านโดส ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงธันวาคม 2564” นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าว และว่า

สำหรับแผนการจัดหาวัคซีนซึ่งภายในปี 2564 จะมีการจัดหาได้ 178.2 ล้านโดส โดยในเดือนกันยายนรับเข้ามาแล้วทั้งซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า และไฟเซอร์ ทั้งหมด 16.3 ล้านโดส และเตรียมรับของซิโนฟาร์มอีก 10 ล้านโดส

เดือนตุลาคมจะเข้ามาอีกทั้งหมด 24 ล้านโดส และซิโนฟาร์มอีก 6 ล้านโดส เดือนพฤศจิกายนเข้ามาอีก 23 ล้านโดส และซิโนฟาร์มอีก 6 ล้านโดส และเดือน ธันวาคมเข้ามาอีก 24 ล้านโดส ซิโนฟาร์มอีก 12.5 ล้านโดส และโมเดอร์นาอีก 2 ล้านโดส

“รวมวัคซีนที่จะเข้ามาตั้งแต่เดือนกันยายน-ธันวาคมทั้งหมด 50 ล้านโดส และเมื่อรวมกับที่เข้ามาก่อนหน้านี้ 126.2 ล้านโดส ก็จะเป็น 178.2 ล้านโดส ตามแผนที่วางไว้” นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าว (ดูตารางท้ายข่าว)