ในหลวง เสด็จวางศิลาฤกษ์ พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9 ราษฎรรับเสด็จแน่น

ในหลวง เสด็จวางศิลาฤกษ์ พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9 ราษฎรรับเสด็จแน่น

ในหลวงรัชกาลที่ 10 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จวางศิลาฤกษ์ พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9 ราษฎรรับเสด็จแน่น พร้อมใจโบกธง เปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” อย่างกึกก้อง

วันที่ 5 ธันวาคม 2564  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี โดยเสด็จในการนี้ด้วย

เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงอุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงกราบ ทรงศีล สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ถวายศีล จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังมณฑลพิธีวางศิลาฤกษ์

ทรงจุดเทียนทอง เทียนเงิน และธูป แล้วทรงจุดธูปหางปักที่เครื่องบวงสรวงสังเวย โหรหลวงลั่นฆ้องชัย พราหมณ์เป่าสังข์ พนักงานภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ ชาวพนักงานประโคมแตร ดุริยางค์ พระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว ทรงตั้งพระราชสัตยาธิษฐานถวายเครื่องราชสักการะ ทรงโปรยข้าวตอก ดอกไม้ ที่โต๊ะเครื่องบวงสรวงสังเวย แล้วทรงพระดำเนินไปยังแท่นวางศิลาฤกษ์

ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมแผ่นอิฐทอง นาก เงิน และแผ่นศิลาฤกษ์ แล้วทรงวางลงในหลุมศิลาฤกษ์ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ เสร็จแล้ว เสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายสมเด็จพระสังฆราช และพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์

ต่อจากนั้น เสด็จออกจากพลับพลาพิธี ไปทอดพระเนตรนิทรรศการอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ จัดแสดงผังแม่บทโครงการ แนวคิดหลักการออกแบบโครงการ การจัดเส้นทางการสัญจรในโครงการ และทัศนียภาพในโครงการ เสร็จแล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังบริเวณที่ทรงปลูกต้นไม้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปลูกต้นรวงผึ้งเป็นปฐมฤกษ์

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงปลูกต้นคำมอกหลวง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา
นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงปลูกต้นโมกหลวง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงปลูกต้นรัตนพฤกษ์ (คูณสายรุ้ง) เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี
ปลูกต้นสุพรรณิการ์ เสร็จแล้ว ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระบรมมหาราชวัง

อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร เกิดขึ้นจากพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ที่ทรงตั้งพระราชหฤทัยเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ให้เป็นแหล่งเรียนรู้แนวพระราชดำริของทั้งสองพระองค์

ผ่านองค์ความรู้ เรื่อง “ป่าและน้ำ” ซึ่งเป็นแนวคิดหลักในการออกแบบสวน และเป็นสถานที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ได้พระราชทานไว้ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของมนุษย์กับธรรมชาติ เสริมสร้างคุณภาพชีวิตทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เป็นสถานที่ศึกษาเรื่องสิ่งแวดล้อมเพื่อเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป

อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ สร้างบนพื้นที่อดีต “สนามม้านางเลิ้ง” เป็นที่ดินในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานให้เป็นสวนสาธารณะเพื่อประโยชน์สุขแก่ปวงชน ครอบคลุมพื้นที่ ๒๗๙ ไร่ โดยเริ่มพัฒนาแบบตั้งแต่พุทธศักราช ๒๕๖๑ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในพุทธศักราช ๒๕๖๗

อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ แห่งนี้ เป็นที่ตั้งของพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งเป็นหัวใจและศูนย์กลางของอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ มีแนวคิดการออกแบบที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

อาทิ สระน้ำรูปเลข ๙ และสวนป่าธรรมชาติ ที่สอดรับกับแนวคิดเรื่องป่าและน้ำ สะพานหมายเลข ๙ เป็นเส้นทางเดินภายในนำสู่พระบรมราชานุสาวรีย์ ฯ สะพานหยดน้ำพระทัย น้ำพระราชหฤทัยดั่งสายน้ำที่หล่อเลี้ยงคนไทยมาตลอด ๗๐ ปี สะพานไม้เจาะบากง จำลองสะพานไม้จากบ้านเจาะบากง อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เคยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงงานเมื่อพุทธศักราช ๒๕๒๔

และแก้มลิง พื้นที่รองรับน้ำในยามที่เกิดวิกฤตอุทกภัย บริเวณของอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ กว่า ๔,๕๐๐ ต้น จัดวางคล้ายคลึงป่าธรรมชาติ ปลูกไม้ที่มีความหมายและมีประโยชน์ อาทิ การปลูกพืชกรองฝุ่น การปลูกไม้โตเร็ว เพื่อสร้างร่มเงา ต้นไม้ประจำจังหวัด ไม้หายาก และพืชบำบัดน้ำ สร้างระบบนิเวศ

ที่สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน นอกจากจะให้ความรู้หลากมิติที่เข้าถึงได้ง่าย ผู้คนยังได้รับความสุขจากธรรมชาติ ภายในสวนยังมีเส้นทางเดินและวิ่ง ทางปั่นจักรยาน มีสนามออกกำลังกายกลางแจ้ง ลานกิจกรรมและนันทนาการ ลานริมน้ำ ร้านค้าจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ลานจอดรถ และส่วนอำนวยความสะดวก มีการใช้พลังงานทดแทน รวมถึงการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาบริหารจัดการเพื่อให้ความรู้แก่ประชาชน

ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในครั้งนี้ มีราษฎรจำนวนมากมารอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ภายในบริเวณพื้นที่อุทยาน
เฉลิมพระเกียรติฯ และตลอดสองฝั่งถนนที่เสด็จพระราชดำเนินผ่าน

โดยราษฎรต่างพร้อมใจกัน โบกธงชาติ โบกธงพระปรมาภิไธย “ว.ป.ร.” และธงพระนามาภิไธย “ส.ท.” พร้อมเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” อย่างกึกก้องด้วยความจงรักภักดี ต่างปลื้มปีติที่ได้ชมพระบารมี ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงโบกพระหัตถ์ และแย้มพระสรวลให้แก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ

ทั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ กองแพทย์หลวง สำนักพระราชวัง ร่วมกับโรงพยาบาลและหน่วยสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร ออกให้บริการด้านสาธารณสุข ดูแลรักษาพยาบาลเบื้องต้นแก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ กับทรงพระกรุณาโปรดเกล้า
โปรดกระหม่อมพระราชทาน เจลแอลกอฮอล์กับพิมเสนน้ำ และให้ตั้งโรงครัวพระราชทาน

เพื่อประกอบอาหารปรุงสุกใหม่ ถูกสุขอนามัย พระราชทานเลี้ยงแก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ ข้าราชการ เอกชน และประชาชนที่เข้าร่วมในพิธี ได้ร่วมมือช่วยกันปลูกต้นไม้เพิ่มเติม อีกจำนวน ๑๐๔ ต้น ๕๐ พันธุ์กล้าไม้ภายในอุทยานเพื่อให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมให้อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ แห่งนี้ เป็นสถานที่ศึกษาเรื่องสิ่งแวดล้อม เสริมสร้างคุณภาพชีวิต พัฒนาร่างกายและจิตใจ เป็นปอดแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งได้เรียนรู้พระราชกรณียกิจและแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรม
ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ต่อไป

สำหรับนิทรรศการอุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่จัดแสดงที่อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ (สนาม้านางเลิ้ง) จะเปิดให้ประชาชน
ได้เข้าชมจนถึงวันที่ 6 ธันวาคม 2564