ศบค.นำเข้าแรงงาน 4.2 แสนคน เปิดช่องสถานบันเทิงเปิดก่อน 16 ม.ค. 65

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน

ศบค.เตรียมนำเข้าแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน 4.2 แสนคนช่วยฟื้นเศรษฐกิจประเทศ ใช้สถานที่กักตัว 5 จังหวัด แก้ปัญหาลักลอบนำเข้า มีผล 1 ธ.ค.2564 นี้ ส่วนเปิดสถานบันเทิงยังไม่ปิดประตู โฆษกศบค.แย้มยังมีลุ้นเปิดก่อนปีใหม่ หากผู้ประกอบการให้ความร่วมมือดี พร้อมสั่งกระทรวงแรงงานสำรวจและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

วันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) แถลงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อประจำวันว่า สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 ผู้ป่วยรายใหม่ 6,559 รายหายป่วยแล้ว 1,966,538 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,066,023 ราย เสียชีวิตสะสม 20,551 ราย

ส่วนข้อมูลสะสมตั้งแต่ปี 2563 หายป่วยแล้ว 1,993,964 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,094,886 ราย เสียชีวิตสะสม 20,645 ราย

ส่วนผู้ขอรับการฉีดวัคซีน ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 มีผู้รับการฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวน 98,118 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 146,673 ราย และเข็มที่ 3 จำนวน 21,323 ราย และระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 25 พฤศจิกายน 2564 มีผู้รับวัคซีน สะสมทั้งหมด จำนวน 90,735,069 โดส

ปรับพื้นที่โซนสี-ขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯต่ออีก 2 เดือน

นายแพทย์ทวีศิลป์ แถลงรายละเอียดเพิ่มเติมถึงผลประชุมของศบค.ชุดใหญ่ว่า วันนี้เรื่องแรกมีการขยายการบังคับใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯทั่วราชอาณาจักร เป็นครั้งที่ 15 ด้วยเหตุผลของการควบคุมโรคเป็นหลัก โดยให้ขยายระยะเวลาการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปอีก 2 เดือน หรือมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564-31 มกราคม 2565

เรื่องที่ 2 เป็นเรื่องของการปรับพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร โดยยกเลิกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 6 จังหวัด และปรับมาเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดรวม 23 จังหวัด ส่วนพื้นที่อื่นๆ เช่นพื้นที่ควบคุมยังคง 23 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง 24 จังหวัด พื้นที่สีฟ้านำร่องท่องเที่ยว 7 จังหวัด และพื้นที่เฝ้าระวังไม่มี โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป (ดูตารางประกอบ)

“พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 7 จังหวัด เดิมมี กรุงเทพมหานคร กระบี่ พังงา ภูเก็ต ตอนนี้เพิ่มจังหวัดกาญจนบุรี นนทบุรี และปทุมธานี ส่วนจังหวัดอื่นดำเนินการบางพื้นที่ใน 19 จังหวัด เป็นบางพื้นที่ บางอำเภอ ” นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าว และว่า เมื่อไม่มีพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดแล้วก็ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถานไป” นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าว

เรื่องที่ 3 เป็นเรื่องของการปรับมาตรการของการควบคุมโรคโควิดในกิจการสถานบันเทิง โดยในการประชุมครั้งนี้ใช้เวลาพอสมควรเนื่องจากเดิมเมื่อ 12 พ.ย. 2564 มีการขอให้เปิดกิจการสถานบันเทิง ซึ่งมีผับ บาร์ คาราโอเกะ จากเดิมท่านนายกฯไม่ได้บอกว่าจะภายในวันที่เท่าไร แต่มีแนวทางที่อยากจะให้เปิดได้ภายในเดือนธันวาคม 2564 นี้ แต่ในที่ประชุมดูตามสถานการณ์และอยากให้เปิดหลังปีใหม่

อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการ มีผู้ทำงานกลางคืนซึ่งได้รับผลกระทบจากตรงนี้ก็ได้มาขอให้มีการพิจารณาเปิดในเดือนธันวาคม ยื่นข้อเสนอให้กับเลขาฯสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ซึ่งมีการประชุมกันหลายครั้ง ทั้งคณะกรรมการด้านวิชาการด้านโรคติดต่อ พ.ศ.2558 คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ คณะที่ปรึกษาของศบค. ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีโรคติดเชื้อโควิด-19รวมถึงที่ประชุมของศปก.สบค. หลายรอบ

แย้มสถานบันเทิงยังมีลุ้นเปิดก่อนปีใหม่ หากร่วมมือดี

นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า ล่าสุดมีข้อคิดเห็นหลายข้อ 1.คือ ถ้าจะต้องเปิดมีความเสี่ยงหลายประเด็น โดยสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเอะ จะมีปัญหาเรื่องการถ่ายเทอากาศ เพราะห้องที่ปิด ติดแอร์ จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย 2.พฤติกรรมของบุคคลคือการดื่มและต้องเปิดหน้ากาก มีการพูดคุย มีละอองฝอยจากการพูดคุย และ3.ระยะเวลาที่อยู่ในสถานที่นั้นจะนานกว่าปกติหลายชั่วโมง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวล เห็นได้จากคลัสเตอร์สถานบันเทิงที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2563

ที่ประชุมมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง และอยากจะให้มองไปข้างหน้า ปีที่แล้วเราพลาดการฉลองปีใหม่ เพราะมีการติดเชื้อช่วงก่อนปีใหม่ไม่นาน และทำให้ภาพลักษณ์ของการส่งเสริมการท่องเที่ยวของเราขาดช่วงไป เพราะการประกาศในเรื่องของการฉลองปีใหม่ของประเทศเป็นเรื่องที่สำคัญ ครั้งนี้ทางกระทรวงสาธารณสุข คือ สธ. ศปก.ศบค. เสนอขึ้นมาขอให้ “เห็นควรดำเนินการตามแผนงานที่กำหนดไว้เดิม”

“อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมบอกว่าการกำหนดไว้เดิมคือ มกราคม 2565 ถึงค่อยเปิด ตรงนี้เราเห็นใจพี่น้องประชาชนที่ทำงานทางด้านสถานบันเทิง เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เอาคำว่า 16 มกราคม 2565 ออกไป แล้วดูความพร้อมเป็นระยะ ถ้าผู้ประกอบการ หรือผู้ที่ทำงานด้านสถานบันเทิงให้ความร่วมมือกันอย่างเต็มที่ อาจจะได้เร็วกว่า 16 มกราคม 2565 ก็ได้” นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าว และว่า

แต่ ณ ตรงนี้ อย่างที่บอกว่า อยู่ที่เรื่องของสิ่งแวดล้อม อยู่ที่ตัวบุคคล ตรงนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ก็ออกมาบอกว่ามาตรการควบคุมโรคสำหรับผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่อยากจะเปิดจะต้องมีเรื่องของ covid free setting ซึ่งจะเน้นเรื่องของมาตรการส่วนบุคคล เรื่องของลูกค้า เรื่องของสิ่งแวดล้อม ที่ต้องร่วมมือกันด้วย

เช่นเรื่องของการได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ การตรวจคัดกรองพนักงานด้วย ATK ทุก 3 วัน ขณะที่ลูกค้าต้องลงทะเบียนและแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนตามเกณฑ์และตรวจ ATK ด้วยตนเอง ขณะที่ สถานประกอบการก็จะต้องลงทะเบียนและทำการประเมินตนเองผ่านแพลตฟอร์ม Thai Stop Covid 2 Plus(TSC 2+) และควบคุมกำกับให้พนักงานประเมินตนเองผ่าน Thai Save Thai(TST) เพื่อปฏิบัติตามมาตรการ Covid Free Setting เป็นต้น

“ที่ประชุมแจ้งมาว่า เมื่อไร… ต้องทำให้ได้ แล้วเราก็จะได้เปิด ผู้ประกอบการต้องมีการเตรียมตัว เตรียมบุคคล เตรียมสถานที่ให้พร้อมโดยเร็ว ถ้าตอบคำถามกับคณะที่ปรึกษา หรือกระทรวงสาธารณสุขได้ในเรื่องต่างๆ ก็มั่นใจได้ว่ากิจการ กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงนี้จะได้กลับมา”

สั่งรมว.แรงงานสำรวจ-เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

อย่างไรก็ตามสำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการที่ยังไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ โฆษกศบค.กล่าวว่า ท่านนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทางกระทรวงแรงงานไปสำรวจผู้ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนายจ้างและลุกจ้างว่ามีจำนวนเท่าไร และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการคลัง สภาพัฒน์ กระทรวงแรงงาน ไปดูว่าจะเยียวยากันอย่างไรต่อไป

“ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในช่วงปีใหม่นี้มีความสำคัญสูงมาก ถ้าเราประคับประคองดูแลซึ่งกันและกัน จะทำให้การฉลองปีใหม่เกิดเป็นภาพระดับประเทศ ก็จะส่งเสริมอีกหลายๆธุรกิจ อีกหลายๆด้านที่จะทำให้ ประเทศไทยมีชื่อชั้น มีศักยภาพในการป้องกันโรคได้อย่างดี” โฆษกศบค.กล่าว

ผ่อนคลายเดินทางเข้าประเทศ-เปิดช่องทางบก-เรือเพิ่ม

ส่วนเรื่องที่ 4 เรื่องการปรับมาตรการในการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร หลักๆคือผู้ที่เดินทางเข้ามาในระบบ Test & Go หรือแบบไม่กักตัว ติดเชื้อน้อยมาก หรือคิดเป็น 0.08% เท่านั้น ขณะที่ค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ที่ 0.13% เท่านั้น โดยมีจำนวนต่างชาติที่เข้ามา 104,065 คน ติดเชื้อโควิด 135 คน หรือคิดเป็น 0.13% ตั้งแต่วันที่ 1-25 พ.ย.2564

สำหรับกระบวนการและขั้นตอนจากเดิมที่ต้องตรวจด้วยระบบ RT-PCR ทำให้คนไปรอตรงนั้นค่อนข้างมาก และต้องรอ 3-6 ชั่วโมง ทำให้เสียเวลา และต้องหาโรงแรมพักต่อ ต่อไปจะตรวจแบบ ATK เท่านั้น เพราะเขาตรวจแบบ RT-PCR มา 72 ชั่วโมงแล้ว ล่าสุดวันนี้ที่ประชุมของกระทรวงสาธารณสุขให้ตรวจแบบ ATK ได้แล้ว เมื่อผลออกแล้วก็เดินทางต่อได้เลย เป็นการอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชน

นอกจากนี้จะเปิดให้มีการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรผ่านทางบกได้ โดยนำร่องที่ด่านหนองคายก่อน เริ่ม 24 ธันวาคม 2564 นี้ ส่วนกรณีทางเรือจะต้องดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขก่อนลงจากเรือทั้งเรื่องของการได้รับวัคซีน เรื่องของการตรวจหาโควิดด้วยวิธี RT-PCR มีระบบการลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass เป็นต้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มลูกค้า หรือนักท่องเที่ยวเข้ามาได้ด้วย

ส่วนเวลาการพำนักในแซนด์บ็อกซ์ก็ลดลงด้วย ยกเว้นผู้ที่เข้ามาแบบผิดกฎหมายจะต้องถูกกักตัว 14 วันเหมือนเดิม ส่วนเด็กที่เข้ามาที่อายุต่ำกว่า 6 ปี ไม่ต้องมีผลตรวจ RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง แต่ผู้ปกครองต้องมีผล RT-PCR ไม่พบเชื้อ หรืออนุญาตให้เข้ามาเป็นครอบครัวได้

ส่วนการขอวัคซีนพาสปอร์ตสำหรับคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศสามารถดำเนินการได้แล้ว โดยใช้แอปฯหมอพร้อม ซึ่งสามารถคีย์ข้อมูลเข้าไปได้ ก็จะเป็นเอกสารที่อยู่ในมือถือได้เลย สามารถไปโชว์ได้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับประเทศที่เขาจะรับเอกสารในรูปแบบอิเล้กทรอนิกส์นี้ด้วย และไม่มีค่าใช้จ่าย เป็นของขวัญปีใหม่ ส่วนหากเป็นเอกสารรูปเล่มยังมีค่าธรรมเนียม 50 บาท

นำเข้าแรงงานเพื่อนบ้านถูกกฎหมาย 4.2 แสนคนฟื้นเศรษฐกิจ

นายแพทย์ทวีศิลป์ยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีความคืบหน้าในการนำเข้าแรงงานเข้าประเทศ โดยวันนี้ รมว.แรงงานได้นำเสนอที่ประชุมว่า ประเทศไทยมีเป้าหมายในการนำแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศตามระบบ เอ็มโอยูอย่างถูกกฎหมาย ไม่ต้องมีการลักลอบนำเข้าประเทศซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยง

โดยรมว.แรงงานนำเสนอว่าประเทศไทยมีเป้าหมายในการนำเข้าแรงงานจำนวน 424,703 คนจากการแจ้งของผู้ประกอบการในไทย โดยจะเปิดสถานที่ที่จะเป็นที่กักตัวไว้แล้ว 5 จังหวัด ได้แก่ที่ ตาก ระนอง หนองคาย มุกดาหาร และสระแก้ว ซึ่งเป็นด่านยอดนิยมที่แรงงานมากันอยู่แล้ว และมีการดำเนินการตามระบบ ตามกฎหมาย เป็นต้น โดยจะเริ่มดำเนินการใน 1 ธันวาคม 2564 น้

“ตอนนี้ได้พูดคุยกับประเทศต้นทาง ทั้งลาว กัมพูชา เมียนมา มีความคืบหน้า มีความเห็นสอดคล้องกัน สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ ผู้ประกอบการที่ลักลอบคนเข้าเมืองมาว่า ท่านไม่ต้องทำแล้ว อีกไม่นานนี้จะเข้าเมืองอย่างถูกกฎหมาย 4 แสนกว่าคน มาแล้วปลอดโรค ปลอดภัย และมาช่วยทำงานในประเทศไทยได้อย่างดี  4 แสนกว่าคนคุ้มแน่นอนกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ จากประเทศเพื่อนบ้านที่มาใช้แรงงานในประเทศเรา” นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าวในตอนท้าย